คู่รักควงแขนจดทะเบียนสมรสย้อนยุคที่บางรักส่วนบางพลัดบางตา

"แต่งย้อนยุค"


สำนักงานเขตบางรักจัดพิธีสมรสหมู่ย้อนยุคให้กับคู่บ่าวสาว 26 คู่ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง คู่สมรสคู่แรกเดินทางมาจาก จ.จันทบุรี ได้ของขวัญเป็นทะเบียนสมรสทองคำ ทุนประกันชีวิต 1 ล้านบาท ด้าน ผอ.เขต เผยปีนี้มีคู่สมรสยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนที่เขตบางพลัดคู่รักจำนวนไม่มาก

เดินทางไปจดทะเบียนสมรส ไม่เชื่อเรื่องชื่อเขตส่งผลต่อการครองคู่ เผยคู่สมรสที่จดทะเบียนจากเขตบางรักแล้วมาจดทะเบียนหย่าที่เขตบางพลัด บางรายไม่ตั้งใจจดทะเบียนสมรสเพราะรักหวังอยู่ด้วยกัน แต่ตั้งใจไปจับฉลากเอาของขวัญที่บางรัก

สำนักงานเขตบางรัก จัดงาน สัญญารัก ศตวรรษ ณ บางรัก


ที่โรงแรมนารายณ์ ถนนสีลม บรรยากาศคึกคักและมีสีสันอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการจัดพิธีสมรสหมู่ย้อนยุค ให้กับคู่บ่าวสาว 26 คู่ มีชาวต่างชาติร่วมด้วย 5 คู่ พิธีเริ่มตั้งแต่ 06.00 น. มีการนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป จากวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม มารับบิณฑบาตกับคู่บ่าวสาว พิธีการล้วนแต่เป็นพิธีโบราณ ตั้งแต่ขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวที่มีปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธาน ส่วนฝ่ายเจ้าสาวมีผู้อำนวยการเขตบางรักเป็นประธาน พิธีดังกล่าวนอกจากเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ยังเป็นการเฉลิมฉลองสำนักงานเขตบางรักในโอกาสครบ 100 ปี ในวันที่ 5 มิถุนายนที่จะถึงนี้ คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่เห็นว่าพิธีสมรสหมู่ย้อนยุคครั้งนี้ เสียค่าใช้จ่ายเพียงคู่ละ 25,500 บาท ถือเป็นพิธีการโบราณที่หาได้ยากโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ขณะที่อีกส่วนหนึ่งได้เปิดให้บริการประชาชนทั่วไปจดทะเบียนสมรส โดยคู่แรกมารอคิวจดทะเบียนตั้งแต่ 03.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มแจกคำร้องเมื่อเวลา 06.00 น.สำหรับผู้โชคดีคู่แรกที่ได้ของขวัญเป็นทะเบียนสมรสทองคำ ทุนประกันชีวิต 1 ล้านบาท

รางวัลจากเขตบางรัก


พร้อมบัตรตรวจสุขภาพครบวงจร คือ นายบุญมี บุญรังษี อายุ 47 ปี และนางญานิภา ทองเพ็ชร อายุ 35 ปี เป็นชาวจังหวัดจันทบุรีทั้งคู่ โดยนายบุญมี กล่าวว่า อยู่กินกันมากว่า 1 ปี เป็นความตั้งใจว่าจะมาจดทะเบียนที่เขตบางรักในวันแห่งความรัก เพราะเห็นว่าเป็นมงคล และเห็นว่าการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวต้องอาศัยการเป็นครอบครัว ให้อภัยกัน ใช้เหตุใช้ผล

นอกจากนี้ ยังมีคู่สมรสที่ได้รับรางวลอื่นอีกกว่า 100 รางวัล เช่น ทะเบียนสมรสทองคำอีก 7 รางวัล แหวนเพชร ชุดเครื่องนอน แพ็กเกจฮันนีมูน ตั๋วเครื่องบินเป็นต้น

นางพิมลรัตน์ วงษ์รักษ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก กล่าวว่า ปีนี้บรรยากาศไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่านมา โดยก่อน 08.00 น.มีผู้มายื่นคำร้องขอจดทะเบียนกว่า 150 คู่ เทียบปีที่ผ่านมาซึ่งมีเกือบ 300 คู่ อย่างไรก็ตาม ต้องดูผลสรุปอีกครั้งช่วงเย็นหลังปิดคำร้องเวลา 16.00 น. โดยปี 2549 มีผู้มาจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตบางรักจำนวน 936 คู่

***เขตหลักสี่จัดออมเงิน ออมรัก


น.ส.อมรรัตน์ กฤตยานวัช ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กล่าวว่า เขตหลักสี่จัดกิจกรรม ออมเงิน ออมรัก ปลูกผัก ปลูกรักที่หลักสี่ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ซึ่งคู่สมรสที่มาจดทะเบียนที่เขตเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเชิญไปเข้ารับคำแนะนำการบริหารเงินออมครอบครัว และด้วยวิถีชีวิตพอเพียง บนพื้นฐานประหยัดเรียบง่าย โดยคู่สมรสจะได้รับมอบกระปุกออมเงิน เรือนหอ พร้อมเงินหยอดกระปุก 1 บาท เพื่อให้คู่สมรสตระหนักเห็นคุณค่าของเงิน 1 บาท

ที่จะเริ่มต้นสะสม นำไปสู่เงินออมที่สร้างอนาคตครอบครัวที่แข็งแรง และชีวิตสมรสที่จีรังยั่งยืน สำหรับวันนี้ (14 ก.พ.) คู่สมรสจะได้รับมอบของขวัญพิเศษเป็นผักปลอดสารพิษใส่โถแก้วเซรามิก พร้อมรับการตรวจสุขภาพฟรีจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จากนั้นจะนำคู่สมรสขึ้นชมสวนดาดฟ้า ชั้น 9 ชมการสาธิตการปลูกผักปลอดสารพิษและทำน้ำปุ๋ยชีวภาพ นอกจากนี้ ยังได้รับแนวทางการดำเนินชีวิตที่เพียงพอ เกิดแรงกระตุ้นคิดที่จะปลูกผักไว้รับประทานเอง เป็นการลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวทำให้สุขภาพแข็งแรงบนพื้นฐานเรียบง่ายเป็นการสร้างนิสัยที่ดีให้แก่ครอบครัวต่อไป

***เขตบางพลัดคู่รักบางตา


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก ที่สำนักงานเขตบางพลัด มีคู่รักจำนวนไม่มากไปจดทะเบียนสมรส โดยทางเขตได้เตรียมสินค้าโอท็อปของชุมชนภาณุรังสี เป็นผลิตภัณฑ์เป่าแก้วเป็นรูปหมู และมีของที่ระลึกจากผู้สนับสนุน เช่น ห้างตั้งฮั่วเส็ง ให้บัตรกำนัลคู่ละ 400 บาท 60 คู่ รูปหล่อรัชกาลที่ 5 จำนวน 20 คู่ เหรียญหลวงปู่ทิม วัดพระขาว จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ทุกคู่รัก

ทั้งนี้ คู่ของนายธนโชค และนางนงนุช ศุภพงษ์เทวาสกุล โดยฝ่ายชายอายุ 44 ปี เป็นชาวกรุงเทพฯ ผู้หญิงอายุ 36 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งแต่งงานอยู่กินกันมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ตั้งใจมาจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก เพราะต่างเห็นว่าเป็นวันที่มีความหมายดี และไม่คิดว่าชื่อเขตบางพลัด จะส่งผลต่อการครองคู่ เป็นเพียงความคิดของแต่ละคน เนื่องจากการอยู่ด้วยกันขึ้นอยู่กับคนสองคน ซึ่ง นางนงนุช กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวคิดว่าชื่อบางพลัด มาจากการพลัดมาจากคนละที่แล้วได้มาเจอกัน

"ไม่น่าเกิน 30 คู่"


ด้านนายวัชรา พรหมเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด กล่าวว่า คาดว่าคู่รักที่มาจดทะเบียนสมรสที่เขตบางพลัดในวันแห่งความรัก น่าจะไม่เกิน 30 คู่ แต่ถ้ามามากกว่านี้แสดงว่ากระแสที่ตนให้แนวคิดกับผู้ที่มาจดทะเบียนสมรสที่เขตบางพลัดว่า เข้ากับวิถีชีวิตพอเพียงและท้าทายกับชื่อ และพบว่าส่วนใหญ่ตั้งใจมาโดยไม่ได้หวังของขวัญที่ระลึกตอบแทน

อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่าคู่รักที่ไปจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรักที่เขตบางรักแล้วมาจดทะเบียนหย่าที่เขตบางพลัดมีทุกปี โดย 3 ปีย้อนหลังคือ ปี 2546-2548 ปีละ 9 คู่ ส่วนปี 2549 มี 11 คู่ และพบในบางคู่ไม่ได้หวังจะจดทะเบียนสมรสเพื่อจะอยู่กินด้วยกันด้วยใจรัก แต่ชวนกันไปเพื่อจับฉลากของขวัญแล้วในที่สุดต้องมาจดทะเบียนหย่า

สำหรับสถิติจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรักที่เขตบางพลัดปี 2549 จำนวน 25 คู่ ปี 2548 จำนวน 31 คู่ ปี 2547 จำนวน 29 คู่ และปี 2546 จำนวน 18 คู่

***ปากคลองตลาดคึกคักรับวาเลนไทน์


กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาและคนทำงาน ต่างพากันออกมาหาซื้อของขวัญในวันวาเลนไทน์ ที่ปากคลองตลาด ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำวันที่ 13 ก.พ.ทำให้บรรยากาศคึกคักอย่างมาก และหนาแน่นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเช้าวันที่ 14 ก.พ. โดยดอกกุหลาบสีแดงและขาว ยังคงได้รับความนิยม รวมถึงดอกลิลลี่ นอกจากนั้น กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ยังสร้างความแปลกใหม่ ด้วยการนำลูกโป่งมาทำเป็นรูปหัวใจ รวมถึงนำดอกรักมาจะเป็นกระเช้าขนาดกะทัดรัด ประดับด้วยตุ๊กตาและต้นกก รวมถึงนำต้นเดฟ มาจัดเป็นรูปหัวใจและรูปทรงต่าง ๆ ขณะที่ลูกค้าบางรายนำช็อกโกแลตมาให้ช่วยจัดเป็นช่อดอกไม้ แม้ปีนี้จะมีคนจำนวนมากออกมาหาซื้อ แต่พ่อค้าแม่ค้าย่านปากคลองตลาดก็ยังถือว่ามีจำนวนน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ อาจเป็นผลมาจากเรื่องของเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดอกกุหลาบยังคงเป็นดอกไม้ยอดนิยมมอบให้แก่กันในวันวาเลนไทน์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนนักศึกษาที่มาหาซื้อดอกไม้ก่อนจะไปโรงเรียน ขณะที่ผู้ที่ทำงานหรือผู้ค้าปลีก ได้มาซื้อกันไปก่อนหน้านี้ สำหรับราคากุหลาบ หากเป็นดอกตูม มัดละ 100 ดอก ราคา 100 - 300 บาท แล้วแต่ขนาดและความสวยงาม ส่วนดอกเดี่ยวกุหลาบไทย ขายดอกละ 10 -50 บาท ถ้าเป็นกุหลาบนำเข้าจากประเทศจีน ขายดอกละ 50 บาทขึ้นไป ซึ่งปีนี้ผู้ที่มาซื้อส่วนใหญ่จะเน้นที่ความคุ้มค่าและราคาประหยัดเป็นสำคัญ พ่อค้าแม่ค้าคาดว่าในช่วงเย็นบรรยากาศการซื้อดอกไม้จะคึกคักอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นักเรียนที่มาซื้อดอกไม้ส่วนใหญ่บอกว่าวันนี้นอกจากจะซื้อดอกไม้ให้เพื่อนแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะบอกรักพ่อแม่และสมาชิกในครอบครัวด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์