แม่สาวซีวิคหวั่นกระแส”แอนตี้”สังคมออนไลน์

บช.น.เตรียมสถานที่รับมอบตัวโชเฟอร์”สาวซีวิค”วัย 17 ปี หลังมีคำสั่งให้ย้ายจาก สน.วิภาวดี เพราะสถานที่กว้างขวางกว่า

ขณะที่แม่ของสาวนักเรียนนอก รับ หวั่นกระแส”แอนตี้”ของสังคมออนไลน์ แต่ยืนยัน ลูกสาวเข้าให้ปากคำตามนัดแน่ พฐ.รุดเก็บหลักฐานรถคู่กรณีอีกรอบ ขณะที่กรมพินิจฯ ระบุขั้นตอนสอบเยาวชน แจง พงส.ต้องส่งตัวให้สถานพินิจภายใน 24 ชม.ขณะที่ ผอ.สถานพินิจฯ มีอำนาจพิจารณาจะให้ประกันตัวหรือไม่ 
               
ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุสยองขวัญรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ของสาวนักเรียนนอกตระกูลดังวัย 17 ปี พุ่งชนรถตู้โดยสารบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์

ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งผู้โดยสารและคนขับรถตู้รวม 9 ศพ บาดเจ็บอีกหลายราย กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มเมืองเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในโลกสังคมออนไลน์ที่ส่วนใหญ่โจมตีสาววัยรุ่นคนขับรถเก๋งคันต้นเหตุ จนเจ้าตัวเครียดหนัก แต่ก็พร้อมจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามนัดหมาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 ม.ค.ที่ สน.วิภาวดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางมาตรวจสอบรถตู้โดยสารโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพมหานคร
 
วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-บีทีเอส หมอชิต และรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎว 8461 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี น.ส.หญิง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นผู้ขับขี่ และเกิดอุบัติเหตุกับรถตู้คันดังกล่าวบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหาหลักฐานร่องรอยการเฉี่ยวชนเพิ่มเติม จากนั้นจะนำหลักฐานทั้งหมดไปมอบให้กับ พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน(สบ3) สน.วิภาวดี เจ้าของคดีดังกล่าว เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีต่อไป 
       

ด้าน พ.ต.ท.สนอง แสงมณี สว.จร.สน.วิภาวดี กล่าวว่า ในตอนแรกทางพนักงานสอบสวน สน.วิภาวดี ได้จัดเตรียมสถานที่ของโรงพักเพื่อรับมอบตัว น.ส.หญิง เรียบร้อยแล้ว
 
เพราะคาดว่าน่าจะมีสื่อมวลชนและญาติของทั้งฝ่ายมาที่โรงพักจำนวนมาก แต่ล่าสุดมีคำสั่งให้เปลี่ยนสถานที่รับมอบตัว จาก สน.วิภาวดี ไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เนื่องจากสถานที่กว้างขวาง สะดวกสบายกว่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ได้จัดเตรียมห้องประชุมปารุสกวัน 2 ไว้ เป็นสถานที่มอบตัว รวมทั้งพนักงานสอบสวนเตรียมสอบปากคำ น.ส.หญิง ที่จะเข้ามอบตัวในวันที่ 5 ม.ค.นี้ เวลา 08.00 น. 
       
ส่วนความเคลื่อนไหวของครอบครัวตระกูลดัง นางลัดดาวัลย์ (สงวนนามสกุล) มารดาของ น.ส.หญิง คนขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค คันเกิดเหตุ

ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนัดสอบปากคำ น.ส.หญิง บุตรสาว ซึ่งจะเดินทางไปพร้อมกับบิดา ตน และทนายความ โดยบุตรสาวได้หยุดกินยามา 2 วันแล้ว เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาในการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้บุตรสาวอาการดีขึ้นมาก เดินได้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้รถเข็น อย่างไรก็ตาม ตนกลัวกระแสของสังคมออนไลน์มาก เพราะเมื่อเข้าไปตรวจสอบดูตามเว็บไซด์ต่างๆ ยังมีกระแสแอนตี้บุตรสาวอยู่มาก ซึ่งแม้จะทำให้รู้สึกหวั่นใจบ้าง แต่ก็พร้อมจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจในวันที่ 5 ม.ค.แน่นอน     

ด้านนายสุนทร เพิงมาก รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน 

กล่าวถึงคดีเยาวชนอายุ 17 ปี ขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ชนรถตู้บนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย จะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ว่า ตามขั้นตอน หลังจากตำรวจเจ้าของคดีแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาแล้ว  พนักงานสอบสวนจะมีคำสั่งให้ผู้ต้องหาต้องมาพบพนักงานคุมประพฤติ โดยต้องมีคำสั่งส่งตัวผู้ต้องหามายังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านเมตตา ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งผู้อำนวยการสถานพินิจฯ มีอำนาจพิจารณาจากคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีการแจ้งจับกุมตัวหรือไม่ หากเป็นการไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหา และเข้าสู่ขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ไม่ต้องพิจารณาเรื่องการให้ประกันตัว เพราะถือว่ายังไม่มีการจับกุมตัว เมื่อสอบสวน ทำรายงานเสร็จก็ปล่อยตัวได้  แต่หากตำรวจแจ้งว่ามีการจับกุมตัวแล้ว จึงจะพิจารณาเรื่องการควบคุมตัว ซึ่งตามปกติเป็นเด็กผู้หญิงจะควบคุมตัวที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน บ้านปรานี

นายสุนทร กล่าวต่อว่า ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ หากมีการเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องส่งตัวเยาวชนคนดังกล่าวมาที่สถานพินิจฯ กรุงเทพฯ

เพื่อให้เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ และนักจิตวิทยาได้สอบปากคำ แล้วทำรายงานเสนอต่อศาลตามที่กฎหมายกำหนดให้ปฏิบัติเมื่อผู้กระทำผิดเป็นเยาวชน ซึ่งสถานพินิจฯ จะเตรียมพนักงานคุมประพฤติ และนักจิตวิทยาที่มีความเชี่ยวชาญเข้าสอบปากคำกรณีนี้ ขณะที่นางทัศนาวิไล ไกรนรา ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานใดๆ จากตำรวจเกี่ยวกับกรณีเยาวชน อายุ 17 ปี ขับรถเก๋งซีวิคชนรถตู้ ดังนั้นสถานพินิจฯ จึงยังไม่ต้องเตรียมการใดๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการสอบปากคำ และการจัดเตรียมนักจิตวิทยา ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ กล่าวว่าหากมีการส่งตัวมายังสถานพินิจฯ ก็จะทำการสอบสวนไปเช่นเดียวกับเยาวชนที่กระทำผิดในรายอื่นๆ ตามปกติ
            
ส่วนกรณีอุบัติเหตุรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน พศ 2256 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถตู้โดยสาร โตโยต้า สีขาว ทะเบียน อย 235 กรุงเทพมหานคร

บริเวณทางลงด่วนสุขุมวิท 62 เขตพระโขนง พลิกคว่ำชนขอบกั้นทาง มีผู้บาดเจ็บนับ 10 ราย หวิดเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอย นางสมจิต รัตนาฤทธิ์นนท์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่าทาง กทพ.ได้ตรวจสอบจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบนทางพิเศษ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบแล้วไม่พบซากสุนัขในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นทางด่วนระดับดิน ไม่ใช่ทางยกระดับ รถที่เกิดอุบัติเหตุจึงไม่สามารถตกจากทางด่วนได้แต่อย่างใด.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์