เจอแล้ว!พ่อลูกพลัดพราก30ปี

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


คุณพ่อชาวญวนสุดปลื้ม เจอลูกชายที่พลัดพรากกว่า 30 ปี หลังเพียรพยายามหานับเดือน

วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. นายชูเกียรติ สุวรรณรังษี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สงขลา นายคำแหง อ่อนเย็น พัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี นายศิริ ทองเอี้ยว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันพานายเติง เวิน เฮา อายุ 53 ปี ชาวเวียดนาม สัญชาติอเมริกัน ไปยังบ้านเลขที่ 262 หมู่ 3 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพบกับลูกชายที่พลัดพรากกันมานานกว่า 30 ปี ขณะเดินทางด้วยเรือหนีภัยสงครามเวียดนามหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย แต่เคราห์ดีมีผู้ใจบุญเก็บไปชุบเลี้ยง

โดยเมื่อไปไปถึงเจ้าหน้าที่พบนายสุนทร ขำขาว อายุ 55 ปีกับนางละเมียด ขำขาว อายุ 49 ปี ภรรยา เจ้าของบ้าน ซึ่งทั้งคู่อยู่ในอาการตกใจ เครียดจัด เจ้าหน้าที่จึงรีบอธิบายจุดประสงค์ให้ทราบ เพื่อให้คลายกังวล กระทั่งนายสุนทร ยอมเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เป็นผู้รับเลี้ยงเด็กชายไม่ทราบสัญชาติที่พลัดหลงกับผู้ปกครองมาตั้งแต่ 34 ปีที่แล้ว โดยตั้งชื่อใช้ว่า "สามารถ" ปัจจุบันเติบใหญ่เป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงขอร้องให้ช่วยไปตามมาพบพ่อบังเกล้า ตามเจตนารมย์ของนายเติง ที่เพียรพยายามตามหาลูกชายมาหลายสิบปี ทางนายสุนทร จึงยินยอม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นานเติง ได้เห็นหน้านายสามารถ ถึงกับโผเข้ากอด และชี้แจงว่าเป็นพ่อที่แท้จริง ซึ่งพลัดพรากกันมานาน ทั้งยังจำตำหนิที่นิ้วเท้าขวาซึ่งติดกันได้ด้วย ทำให้นายสามารถ อื้อจนพูดอะไรไม่ออก กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า "รู้สึกงงไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร"


นางละเมียด จึงยอมเปิดปากเล่าถึงความเป็นมาในอดีตของของนายสามารถว่า เดิมตนกับสามีเป็นลูกเรือประมงอยู่ใน จ.สงขลา และตั้งครรภ์คลอกออกมาเป็นผู้หญิง แต่บุญน้อยเสียชีวิตลงหลังลืมตาดูโลกได้เพียง 2 วันเท่านั้น ช่วงนั้นมีเมียของไต๋กงเรือคนหนึ่งรู้ข่าวว่าลูกตนตาย จึงนำเด็กชายคนหนึ่งมายกให้ โดยไม่ยอมบอกที่มาที่ไป ด้วยความดีใจจึงแอบนำทารกน้อยไปสวมรอยแจ้งเกิดเป็นลูกตนเอง โดยตั้งชื่อให้ว่า "สามารถ" และย้ายมาทำมาหากินที่ จ.สุราษฎร์ธานี และปิดเรื่องดังกล่าวเป็นความลับมาตลอด อย่างไรก็ตามแม้เรื่องจะกระจ่างแล้ว แต่ยืนยันว่าตนคงไม่ยอมคืนลูกชายนอกไส้เด็ดขาด


ด้านนายเติง กล่าววยอมว่า ที่ออกตามหาลูก เพียงเพราะอยากทราบชะตากรรม และให้การช่วยเหลือ แต่หากพ่อแม่บุญธรรมของลูกชายยืนยันว่าสามารถดูแลลูกชายตนได้ ตนก็คงขอแค่เพียงมาเยี่ยมเยียนบ้างตามประสาเท่านั้น


สำหรับเรื่องราวเหมือนนิยายเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเติง เวิน เฮา อายุ 53 ปี ชาวเวียดนาม สัญชาติอเมริกัน ได้เดินทางเข้ามายัง จ.สงขลา พร้อมประสานสถานทูต เพื่อติดตามตัวบุตรชาย ที่ผลัดพรากกันมานานกว่า 34 ปี โดยเผยว่าขณะนายเติง กับภรรยา และญาติ ๆ ได้อพยพหนีภัยสงคราม ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย


แต่เรือเกิดอัปปางในทะเลพื้นที่ จ.สงขลา เคราะห์ดีมีเรือประมงไทยให้การช่วยเหลือ แต่กลับต้องสูญเสียภรรยาไป ทั้งเมื่อเข้าฝังก็ถูกทางการไทยจับกุมคุมขังในข้อหา  หลบหนีเข้าเมือง จำต้องฝากลูกชายวัยแค่ 2 เดือนไว้กับไต๋กงเรือลำดังกล่าว กระทั่งพ้นโทษ จึงถูกส่งไปยังศูนย์อพยพ และถูกส่งต่อไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ไม่มีโอกาสพบลูกชายอีกเลย เมื่อตั้งตัวได้จึงตัดสินใจเดินทางกลับมาตามหาลูกที่พลัดพรากกัน.



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์