นายดิเรก ลาวัลย์ศิริ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์)
เปิดเผยว่า เรกูเลเตอร์ได้ปรับค่าไฟฟ้าที่จะเรียกเก็บในบิลค่าไฟแก่ประชาชนรอบเดือน ก.ค.-ส.ค. 54 ลง 6 สต.ต่อหน่วย เนื่องจากคณะกรรมการได้นำเงินปรับลดการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนของ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ การไฟฟ้านครหลวง ในปี 51-53 จำนวน 1,500 ล้านบาทจากวงเงินทั้งหมด 6,900 ล้านบาทมาบรรเทาภาระค่าไฟให้ประชาชน
ขณะเดียวกันในวันที่ 13 ก.ค. นี้ เรกูเลเตอร์จะพิจารณาประกาศโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่(ปี 54-58) ด้วย ซึ่งโครงสร้างค่าไฟใหม่ดังกล่าวได้ผ่านการประชาพิจารณ์แล้ว ซึ่งวัตถุประสงค์ต้องการให้ค่าไฟฟ้าสะท้อนถึงต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์มากที่สุด เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ไฟฟ้าอย่างคุ้มค่าและมีการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ”
“อัตราค่าไฟฟ้าใหม่นั้นได้คำนวณรวมกับภาระการอุดหนุนค่าไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยซึ่งติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 แอมแปร์และใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนฟรีไว้ในค่าไฟฐานอย่างถาวร ซึ่งคิดเป็นเงิน 12,000 ล้านบาท โดยกระจายภาระให้ผู้ใช้ไฟฟ้าอัตรา 12 สต.ต่อหน่วยให้กับผู้ใช้ไฟทุกประเภทโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ยกเว้นผู้ใช้ไฟบ้านที่อยู่อาศัย กิจการขนาดเล็กและการสูบน้ำเพื่อการเกษตร”
อย่างไรก็ตามเอฟทีรอบ 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.54)นี้ได้ลดลง 6 สต.ต่อหน่วยจึงทำให้ภาคอุตสาหกรรมจะรับภาระส่วนของผู้ใช้ไฟไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนฟรีเพียง 6 สต.ต่อหน่วย และหลังจากนั้นเมื่อมีการคิดค่าเอฟทีรอบต่อไปก็จะต้องแบกภาระ 12 สต.ต่อหน่วยเหมือนเดิม
นายดิเรก กล่าวว่า ในปัจจุบันค่าไฟฟ้าประกอบด้วยค่าไฟฟ้าฐานและค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)
ส่วนการปรับโครงสร้างใหม่จะเริ่มต้นให้เอฟทีเป็นศูนย์ เพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชื้อเพลิงที่แท้จริงแต่โดยรวมค่าไฟจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนักและผลจากการปรับปรุงครั้งนี้จะทำให้บิลค่าไฟต้องปรับโฉมใหม่ที่จะแยกให้เห็นต้นทุนจากประเภทกิจการที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นทุนการผลิต สายส่ง จำหน่าย เชื้อเพลิง กองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้า
แหล่งข่าวจากเรกูเลเตอร์กล่าวว่า
แนวโน้มค่าเอฟทีรอบต่อไปจะมีแนวโน้มปรับขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันได้เพิ่มขึ้นซึ่งได้สะท้อนมายังราคาก๊าซธรรมชาติแต่จะมากน้อยเพียงใดคงต้องติดตามปัญหาต่าง ๆ เช่น ท่อก๊าซธรรมชาติปตท.ที่เกิดการรั่ว รวมถึงเงินที่การไฟฟ้า 3 หน่วยงานที่มีการลงทุนต่ำกว่าแผนที่เหลือ 5,400 ล้านบาท จะนำมาอุดหนุนได้มากน้อยเพียงใด.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
