นศ.ยื่นหนังสือเปรม-สนธิวอนระงับร่างพ.ร.บ.ม.นอกระบบ

สหพันธุ์หนังสือ ยื่นหนังสือ "ป๋าเปรม" และ "พล.อ.สนธิ" ค้าน ม.ออกนอกระบบ และขอคนกลางมาแก้ไขปัญหาโอเน็ต พร้อมให้เวลา 7 วันฟังคำตอบ ลั่นหากไม่ได้ข้อยุติพร้อมเคลื่อนไหวต่อ

ยังเป็นข้อถกเถียงและเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง สำหรับการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ซึ่งหลังรัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการได้ผลักดันเรื่องดังกล่าวออกมา ทำให้หลายฝ่ายออกมาคัดค้าน พร้อมแนะให้กระทรวงศึกษาธิการที่เป็นหัวเรือใหญ่ทำการศึกษาเรื่องนี้ให้ดี โดยควรฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่าต้องการอย่างไร ก่อนที่จะมีข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมออกมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ญ.กมลพรรณ ชีวพันธุศรี นายกสมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันของเครือข่ายพ่อแม่ เยาวชนเพื่อการปฏิรูปการศึกษา สมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ สหพันธ์นักศึกษาแห่งชาติ และเครือข่ายอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบได้ข้อสรุปว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา กลุ่มสมาคมเครือข่ายผู้ปกครองแห่งชาติ และ พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ แกนนำกลุ่มพลังเงียบมหาชน พร้อมด้วยนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ และภาคีเครือข่าย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เพื่อเรียกร้องให้ระงับการดำเนินการการผ่านร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย

ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีดังนี้ 1.ขอให้ระงับการดำเนินการผ่านร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัย ในกำกับของรัฐทุกฉบับ 2.หากจะดำเนินการเรื่องดังกล่าว ขอให้นำเข้าสู่สภาที่มาจากระบอบประชาธิปไตย และ 3.เรื่องเร่งด่วน คือ การทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ซึ่งเป็นปัญหาจากรัฐบาลที่ผ่านมา ขอให้รัฐบาลชุดนี้เร่งแก้ไขโดยให้มีคนกลางมาดำเนินการ โดยเสนอให้ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ หรือ นายโสภณ สุภาพงษ์ เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าว

พ.ญ.กมลพรรณ กล่าวอีกว่า เครือข่ายจะให้เวลา 7 วัน เพื่อฟังคำตอบในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้หากพ้นจาก 7 วันแล้ว ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จะมีแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป แต่ตอนนี้ยังไม่ขอเปิดเผย และต่อไปจะตั้งเป็นกลุ่มเครือข่ายนักศึกษา ประชาชนคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ซึ่งจากการหารือร่วมกันเห็นว่า การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งรีบผ่านคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ และไม่มีฝ่ายค้านซึ่งทำให้ไม่มีฝ่ายตรวจสอบ รวมทั้งยังไม่ทราบอย่างชัดเจนว่ากฎหมายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่

"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีกระแสพระราชดำรัสว่า การนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบเป็นเรื่องใหญ่ และต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน ดังนั้นเราไม่ควรเร่งรีบ เพราะยังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้" พ.ญ.กมลพรรณ กล่าว

พ.ญ.กมลพรรณ กล่าวต่อว่า ส่วนการบริหารมหาวิทยาลัยจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยส่วนตัวเห็นว่า ทุกอย่างอยู่ที่การบริหาร ไม่ใช่อยู่ในระบบ หรือออกนอกระบบ และ พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ไม่ได้บอกว่า จะมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ซึ่งจากการประเมินประสิทธิภาพมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้วก็ไม่ติดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำ นอกจากนี้ในอนาคตหากออกนอกระบบแล้วค่าเล่าเรียนแพงมากขึ้น สุดท้ายคนยากจนก็อาจจะไม่ได้รับเงินกู้ยืมเรียน เพราะรัฐบาลมีเงินไม่พอ