ส่อย้าย พ่อคูณ ติดเชื้อมีไข้สูงมารักษาศิริราช

ส่อย้าย 'หลวงพ่อคูณ' เข้ารักษาตัวที่ รพ.ศิริราช

รอผู้ว่าฯกับลูกศิษย์หารือกันก่อน ขณะที่แพทย์เจาะช่องท้องสอดสายยางให้อาหาร ป้องกันเกิดภาวะแทรกซ้อน หลังสำลักอาหารติดเชื้อโพรงจมูกลามสู่ปอด จนปอดอักเสบไข้ขึ้นสูง 
   
เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคมหรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิดัง เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่

ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเวลายาวนานกว่า 116 วัน เนื่องจากติดเชื้อวัณโรคปอดเรื้อรัง ซึ่งแพทย์ระบุว่าต้องใช้เวลาในการรักษาอย่างน้อย 3 เดือน และให้ฉันอาหารผ่านสายยางทางช่องจมูกมาโดยตลอด ส่วนอาการโดยรวมมีทั้งช่วงอาการดีขึ้นและบางช่วงก็มีอาการทรุดลง ท่ามกลางการดูแลของแพทย์และคณะลูกศิษย์อย่างใกล้ชิด โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมโดยเด็ดขาด
   
นายสมชาย โสตถิอนันต์ เลขานุการส่วนตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อระยะนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

เริ่มรู้สึกตัว และพูดคุยโต้ตอบได้ หลังจากแพทย์ได้ถอดสายยางให้อาหารทางช่องจมูกออก เมื่อ 10 วันก่อนก็พบว่าหลวงพ่อเริ่มฉันอาหารได้เอง แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้อาการทรุดลงอีกได้ ส่วนเรื่องที่แพทย์จะกลับมาให้อาหารทางสายยางแด่หลวงพ่ออีก และอาจจะต้องย้ายหลวงพ่อไปรักษาตัวต่อที่ รพ.ศิริราช ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ตอนนี้หลวงพ่อคูณยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราช นครราชสีมาเหมือนเดิม
   
ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ

กล่าวว่าการย้ายหลวงพ่อคูณไปรักษาที่ รพ. ศิริราช ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดย  ที่ผ่านมาเกือบ 4 เดือน คณะแพทย์ต้องให้อาหารทางสายยางผ่านช่องจมูกแด่หลวงพ่อมาตลอด จนน้ำหนักตัวของหลวงพ่อเพิ่มขึ้นเป็น 40 กก. ตามเกณฑ์ที่กำหนด จึงได้ถอดสายยางออกและให้หลวงพ่อฉันอาหารด้วยตนเอง พบว่าระยะแรกหลวงพ่อสามารถฉันอาหารได้บ้างแต่ยังมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และตรวจพบว่าเกิดภาวะแทรกซ้อน จากการติดเชื้อทางโพรงจมูกลามลงสู่ปอด และจากการที่หลวงพ่อสำลักอาหาร ส่งผลให้ปอดอักเสบและไข้ขึ้นสูง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมแพทย์จาก รพ.ศิริราช เดินทางมาตรวจอาการของหลวงพ่อพอดี และให้การรักษาภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว และร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการรักษาอาการของหลวงพ่อคูณที่ดีและเหมาะสมที่สุด
   
นพ.พินิศจัย กล่าวต่อไปว่า จากการหารือ คณะแพทย์มีความเห็นร่วมกันว่าควรให้หลวงพ่อกลับมารับอาหารทางสายยางอีกครั้ง
 
แต่จะไม่ใช้การสอดสายยางทางช่องจมูกเหมือนเดิม เพราะอาจเสี่ยงต่อภาวะไซนัสอักเสบ และติดเชื้อจากช่องจมูกและลุกลามเป็นฝีในสมอง และทำให้หลวงพ่อรำคาญด้วย ดังนั้นแนวทางที่ดีที่สุดคือการเจาะช่องท้องเพื่อสอดสายยางเข้าไปสู่กระเพาะอาหารโดยตรง ซึ่งคงต้องมีการส่องกล้องอย่างละเอียดก่อนจะดำเนินการเจาะช่องท้องแล้วสอดสายยาง ลงสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งทีมแพทย์ รพ.ศิริราช ยืนยันว่าจะดำเนินการเอง เพราะต้องใช้ทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งคงเป็นเรื่องยุ่งยากหากต้องมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์และคณะแพทย์ศิริราช มาดำเนินการที่ รพ.มหาราช ส่วนจะมีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อไปดำเนินการที่ รพ.ศิริราช หรือไม่ตนยังไม่ขอให้ความเห็น เพราะต้องรอฟังผลการเจรจาระหว่าง ผวจ.นครราชสีมา และคณะลูกศิษย์ว่าควรจะดำเนินการอย่างไร.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์