มหาชัยชอกช้ำ น้ำหนุนท่วมยับ

"น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน"


ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ว่า ที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลท่วมบ้านเรือนใน ต.ช้างแรก และเขตเทศบาลตำบลบางสะพานน้อย ล่าสุดระดับน้ำลดลงปกติแล้ว เหลือเพียงที่ลุ่มบางพื้นที่ที่ยังมีน้ำขังเล็กน้อย ขณะที่ท้องฟ้าเปิดไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ทั้งนี้นายประจินต์ ธารศิริสิน นายอำเภอบางสะพานน้อย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย 500 ไร่ นากุ้ง 30 แห่ง ถนนชำรุด 20 สาย คอสะพานขาด 8 แห่ง และมีชาวบ้านเดือดร้อนทั้งสิ้น 120 ครอบครัว

ส่วนที่ จ.ชุมพร ช่วงสายวันเดียวกัน พ.ต.ท.ธรธร พัสดุประดิษฐ์ รอง ผกก.6รน. นำเรือตรวจการณ์ออกสำรวจเรือลากเรือโป๊ะบรรทุกสินค้าที่ถูกคลื่นทะเลซัดเกยโขดหินได้รับความเสียหาย บริเวณอ่าวแหลมเทียน หน้าเกาะเสม็ด หมู่ 1 ต.ปากน้ำ อ.เมืองชุมพร โดยพบว่าเรือลากและเรือโป๊ะถูกแนวหินโสโครก ทำให้ท้องเรือทะลุไป 2 ลำ ขณะที่เรือโป๊ะอีก 2 ลำเกยโขดหินอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถกู้เรือได้ เนื่องจากคลื่นลมยังแรงคงต้องรอให้คลื่นสงบลงกว่านี้ โดยจะประสานไปทางกองเรือภาคที่ 1 จ.ชลบุรี รวมทั้งบริษัทสายชล จำกัด เจ้าของเรือที่ประสบภัยมาช่วยกู้ซากเรือต่อไป

"น้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจ"


ขณะเดียวกัน ที่ จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ได้เกิดน้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมตลาดมหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร ส่งผลให้พื้นที่ย่านเศรษฐกิจดังกล่าวได้รับความเสียหาย โดยนายประวิทย์ มณีโรจน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสมุทรสาคร ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายไปวางกั้นแนวถนนเศรษฐกิจ และบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกเพื่อให้รถยนต์สัญจรไปมาแล่นได้สะดวก กระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. น้ำทะเลได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

นายประวิทย์เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลไหลท่วมตลาดมหาชัยเกิดจากเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุน ตามคาดการณ์ของกรมอุทกศาสตร์ประเมินไว้ว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงไม่เกิน 3.7 เมตร ทางเทศบาลจึงวางกระสอบทรายไว้ในระดับ 3.9 เมตร แต่ก็ยังเอาไม่อยู่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอิทธิพลจากพายุทุเรียน ทำให้คลื่นลมทะเลแรงกว่าปกติจนน้ำทะลักเข้ามา จนไม่สามารถป้องกันได้ และคาดว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 1 สัปดาห์

"ผลกระทบจากพายุทุเรียน"


ด้านนายแก่นเพชร ช่วงรังษี รอง ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวว่า น้ำทะเลหนุนในครั้งนี้ยังส่งผลให้ อ.กระทุ่มแบน และอ.บ้านแพ้ว ประสบปัญหาไปด้วย เนื่องจากแม่น้ำท่าจีนได้เพิ่มสูงขึ้นจนไหลท่วมบ้านเรือนและพืชสวนทางการเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง อย่างไรก็ตามกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าในวันที่ 6-8 ธ.ค.นี้ ระดับน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นประมาณ 3.8 เมตร แต่เนื่องจากได้เกิดพายุดีเปรสชันทุเรียนพาดผ่านอ่าวไทยเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้น้ำทะเลหนุนสูงถึง 4.7 เมตร เกินกว่าที่ความคาดหมายไว้ถึง 90 เซนติเมตร ส่งผลให้คันดินที่ชาวบ้านล้อมแนวแม่น้ำท่าจีนรับน้ำไม่ไหว ขณะนี้ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว

ส่วนที่ จ.สมุทรปราการ ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนเช่นกัน โดยเฉพาะบริเวณถนนศรีสมุทร ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ มีน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร จนมิดฟุตปาท

"เตือนเดินเรือให้ระวัง"


ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสมุทรปราการ ร่วมกับเทศบาลนครสมุทรปราการได้นำเครื่องสูบน้ำกว่า 10 เครื่องไปติดตั้งเพื่อระบายน้ำลงสูงแม่น้ำเจ้าพระยา

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศ ฉบับที่ 21 ว่า เมื่อเวลา 16.00 น. พายุ ดีเปรสชัน "ทุเรียน" บริเวณทะเลอันดามัน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 11.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 95.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุด ใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กม.ต่อชั่วโมง ได้เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม.ต่อชั่วโมง ลักษณะดังกล่าวทำให้ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นลมแรงขึ้น ขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในวันที่ 7-8 ธ.ค.นี้ สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมในอ่าวไทยกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์