ทหารปัดข้อเสนอย้ายครูไทยพุทธออกจากพื้นที่

ทหารปัดข้อเสนอย้ายครูไทยพุทธออกจากพื้นที่ แนะครู-ทหารต้องปรับความเข้าใจเรื่องการปฏิบัติตัว-ช่วงเวลาเดินทางเพื่อคุ้มครองครูได้เต็มที่

วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล  พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก เปิดเผยภายหลังการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงกลุ่มย่อย ที่มีนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้(6 ธ.ค.) เป็นการประชุมเพื่อหารือข้อสรุปในการจัดทำแผนงานด้านการพัฒนาให้มีความสอดคล้องกับงานด้านความมั่นคง เพื่อให้เป็นรูปแบบในการนำไปปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นรูปธรรม

 ซึ่งได้มีการทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามโครงสร้างของคณะกรรมการขับเคลื่ิิอนยุทธศาสตร์และแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้(กปต.)

ในเรื่องรายละเอียดของงานให้มีความชัดเจน และการนำงบประมาณลงไปพัฒนาพื้นที่ ซึ่งต้องมีการลงรายละเอียดและหารือกันแต่ละหน่วยงาน ทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้น เราจะต้องพยายามปรับแผนต่างๆไม่ให้เกิดเหตุการณ์หรือช่องว่าง แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ซึ่งส่วนราชการทั้งหมดก็มีความห่วงใยและพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด

เสนาธิการทหารบกกล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยของครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องมีการปรับความเข้าใจกับครูในพื้นที่นี้

ทั้งในเรื่องของการปฏิบัติตัวเพื่อให้มีความปลอดภัย และช่วงเวลาที่จะให้มีการดูแลโดย ก็ขอให้มีการประสานงานกับฝ่ายทหารถ้าต้องการเดินทางในช่วงเวลาใด ซึ่งจะทำให้เราสามารถดูแลครูได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ แผนการทำงานจะสำเร็จได้นั้น จะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องในแผนทุกส่วน ทั้งผู้ออกแผนและผู้ปฏิบัติเพื่อให้มีความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา 

ต่อข้อถามถึงกรณีที่สมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาสจะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส

ให้ย้ายครูไทยพุทธออกจากพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย ไปสอนในพื้นที่ปลอดภัย พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า กอ.รมน.มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เราก็พยายามทำให้ครูไทยพุทธและไทยมุสลิมสามารถทำงานร่วมกันในพื้นที่ได้ โดยต้องไม่ให้มีการย้ายครูไทยพุทธออกจากพื้นที่ เพราะพื้นที่นี้ก็เป็นแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะใครนับถือศาสนาใดก็สามารถอยู่ร่วมกันได้...