เดินหน้าเอาผิดขบวนการค้าสุนัขจ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม

ปศุสัตว์นครพนม วอนเจ้าของสุนัขมาแจ้งความกับตำรวจ เพื่อเอาผิดขบวนการค้าสุนัขเพิ่ม ทั้งคดีลักทรัพย์และรับซื้อของโจร สุดสลดเจ้าตูบทยอยตายลงเรื่อย ๆ รวมกว่า 300 ตัวแล้ว

จากกรณีเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม ได้ตรวจยึดสุนัขที่เตรียมลักลอบนำส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม ถูกเคลื่อนย้ายนำมาเก็บไว้ที่ด่านกักกันสัตว์ จ.นครพนม และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี และศาลจะพิจารณาคดีในวันที่ 26 ก.ย.ที่จะถึงนี้ โดยทางนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.นครพนม ได้เปิดกองทุนช่วยเหลือสุนัข เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนอาหาร เนื่องจากงบประมาณไม่เพียงพอ ผ่านทางบัญชีกองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม ธนาคารกรุงเทพ สาขาโลตัสนครพนม เลขที่บัญชี   666-009-7947  และบัญีธนาคารกรุงไทย สาขานครพนม ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือสุนัขนครพนม กระแสรายวัน เลขที่บัญชี  408-6-05284-9 และล่าสุดพบมียอดการบริจาคช่วยเหลือสุนัขร่วม 2 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายไพรัช ประทุมสุวรรณ ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม กล่าวว่า ขณะนี้นอกจากจะมีประชาชนจำนวนมาก

เดินทางมาร่วมบริจาคอาหารช่วยเหลือสุนัขแล้ว และยังได้เดินทางมาติดตามหาสุนัขที่สูญหายไปด้วย โดยส่วนใหญ่ระบุว่า แก๊งค้าสุนัขจะใช้วิธีตระเวนขโมยสุนัขตามชุมชนหรือหมู่บ้านในช่วงกลางคืนแล้วนำมาส่งขายต่อให้กับพ่อค้าสุนัข เพื่อรวบรวมนำส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม ทางหน่วยงานปศุสัตว์จ.นครพนม ได้ประกาศเชิญชวนประชาชนเจ้าของสุนัข เดินทางมาตรวจสอบ หากพบสุนัขที่ถูกขโมยมาให้ทำการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อหาทางเอาผิดเพิ่มกับขบวนการค้าสุนัข ในข้อหาลักทรัพย์ และรับซื้อของโจร

นายไพรัชกล่าวต่อว่า นอกจากนี้การเฝ้าดูแลสุนัข ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานปศุสัตว์ทั้งในพื้นที่
 
และส่วนกลางให้ลงมาช่วยดูแลสุขภาพสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อรักษาสุนัขให้มีชีวิตรอดมากที่สุด เนื่องจากสุนัขส่วนใหญ่บอบช้ำร่างกายได้รับบาดเจ็บ จากการขนย้ายทำให้ทยอยตายไปเป็นจำนวนมาก ล่าสุดเหลือเพียง 1,000 ตัว โดยตายไปแล้วประมาณ 300 ตัว ขณะเจ้าหน้าที่ต้องทำการรักษาดูแล  ไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เนื่องจากสุนัขถือเป็นของกลางที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี   นอกจากนี้ในส่วนเจ้าของสุนัขที่ติดตามมาดูพบว่าเป็นเจ้าของ  แต่ยังไม่สามารถนำกลับได้ เพียงลงเป็นหลักฐาน  ต้องรอให้คดีสิ้นสุดก่อน

ด้าน นายต่อพงษ์ ไชยสาสน์ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงการตรวจยึดสุนัขจำนวนกว่า 1,000 ตัว ที่เตรียมลำเลียงผ่าน จ.นครพนม ส่งไปขายประเทศเวียดนาม ว่า
 
กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะตรวจสอบและติดตามในรายะละเอียดต่อไป ถ้าประชาชนมีความกังวลว่าจะมีเนื้อสัตว์แปลกปลอมออกมาสู่ตลาด ทางกระทรวงฯก็สามารถดำเนินการได้ ส่วนการที่กลุ่มเอ็นจีโอเสนอให้เพิ่มบทลงโทษต่อผู้กระทำทารุณต่อสัตว์นั้น ก็เป็นเรื่องดี  ขณะที่การดูแลเรื่องของโรคระบาดนั้นต้องขอพิจารณาในรายละเอียดและจะสั่งการให้หน่วยงานเข้าไปดูแลต่อไป.