จาก บรรหาร ถึง มังกรไฟ เมื่อ พลุระเบิด คือสัญญาณเตือน หรือแค่ลางร้าย?

จาก บรรหาร ถึง มังกรไฟ เมื่อ พลุระเบิด คือสัญญาณเตือน หรือแค่ลางร้าย?

ภายหลังที่เกิดเหตุการณ์พลุระเบิดในงาน "ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีทองมังกรสวรรค์" ที่จ.สุพรรณบุรีนั้น ถือว่าเป็นข่าวใหญ่พอสมควร

ล่าสุด เทเลกราฟ สื่อชื่อดังของอังกฤษ ได้นำคลิปนาทีอันน่าตื่นตาตื่นใจท่ามกลางคนในหมู่บ้าน เมื่อช่วงค่ำวันของวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักข่าวเทเลกราฟ และถูกนำไปโพสต์ลงบนยูทูป

ส่วนความคืบหน้าล่าสุดนั้น นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ระบุว่า แรงระเบิดทำให้ประชาชนเสียชีวิต 4 คน ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายร้อยหลังคาเรือนจากเหตุเพลิงไหม้ และพลุที่ระเบิดนั้นขยายเป็นวงกว้างในรัศมีราว 4 กิโลเมตร

เบื้องต้นคณะกรรมการการจัดงานจะรับผิดชอบในส่วนค้าเสียหาย พร้อมกับดูแลญาติผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกราย ส่วนรายละเอียดของสาเหตุพลุระเบิดอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกิดจากการผิดพลาดจาการประมาทของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจุดพลุ หรือขัดข้องจากวัสดุอุปกรณ์

จนถึงขณะนี้ ยังมีพลุที่เตรียมไว้จุดในงานคืนต่อไปอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ และห้ามเคลื่อนย้ายพลุออกจากพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการให้ประชนได้รับทราบรายละเอียดต่อไป

ทว่าสิ่งดังกล่าวเกิดจากความประมาท ก็ต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ขณะที่อีกมุมหนึ่ง หลายคนอาจจะมองว่าเป็นความโชคร้าย โดยเฉพาะปี "มังกร"

แต่ความเชื่อทางด้าน "ซินแส" หรือทางด้านโหราศาตร์จีน ไม่ว่าจะเป็นมังกรพ่นน้ำ หรือพ่นไฟ คงจะเป็นเรื่องของตำแหน่งแห่งหน ที่มองว่าไม่ถูกตาม "ฮวงจุ้ย" อยู่ดี

เป็นที่ทราบกันก็คือว่า หัวมังกรสวรรค์ในงานตรุษจีนที่สุพรรณบุรีจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และหางมังกรจะชี้ไปทางทิศตะวันออก และตั้งอยู่ด้านซ้ายของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหรือทางด้านทิศใต้


ขณะที่ "มาโนช  ประภาษานนท์" ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ย เปิดเผยผ่าน "มติชนออนไลน์" ถึงอุบัติเหตุพลุระเบิดในงานพิธีเปิดงานฉลองเทศการตรุษจีนว่า เรื่องดังกล่าว มองได้ 2 แบบ แบบแรก เป็นเรื่องอุบัติเหตุทั่วๆ ไปที่เกิดจากความประมาท  อีกแบบหนึ่งคือ มีประเด็นของการทำผิดข้อห้ามในวันตรุษจีน  เนื่องจากวันตรุษจีนปีนี้มาเร็วกว่ากำหนด ปีจะเปลี่ยนไป และดาวประจำทิศต่างๆ ก็เปลี่ยนไปด้วย คือในเดือนมกราคมนี้ทิศใต้เป็นทิศอสูร มีข้อห้ามเกี่ยวกับการเคลื่อนย้าย ขุดเจาะ ทุบ เคาะ ต่อเติมใดๆ ทั้งสิ้น หากกำลังผู้ประกอบพิธีกำลังไม่ดี ก็จะเกิดเรื่องรุนแรงขึ้นได้อย่างทันทีทันใด

จากข้อมูลที่ระบุว่า มีการไปตั้งจุดปล่อยพลุตรงทิศใต้พอดีนั้น ซึ่งปกติพื้นที่ตรงบริเวณนั้นใกล้กับชุมชน หากมองในแง่ทั่วๆ ไปก็ไม่ควรจะใช้เป็นที่จุดพลุอยู่แล้ว อีกทิศที่ไม่ดีคือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปีนี้ตรงกับตำแหน่งดาว 5 ภูต เป็นทิศที่ห้ามทุบ เคาะ เจาะ ย้าย ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์   โต๊ะทำงาน เตียงนอน ทำบุญบ้าน เช่นกัน  ส่วนทิศที่เป็นมงคลอย่างยิ่งคือทิศตะวันออก สังเกตุได้ว่าคนจีนจะตั้งโต๊ะไหว้เจ้าหันทิศไปทางตะวันออก แต่ทั้งนี้ตำแหน่งดาว 9 ยุคก็จะเปลี่ยนไปทุกๆ ปี

เมื่อถามว่าการที่พลุระเบิดนั้น อาจจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนอะไรบางอย่างหรือไม่นั้น คงไม่อาจจะมีใครฟันธงได้

แต่ตามความเชื่อของโหราศาตร์จีน หรือ ฮวงจุ้ย แล้ว "วิศิษฎ์ เตชะเกษม" ผู้มีชื่อเสียงในแวดวงผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปในเรื่องศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยในการดำเนินธุรกิจและดำเนินชีวิต แสดงความเห็นผ่าน "มติชนออนไลน์" ว่า เราอย่าไปมองในเรื่องของเคราะห์กรรม แต่ต้องมองในเรื่องของความประมาท เพราะต้องการจัดให้ยิ่งใหญ่ ผมไม่อยากให้คนไปมองในเรื่องของความเชื่อ มิเช่นนั้นทุกคนจะวิ่งเข้าหาความเชื่อ กลายเป็นว่าคนไทยจะหันไปพึ่งพิงในสิ่งที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เป็นการเสียจริตของคนไทยเสียเอง

ก่อนจะเข้าเรื่องฮวงจุ้ย อยากให้มองในเรื่องของความประมาท เพราะการที่จะทำพลุ มันมีวิธีการคำนวณว่าความแรงของพลุจะพุ่งไปได้เท่าไหร่ แรงอัดเท่าไหร่ กระบอกที่ใช้อัดสามารถรองรับแรงได้เท่าไหร่ เช่นเดียวกับประเทศจีนที่พยายามจะยิงจรวจแล้วอัดดินปืนมากเกินไปก็ระเบิด ซึ่งเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาเป็นพันๆ ปี คนจีนก็เล่นพลุตั้งแต่เมื่อค้นพบเรื่องวัตถุระเบิด


ส่วนการที่บางคนไปตีความว่า ตอนที่ไปสร้างมังกรเป็นการไปลบหลู่ท่านหรือไม่ เอาไฟไปแหย่กับมังกร ซึ่งปีมังกรปีนี้ต้องบอกว่า ตามที่ชินแสหลายๆ คนพยายามพูดว่าเป็นปีมังกรทองนั้น ลวนแล้วเพื่อพยายามให้เกิดความรู้สึกให้กำลังใจ มังกรทองมาแล้วจะดี แต่ต้องบอกตรงๆ ว่า คนจีนมีระบบนักษัตรอยู่ 60 นักษัตร กล่าวคือทั้ง 12 นักษัตรมีธาตุอยู่ 5 ธาตุ ประกอบด้วย ดิน ทอง น้ำ ไม้ และไฟ โดยแต่ละปีนักษัตรก็จะเปลี่ยนรอบไปเรื่อยๆ และจะเวียนจนครบ 60 ปี


ประเด็นต่อมาก็คือว่า มังกรในรอบปี 2555 นั้น เป็นมังกรน้ำ เป็นพญามังกรใหญ่ เล่นน้ำแรง เพราะฉะนั้นก่อนที่มังกรจะมาถึงเราจะเห็นว่า มังกรได้เตือนภัยมาตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่าน้ำมาแรง และต่อไปทุกๆ ปี น้ำก็จะท่วมเหมือนกัน ไม่มีทางปฏิเสธได้เลย ซึ่งคนจีนก็จะทราบเรื่องนี้อยู่ทั่วกัน และเตรียมมือรับกับน้ำ เพราะจีนเองก็เจอเรื่องน้ำท่วมใหญ่เยอะมาก ตายปีละหลายพันคน


เพราะฉะนั้น เตือนๆ ไว้ก่อนว่า การที่ไปเล่นกับพญามังกรน้ำ โดยการใช้ไฟไปล่อก็จะเกิดอันตราย แต่นั้นเป็นเพียงความเชื่อ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็หนีไม่พ้นความประมาทหรือวิธีการจัดการที่ผิดอยู่ดี


อย่างน้อยการจัดสถานที่ยิงพลุก็ควรเป็นสถานที่โล่ง ที่ไม่ใช่ใกล้บ้านของชาวบ้าน เพราะเวลาสะเก็ดพลุที่ตกลงมาเป็นเสมือนไฟก้อนๆ ฉะนั้น การไปจุดแถวบ้านเรือนประชาชน มันอันตรายอยู่แล้ว สะเก็ดไฟที่ตกลงมาย่อมเป็นเชื้อไฟอย่างดี ยิ่งบ้านแถวนั้นประดับกระดาษหรือผ้าก็ยิ่งไปใหญ่


ถ้าคนมองในเรื่องของเคราะห์กรรมว่า ก่อนที่น้ำจะท่วมได้ไปสร้างวีรกรรมน้ำท่วมไว้ มองเป็นเรื่องของผลกรรม ก็อย่าไปมองอย่างนั้น เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป แต่เราจะจัดการปัญหากับมันอย่างไร หรือจัดการกับอนาคตที่จะต้องเจออย่างนี้อีกอย่างไร เพราะมังกรน้ำจะเป็นตัวที่ทำให้เกิดพายุใหญ่ ปริมาณน้ำจะมาจำนวนมาก เพราะทั่วโลกโดนหมด ไม่ใช่แค่ประเทศไทย


เมื่อพูดถึงคุณบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 แล้วนั้น เป็นคนธาตุดิน ซึ่งเป็นดินที่แน่นมาก ปกติดินจะต้านน้ำหรือคุมน้ำ เมื่อน้ำมาแรงดินก็เอาไม่อยู่ ทุกอย่างย่อมมีความสมดุล เมื่อการที่คุณบรรหารเป็นธาตุดินแล้วเอาไฟไปใส่มากๆ ก็ย่อมเปราะ พอน้ำเข้ามาระหว่างที่ดินกำลังร้อนก็ยิ่งไปใหญ่


ท้ายที่สุดก็คือว่า พอเกิดเหตุการณ์แล้วมีการออกมายอมรับความผิดพลาดแล้วแก้ไข อย่างนี้ถือเป็นลูกผู้ชาย เพราะคนธาตุดินจะหนักแน่นอยู่แล้ว ชอบใครก็ชอบ ไม่ชอบใครก็คือไม่ชอบเลย ซึ่งต่างจากนักการเมืองทั่วไปที่เกิดปัญหาแล้วปัดความรับผิดชอบเป็นส่วนใหญ่


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์