ดันแบล็คฮอว์ก2ลำ2.7พันล.เข้าครม.

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ กระทรวงกลาโหมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ให้อนุมัติโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์เอนกประสงค์ แบล็คฮอว์ก รุ่นเอ็ม (UH-60 - M / Black Hawk) ของกองทัพบก เพื่อใช้ในภารกิจด้านธุรการ และยุทธวิธี เพิ่มเติมอีก 2 เครื่อง วงเงินประมาณ 2.7 พันล้านบาท จากเดิมที่ได้ตั้งงบประมาณในการจัดหาไว้ประมาณ 3 พันล้านบาท (3 เครื่อง) แต่เนื่องจากค่าเงินของสหรัฐฯ และราคาของ ฮ.รุ่นดังกล่าวที่สูงขึ้น ทำให้สามารถซื้อได้เพียง2 เครื่องเท่านั้น

สำหรับเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk รุ่น M ที่กองทัพจัดหาตามแผนงบฯ ปี 54 นี้เป็นรุ่นที่มีความทันสมัย
 
โดยพัฒนาให้มีใบพัดพิเศษพร้อมเครื่องยนต์ ที 700 -GE-701 ดี โดยให้กำลังสูงสุด 2,000 แรงม้า มีคอมพิวเตอร์ระบบจัดการยานพาหนะร่วม และห้องนักบินที่มีอุปกรณ์แบบใหม่ มีระบบตรวจสภาพอากาศ เมฆฝนที่เหมาะกับสภาพอากาศที่แปรปรวนในประเทศไทย

         
ทั้งนี้ แบล็คฮอล์ก รุ่นดังกล่าว ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ ให้ขายกับมิตรประเทศตามโครงการความร่วมมือทางด้านการทหารระหว่างไทย-สหรัฐฯ หรือ เอสเอ็มเอฟ เมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเฮลิคอปเตอร์รุ่นหนี้ ถือว่า เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง และ สหรัฐฯ จะอนุมัติขายให้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น

         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบก มีแผนในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอล์ค เข้าประจำการ 33 ลำ โดยปัจจุบันได้ทำการจัดหาเข้าประจำการแล้ว 10 ลำ โดยทั้งหมดเป็นรุ่น L แต่ประสบอุบัติเหตุที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงที่ผ่านมา 1 ลำ จึงเหลือประจำการ 9 ลำ

         
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าในการจัดหาเรือดำน้ำมือ ยู 206 เอ 2 มือสองจากเยอรมันนั้น

แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือในโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังจากที่มีข้อท้วงติงเรื่องความคุ้มค่า ซึ่งหลังจาก สตง.ฟังข้อมูลแล้ว ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ

         
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. คณะทำงานฯ ได้เข้าพบ นายบันฑูร สุภัควณิช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
 
เพื่ออธิบายถึงความจำเป็น ในการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ให้ทันในสิ้นเดือนนี้ ซึ่ง นายบันฑูร เข้าใจ และไม่ได้คัดค้าน ขณะนี้ รอเพียงว่า วาระดังกล่าวจะบรรจุเข้าทันการประชุม ครม.วันที่ 27 ก.ย.นี้หรือไม่ และหากเข้าเป็นวาระจร ก็ไม่มีปัญหา เพราะหน่วยงานต่าง ๆ ได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว

         
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้่ เรื่องอยู่ที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม โดยแม้จะเข้า ครม.ไม่ทันวันที่ 27 ก.ย.นี้
แต่หาก รมว.กลาโหม เห็นชอบ และลงนามในโครงการภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ก็คงไม่มีปัญหา เพราะสามารถกันงบประมาณเพื่อดำเนินการได้

         
สำหรับ การจัดซื้อเรือดำน้ำมือสองจากเยอรมัน จำนวน 6 ลำ
 
โดย 4 ลำ เยอรมันจะซ่อมปรับสภาพเพื่อใช้ปฏิบัติการในท้องทะเลได้ต่อไปอีกกว่า 10 ปี ส่วนอีก 2 ลำ ได้จัดหาไว้เป็นอะไหล่ เดิมโครงการทั้งหมดมีวงเงินถึง 7.7 พันล้านบาท แต่คณะกรรมการของกระทรวงกลาโหมได้ขอให้ปรับลดวงเงิน ในส่วนของการจัดตั้งหน่วยและสร้างอาคาร ให้ลดลงจนเหลือ 6.9 พันล้านบาท


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์