ราคาน้ำมันขายปลีกของไทยเริ่มขยับขึ้น

กรุงเทพฯ 11 พ.ค.-คาลเท็กซ์ ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน 60 สตางค์ต่อลิตร มีผลในเช้าวันนี้   (11 พ.ค.) หลังค่าการตลาดกลุ่มเบนซินลดลงเหลือ 80 สตางค์/ลิตร สาเหตุราคาน้ำมันตลาดโลกได้กลับมาดีดขึ้นอย่างรุนแรง พลิกผันจากที่ร่วงหนัก เกือบ 17 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้ค้าน้ำมันระบุว่า การประกาศขึ้นราคาของคาลเท็กซ์

เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันของไทยกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้งหลังจากในรอบสัปดาห์มีการลดราคากลุ่มเบนซินลงไป 2 ครั้ง รวม 1.40 บาทต่อลิตร โดยค่าการตลาดกลุ่มเบนซินขณะนี้ เหลือประมาณ 80 สตางค์ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นที่ 1.50 -1.80 บาทต่อลิตร  ส่วน ค่าการตลาดดีเซลอยู่ที่ประมาณ  1.20 บาท/ลิตร

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสหรัฐ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาปรับขึ้นรวมเกือบ 7 ดอลลาร์ ปิดตลาดวานนี้ (10 พ.ค.)

ที่  103.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากวันที่ 9 พฤษภาคม  1.33 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สาเหตุจากการเกิดน้ำท่วมในสหรัฐ จนตลาดเกรงว่าจะกระทบต่อการผลิตน้ำมันจากโรงกลั่นต่าง ๆ ในมลรัฐหลุย์เซียน่า ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนเดือนเมษายน สร้างสถิติสูงสุดรอบใหม่ 5.24 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือปรับสูงขึ้นร้อยละ 1.7

ส่วนราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ที่ไทยใช้อ้างอิง ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับน้ำมันดิบ

โดยปรับขึ้น 2 วันติดต่อกัน 7-8 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดตลาดวานนี้ (10 พ.ค.) น้ำมันดิบ ดูไบ เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 4.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 131.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และดีเซล เพิ่มขึ้น 1.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 126.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า

แนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เกิดจากความต้องการบริโภคที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากเอเชียทั้งจีนและอินเดีย ดังนั้น ราคาเฉลี่ยทั้งปีจะสูงกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ประเทศไทยจึงไม่ควรที่จะตรึงราคาพลังงานต่อไป เพราะจะสร้างภาระสูงมากแต่ละปีจะสูงถึง 40,000-50,000 ล้านบาท รัฐบาลใหม่จึงควรทบทวนและนำเงินส่วนนี้ไปสร้างระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบราง จะเกิดประโยชน์ระยะยาวต่อประเทศ -สำนักข่าวไทย

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์