7วันอันตรายวันแรก อุบัติเหตุ393ครั้ง ตาย24เจ็บ425

7 วันอันตรายวันแรก เกิดอุบัติเหตุ 393 ครั้ง ตาย 24 เจ็บ 425 ราย สาเหตุหลักยังมาจากเมาแล้วขับ มหาดไทยสั่งเฝ้าระวังคืนฉลองส่งท้ายปีเก่า

นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ศปถ. ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนในวันแรก ของการรณรงค์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 (วันที่ 29 ธ.ค.2553) พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 393 ครั้ง น้อยกว่าปี 2553 (448 ครั้ง) ลดลง 55 ครั้ง ร้อยละ 12.28 ผู้เสียชีวิต 24 คน น้อยกว่าปี 2553 (40 ราย) ลดลง 16 ราย ร้อยละ 40.00 ผู้บาดเจ็บ 425 คน น้อยกว่า ปี 2553 (496 คน) ลดลง 71 คน ร้อยละ 14.31 สาเหตุ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 35.88 รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนดร้อยละ 16.54 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.65 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 55.73 บนถนนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 36.39 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงกลางคืน ร้อยละ 69.47 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 34.35 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน อายุ 30 - 39 ปี ร้อยละ 16.48 รองลงมา อายุระหว่าง 40 - 49 ปี ร้อยละ 15.37

สำหรับจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กระบี่ พังงา พัทลุง เพชรบุรี ลพบุรี และสระแก้ว จังหวัดละ 2 ราย รองลงมา ได้แก่ กาฬสินธุ์ จันทบุรี นครปฐม นครพนม นครสวรรค์ น่าน ปทุมธานีพระนครศรีอยุธยา มหาสารคาม หนองคาย แม่ฮ่องสอนและสมุทรสงคราม จังหวัดละ 1 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 58 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 23 คน รองลงมา ได้แก่ เชียงใหม่ 15 คน และขอนแก่น 14 คน และจังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครนายก ปทุมธานี มุกดาหาร ระนอง ระยอง อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 21 ครั้ง รองลงมา ขอนแก่น 14 ครั้ง เชียงใหม่ 13 ครั้ง จังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุจำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครนายก มุกดาหาร ระนอง ระยอง อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2 , 501 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65 , 494 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 526 , 610 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการลดพฤติกรรมเสี่ยง 10 มาตรการ รวม 60 , 497 ราย ส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกนิรภัย 19 , 260 ราย รองลงมาไม่มีใบขับขี่ 18 , 916 ราย

นายสรยุทธ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงาน คาดว่าประชาชนจะเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงบ่าย

ส่งผลให้ถนนสายหลัก ทุกสายมีปริมาณรถหนาแน่น โดยเฉพาะบนถนนทางหลวงแผ่นดินที่มุ่งสู่ภูมิภาคต่างๆ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค.53) เป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มักจัดงาน เฉลิมฉลองในสถานที่ต่างๆ จึงมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง ศปถ. จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เข้มงวดการตรวจจับการเมาแล้วขับ รวมถึงกวดขันให้ร้านค้าและผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนด งดจำหน่ายแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี นอกจากนี้ ให้เน้นการตรวจความปลอดภัยสถานบันเทิง โดยเฉพาะการควบคุมมิให้มีการจุดพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิงภายในสถานบันเทิง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากอัคคีภัย สำหรับจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ขอให้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และจัดเจ้าหน้าเฝ้าระวังบริเวณจุดเสี่ยง โดยเฉพาะเส้นทางโค้งและทางลาดชันบริเวณภูเขา เพื่อลดอุบัติเหตุจากผู้ขับขี่ที่ไม่ชำนาญเส้นทาง

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในช่วงนี้ ภาคเหนือจะมีอากาศหนาวและมีหมอกหนาในตอนเช้า

ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ จึงขอฝากเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากขับผ่านบริเวณที่หมอกลงจัดให้เปิดไฟตัดหมอก หรือหยุดรถในบริเวณที่ปลอดภัย สำหรับในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดพัทลุงลงไปจะมีฝนตกหนักบางแห่ง อาจทำให้ถนนลื่นและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์