ชาวนาจ๊าก!ค่ามือถือ5ล้าน

หนุ่มชาวนาเมืองหนองคายจ๊าก! จู่ๆ ได้รับใบแจ้งหนี้ค่าโทร.มือถือ "ดีแทค" รวมเงินกว่า 5 ล้านบาท ทั้งที่ไม่เคยมีโทรศัพท์มือถือใช้แม้แต่เครื่องเดียว ขนาดโทรศัพท์บ้านยังไม่มี เผยได้รับจดหมายทวงหนี้ตั้งแต่ต้นปี เรียกเก็บค่าบริการครั้งละ 5 พัน ล่าสุดยอดรวมสะสมถึง 5 ล้านตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยต้องโร่แจ้งความเป็นหลักฐาน ยันไม่เคยซื้อโทรศัพท์มือถือหรือเซ็นเอกสารค้ำประกันใคร แค่ทำสัญญาเอกสารกู้ยืมเงินกับธ.ก.ส.เท่านั้น ครวญชีวิตนี้เงินแสนยังไม่เคยจับแต่กลับเป็นหนี้ร่วม 5 ล้าน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. นายวันชัย กัลยา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 7 บ้านเทวี ต.บ้านเดื่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เข้าแจ้งความกับพ.ต.ต.อนุวัตร อ่อนโก้ก สารวัตรเวรสอบสวนสภ.อ.ท่าบ่อ พร้อมกับนำจดหมายฉบับหนึ่งเข้ามาเป็นหลักฐาน แจ้งว่าเป็นหนี้โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 ล้านบาท ทั้งที่ไม่เคยมีโทรศัพท์มือถือใช้เลยสักเครื่องเดียว

นายวันชัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนกลับจากเกี่ยวข้าวกลับเข้าบ้านในตอนเย็น ลูกสาวอายุ 7 ขวบ ก็ส่งจดหมายให้ พอเปิดดูก็พบว่าเป็นหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้จากสำนักงานสหนิติกฎหมายและการบัญชี เลขที่ 1783/79-80 ซอยลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ระบุว่าเป็นหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้ก่อนฟ้องศาล ลงวันที่ 10 ต.ค.49

โดยเนื้อหาในจดหมายบอกว่าทำสัญญาและขอใช้บริการเช่าหรือใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลข 09-744-3032 เลขที่สัญญา 504267165 กับ บมจ.โทเทิลแอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ปรากฏว่าค้างชำระอยู่เป็นเงิน 5,187,230 บาท เจ้าหน้าที่ติดตามทวงถามมาหลายครั้งแล้วแต่มิได้ชำระหนี้แต่อย่างใด สำนักงานจึงจำเป็นต้องส่งเรื่องฟ้องดำเนินคดีกับตนตามกฎหมาย ซึ่งตอนท้ายจดหมายแจ้งให้ตนติดต่อกับนายกฤษณา 0-2511-2277 ต่อ 116 หรือ 01-358-5916

นายวันชัยกล่าวต่อว่า ตนเป็นเพียงชาวนา ไม่เคยมีโทรศัพท์มือถือใช้สักเครื่อง เมีย ญาติพี่น้องก็ไม่มี แม้แต่โทรศัพท์บ้านยังไม่มี จู่ๆ มีหนังสือทวงหนี้จากบริษัทดีแทคส่งถึงตน ซึ่งส่งมาแล้วหลายฉบับ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แจ้งเรียกเก็บค่าใช้บริการครั้งละประมาณ 5,000 บาท ตนแปลกใจและเคยแจ้งความไว้ที่สภ.อ.ท่าบ่อไว้แล้วครั้งหนึ่ง

มาคราวนี้หลังได้รับจดหมายฉบับดังกล่าวตนตกใจมากเพราะจำนวนเงินเพิ่มมากขึ้น จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจอีกครั้งและยืนยันว่าไม่เคยและไม่มีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อใดเลย ไม่เคยซื้อโทรศัพท์มือถือหรือเซ็นเอกสารค้ำประกันใคร หรือไม่เคยถ่ายสำเนาบัตรประชาชนเรื่อยเปื่อย

มีเพียงนำไปเป็นเอกสารในการกู้ยืมเงินจากธ.ก.ส.เท่านั้น การที่มาแจ้งความครั้งนี้เพราะถือว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์และอาจจะถูกใส่ร้าย อยู่ดีๆ ก็เป็นหนี้ 5 ล้านทั้งที่ชาตินี้ไม่เคยจับเงินแสนเงินหมื่นเลย

พ.ต.ต.อนุวัตร อ่อนโก้ก หลังจากรับแจ้งความแล้ว ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับให้นายวันชัย ถ่ายสำเนาบันทึกประจำวันพร้อมกับส่งจดหมายหนังสือทวงหนี้ฉบับดังกล่าวส่งกลับคืนไปที่สำนักงานสหนิติกฎหมายตามที่มีที่อยู่แจ้ง เพื่อเป็นการยืนยันว่านายวันชัยไม่ได้ใช้บริการและไม่เคยมีโทรศัพท์มือถือใช้ กรณีเช่นนี้ในพื้นที่อ.ท่าบ่อเคยเกิดเหตุการณ์มาแล้วหลายครั้ง มีชาวบ้านหลายคนมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน แต่ครั้งนี้เพิ่งเป็นรายแรกที่จำนวนเงินสูงมาก จึงอยากจะให้ทางบริษัทตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งด้วย