ดอลลาร์ทรงตัว ก่อนหยุดยาวคริสต์มาส

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2553 ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐได้ระบุในรายงานว่า 


รัฐบาลสหรัฐได้ก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2010 สุทธิกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ และภาระผูกพันที่มีต่อหนี้ของรัฐบาลและสวัสดิการรัฐบาลกลางเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ รายงานการเงินสหรัฐระบุว่าหนี้ภาครัฐอยู่ในระดับที่สูงกว่าสินทรัพย์ราว 13.473 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 11.458 ล้านล้านดอลลาร์จากปีก่อน ขณะที่ยอดขาดดุลงบประมารเงินสดลดลงสู่ 1.294 ล้านล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2010 จาก 1.417 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2009

 

 

 

นอกจากนี้จากมาตรการลดหย่อนภาษีวงเงิน 6.58 แสนล้านดอลลาร์ ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ลงนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขาดดุลสหรัฐเพิ่มขึ้นและอยู่สูงกว่าระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่งปี ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินในภูมิภาคยุโรปที่เกิดขึ้น เป็นอีกข่าวหนึ่งที่ตลาดให้ความสนใจ หลังจากที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับลดอันดับ credit rating ลงหลายประเทศ อาทิ กรีซ และไอร์แลนด์ เป็นต้น รวมทั้งคาดว่าอาจปรับลดประเทศอื่นเพิ่มเติม เช่น สเปน และโปรตุเกส ซึ่งจากสถานการณ์ตลาดเงินที่อยู่ในภาวะเปราะบาง ส่งผลให้นักลงทุนต่างทำการหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัย อาทิ พันธบัตรรัฐบาลและทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ระดับ 3.309% ขณะที่ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดที่ระดับ 1.391 ดอลลาร์/ออนซ์ นอกจากนี้ ยังเป็นผลให้ธนาคารกลางของชาติสำคัญหลายแห่งอาทิ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ ต้องต่ออายุมาตรการจัดหาดอลลาร์สหรัฐฉุกเฉินให้แก่ตลาดเงินระยะสั้นต่อไป ซึ่งการต่ออายุนี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ทางการยังคงมีความกังวลต่อภาวะไร้เสถียรภาพในตลาดการเงิน ขณะที่การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในวันนี้ค่าเงินบาทเปิดตลาดทรงตัวที่ระดับ 30.17/18 บาท/ดอลลาร์ และมีการซื้อขายในกรอบแคบๆ ที่ระดับ 30.165-30.16 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางปริมาณที่เป็นไปอย่างเบาบางก่อนช่วงหยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส

 


 สำหรับค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.3102/06 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดวานนี้ (21/12) ที่ 1.3155/61 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในเขตยูโรโซน ยังคงกดดันให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงก่อนสิ้นปี โดยล่าสุดมูดี้ส์ได้ออกมาเตือนว่าอาจทำการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสที่ระดับ A1 ลงอีก 1 ถึง 2 ขั้น ส่วนฟิทซ์เรทติ้งระบุว่าอาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงเช่นกัน โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรมีการซื้อขายอยู่ในกรอบที่ 1.3062-1.3165 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนปิดตลาดไปที่ 1.3165/66 ดอลลาร์/ยูโร

 


 สำหรับค่าเงินเยนเปิดคตลาดที่ระดับ 83.80/85 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดวานนี้ (21/12) ที่ 83.70/73 เยน/ดอลลาร์ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดคาดการณ์การส่งออกและความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในวันนี้หลังการฟื้นตัวทางเศรษบกิจของเอเชียได้ชะลอตัวลง ทั้งนี้รัฐบาลยังคงมุมมองเศรษฐกิจยังคงชะงักงันและอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากด้วย อัตราว่างงานในระดับสูง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลงในไตรมาส 4 ปีนี้ และการสิ้นสุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า ระหว่างวันค่าเงินเยนมีการซื้อขายอยู่ในกรอบที่ 83.44-83.85 เยน/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดไปที่ 83.44/47 เยน/ดอลลาร์

 


 สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ จีดีพีประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะออกมาที่ 2.8% ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 5.0%

 


 อัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือน ในประเทศอยู่ที่ PAR/+1.00 สตางค์/ดอลลาร์ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.5/+1.5 สตางค์/ดอลลาร์


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์