บช.ภาค3 จับน้ำมันเถื่อนกว่าหมื่นลิตรที่บุรีรัมย์

ชุดปราบน้ำมันบช.ภาค3, ตร.บุรีรัมย์,สรรพสามิต จับปั้มเถื่อนบรรจุขวด แกลลอน ดีเซล-เบนซินกว่า 1หมื่นลิตร กว่า 5แสนบาท ขยายผลจับปั้มเครือข่าย

ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายอนุชิต แก้วมหาวงศ์  อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 15 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร พร้อมพวกอีก 7 คน อายุระหว่าง 25-40 ปี

ได้ที่บริเวณปั้มน้ำมันไม่มีชื่อ บนถนนสายโชคชัย - เดชอุดม ระหว่างกิโลเมตรที่ 59-60 ตั้งอยู่เลขที่ 140  ม.3  บ.หนองถั่วแปบ ต.หัวถนน อ.นางรอง พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้ออีซูซิ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บธ 543 ร้อยเอ็ด รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักส์ ดีโฟดี สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค 806 ขอนแก่น รถยนต์ซูซูกิ แครี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บบ 4818 ร้อยเอ็ด และ น้ำมันเบนซิน 91 จำนวน 6,200 ลิตร น้ำมันดีเซล จำนวน 4,000 ลิตร อุปกรณ์หัวจ่ายน้ำมัน และขวดบรรจุ พร้อมสลากสติกเกอร์ จำนวนมาก


จากการสืบทราบของตำรวจ  ทราบว่า มีการลักลอบขายและเปิดปั๊มน้ำมัน โดยไม่ได้รับอนุญาตที่บริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว

จึงนำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบภายในปั้ม พบว่า กำลังมีการก่อสร้างปรับปรุงเพื่อเปิดเป็นปั๊มน้ำมัน  โดยมีนายอนุชิต แก้วมหาวงศ์  อายุ 36 ปี มาเช่าเปิดเป็นปั๊มน้ำมัน พร้อมลูกจ้างอีก 7 คน รถยนต์ 3 คัน   โดยต่อโครงหลังคา ที่กระบะท้ายพบน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล บรรจุขวดใส่กล่องจำนวน 2,734 ขวด มีการติดตั้งถังน้ำมันใต้ดิน ถังขนาดใหญ่หลังปั๊ม และที่ตู้หัวจ่ายน้ำมัน ซึ่งรวมปริมาณน้ำมันที่ตรวจพบครั้งนี้ จำนวน 12,000 ลิตร แยกเป็นน้ำมันเบนซิน 91จำนวน 6,200 ลิตร น้ำมันดีเซล จำนวน 4,000 ลิตร นอกจากนี้ยังมีสติกเกอร์ของ ร้าน อ.เจริญออยส์ ตั้งอยู่เลขที่ 417 หมู่ที่ 12 บ.บัวขาว ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และแผ่นพลาสติกสีที่ใช้หุ้มปากขวดน้ำมัน จำนวนมาก


จากการสอบสวนนายอนุชิต แก้วมหาวงศ์  สารภาพว่า เป็นเจ้าของมาเช่าเปิดปั๊มน้ำมัน

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.54  เช่าในราคาเดือนละ 6,000 บาท มีลูกจ้าง 7 คน ย้ายมาจาก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อเปิดขายน้ำมันทั้งปลีกและส่งในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และใกล้เคียง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงปั๊ม เพราะเป็นปั๊มร้างมาก่อน ได้ลงทุนค่าทำถังน้ำมันใต้ดินไป 60,000 บาท  ขณะกำลังขนย้ายน้ำมันที่บรรจุขวดมายังปั๊มแห่งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสิบและจับกุม


นายอนุชิต เล่าต่อว่า ได้เปิดให้บริการขายน้ำมันบรรจุขวดและแกลลอน มา 3-4 ปี

โดยเริ่มทำที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ แล้วขยายไปที่ อ.โพนยางคำ จ.สกลนคร และ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา แค่เสียค่าเช่าที่แพงจึงตัดสินในย้ายมาที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยไปรับน้ำมันมาจากโรงกลั่นน้ำมัน  ที่จ.ระยอง ครั้งละ 40,000 ลิตร ลงที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนจะกระจายไปตามปั๊มสาขาต่างๆ


ซึ่งจะมีรถปิกอัพ จำนวน 11 คัน บรรทุกน้ำมันที่บรรจุใส่ขวดแยกตามปริมาณ โดยมีสติกเกอร์สีติดที่ขวดบอกปริมาณและราคาชัดเจน ขายส่งตั้งแต่ราคา 17-30 บาท หากชาวบ้านไปขายจะอยู่ที่ราคา 20-40 บาท ซึ่งการขายจะแยกตามสีและปริมาณน้ำมันที่บรรจุในขวด


เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการอายัดของกลางทั้งน้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันดีเซล จำนวน 12,000 ลิตร มูลค่ากว่า 500,000 บาท
 
อุปกรณ์ในการบรรจุ และรถยนต์ที่ใช้ในการบรรทุกน้ำมันออกจำหน่ายไว้เป็นหลักฐาน พร้อมได้ควบคุมตัวนายอนุชิต แก้วมหาวงศ์  อายุ 36 ปี  เจ้าของ และลูกจ้างอีก 7 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ไว้สอบสวนดำเนินคดี โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต” ทั้งนี้หากตรวจสอบพบว่าน้ำมันดังกล่าวมีการปลอมปน ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 


พล.ต.ต.กรกต สาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 กล่าวว่า จากการสอบสวนนายอนุชิตรับสารภาพว่า ได้ไปรับซื้อน้ำมันมาจากโรงกลั่นที่  จ.ระยอง ครั้งละ 40,000 ลิตร

จากนั้นจะนำมาบรรจุใส่ขวดและแกลลอนกระจายส่งขายตามจังหวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน ทำมาแล้วร่วม 4 ปี จากข้อมูลพบว่าหลังน้ำมันมีราคาแพง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ทางตำรวจภูธร ภาค 3 ได้มีการตรวจจับน้ำมันเถื่อนได้กว่า 90 ราย ส่วนที่จับกุมได้ในครั้งนี้ก็จะมีการขยายผลจับกุมเครือข่ายที่รับน้ำมันไปจำหน่ายด้วย เพราะถือเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์