ฝนถล่ม-หนาวฉับพลัน อีสานลดฮวบ7องศาฯ

หนาว - ชาวหนองคายเจออากาศหนาวเย็นฉับพลันต้องมานั่งผิงไฟให้ร่างกายอบอุ่น
เช่นเดียวกับหลายจังหวัดในอีสานและเหนือที่อุณหภูมิลดต่ำอย่างรวดเร็ว
เพราะมวลอากาศเย็นจากจีนพัดผ่าน

ทั่วทุกภาคยกเว้นภาคใต้อุณหภูมิลดลงฉับพลัน เพราะฤทธิ์มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ส่งผลทำให้เกิดฝนตกในหลายจังหวัด อุณหภูมิลดฮวบเพียงชั่วข้ามคืน

โคราช เลย อุณหภูมิลดลง 7 องศาฯ ยอดภูเรือเหลือ 6.5 องศาฯ ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ยอดดอยอ่างขาง อุณหภูมิยอดหญ้าเหลือ 11 องศาฯ นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกซากุระบานสะพรั่ง สวนสัตว์โคราช เร่งหาสารพัดวิธีคลายหนาวให้สัตว์ หลังอุณหภูมิปรับลดลงกะทันหันเพียงแค่ข้ามวัน เสื้อกันหนาวมือสองขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สธ.เตือนระวังโรคที่มากับเสื้อกันหนาวมือสอง 'กาฬสินธุ์' 3 วัน พบคนป่วยแล้ว 3 พันคน

-มวลอากาศเย็นทำหนาวฉับพลัน

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ อากาศ ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16.00 น. ในช่วงวันที่ 17-19 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเล จีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาฯ และมีฝนเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรง พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จ.สุราษฎร์ธานีลงไป ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าวไว้ด้วย

-เตือนอุณหภูมิจะลดลงอีก

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ถึง เวลา 17.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. ภาคเหนือมีฝนกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศาฯ สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 ก.ม./ช.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาฯ ยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 ก.ม./ ช.ม. ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรม ราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 ก.ม./ช.ม. ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 30 องศา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 ก.ม./ช.ม.

-'ขอนแก่น'สั่งระวังไข้หวัดนก

ที่ จ.ขอนแก่น นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ด้วยปัจจุบันสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในสัตว์ปีก โดยเฉพาะโรคไข้หวัดนก จากสถานการณ์สัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติใน จ.ขอนแก่น และในประเทศไทย ปี 2553 มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินงานอย่างเข้มแข็ง และสามารถกำกับดูแลควบคุมการระบาดของโรคไม่ให้แพร่ออกไปได้ อย่างไรก็ ตาม เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดนก ในจ.ขอนแก่น ได้หามาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรคไข้หวัดนก และ เพื่อเตรียมความพร้อมของจังหวัดในการดำเนินงานเพื่อนำไปปรับ หรือแก้ไขการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะพบไก่พื้นเมืองตายไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 16 ตัว ขณะนี้รอผลตรวจสอบว่าการตายเกิดขึ้นจากโรคอะไร หรือคาดว่าจะเกิดโรคไข้หวัดนก รอบที่ 3 เพื่อดำเนิน การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก และหามาตรการควบคุมต่อไป

-'กาฬสินธุ์'เหลือ10องศาฯ-ป่วยอื้อ

ที่ จ.กาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเฉียบพลันระลอกใหม่ที่จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลกระทบกับสุขภาพประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชนบทและพื้นที่รอบเชิงเขา ความหนาวเย็นส่งผลให้ต้องออกมานั่งผิงไฟไล่ความหนาว เนื่องจากขณะนี้ทั่วไปมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 14 องศาฯ แต่ในพื้นที่รอบเชิงเขาเฉลี่ยอยู่ที่ 10 องศาฯ

น.พ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ทำหนังสือถึงผู้บริหารโรงพยาบาลชุมชนและสถานีอนามัยทุกแห่ง ให้รณรงค์ป้องกันสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะการผิงไฟที่ยังต้องระวังการสูดดมกลิ่นควันและการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้งนี้ ยังพบว่ามีเด็กเล็กเริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดแล้ว เพียง 3 วัน พบผู้ป่วยถึง 3 พันคน

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าว ว่า อากาศหนาวเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หน่วยแพทย์พอ.สว.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดทำตารางการเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้อย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับปัญหาผู้ยากไร้จังหวัดกาฬสินธุ์ มีประชาชนกว่า 270,000 คน ต้องการเครื่องห่มกันหนาว ซึ่งยังคงรอการสนับสนุนจากรัฐบาล นอก จากนี้ จากภาวะภัยหนาวที่ส่อเค้าความรุนแรงมากกว่าทุกๆ ปี ยังจะส่งผลให้ตัวเลขผู้ขาดแคลนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบและสำรวจเพิ่มเติมเพื่อการช่วยเหลือให้ครอบคุลมและทั่วถึงแล้ว

-'โคราช'ก่อไฟผิงในสวนสัตว์

ที่ จ.นครราชีสมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์นครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา ต้องเร่งนำฟางและเศษหญ้า พร้อมกับติดตั้งไฟยูวี เข้ามาเสริมความอบอุ่นให้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อย่างตัวเมียร์แคต รวมถึงลิงโลกใหม่ ซึ่งเป็นลิงขนาดเล็กที่ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็นต่ำกว่า 19 องศาฯ ได้ และมีการนำเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้กับสัตว์จำพวกลิง ซึ่งไวต่อความรู้สึก หลังจากที่อุณหภูมิในจังหวัดนครราชสีมา ปรับตัวลดลงอย่างกะทันหันในช่วงเช้า ถึง 7 องศาฯ ซึ่ง อุณหภูมิในช่วงเช้าวันที่ 17 ธ.ค. วัดได้ต่ำสุดที่ 16.9 องศาฯ ขณะที่วันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24.2 องศาฯ

นายสัตวแพทย์วชิราวิทย์ สมสา หัวหน้างานสุขภาพสัตว์ ฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์นครราชสีมา กล่าวว่า สัตว์ที่น่าเป็นห่วง ที่สุดในช่วงที่อากาศหนาวเย็น จะเป็นสัตว์เลือดเย็น จำพวกสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก อย่างเช่น งู เต่า และเหี้ยดำ ซึ่งถือเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์นครราชสีมา ต้องหาวิธีคลายหนาวให้สัตว์เหล่านี้ ด้วยการนำสัตว์เลื้อยคลานดังกล่าวมาตากแดด เพื่อรับไออุ่นจากแสงแดด เพราะหากปล่อยให้อยู่ตามยถากรรมโดยไม่มีการเสริมความอบอุ่น อาจจะส่งผลให้สัตว์เจ็บป่วยและล้มตายได้ นอกจากนี้ สัตว์เลือดอุ่นต่างๆ ก็จำเป็นต้องมีการจัดหาอุปกรณ์คลายหนาว เนื่องจากสัตว์บางชนิดมีความรู้สึกไวต่อสภาพอากาศและเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะลิงโลกใหม่ ซึ่งเป็นลิงขนาดเล็กมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศแถบอเมริกาใต้ ที่มีสภาพภูมิประเทศร้อนชื้น

-เพียงข้ามคืนลดลง 7 องศาฯ

วันเดียวกัน สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนคร ราชสีมา รายงานสาเหตุที่สภาพอากาศในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่มีการปรับลดอุณหภูมิลงมาอย่างกะทันหัน ว่า เกิดจากขณะนี้มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ได้เคลื่อนตัวพาดผ่านประเทศไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้อุณหภูมิในพื้นที่จ.นครราชสีมา ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยอุณหภูมิต่ำสุดวัด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ จ.นครราชสีมา วัดได้ 24.2 องศาฯ แต่ในวันที่ 17 ธ.ค. วัดได้ 16.9 องศาฯ จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ปรับตัวลดลงในช่วงข้ามวันถึง 7 องศาฯ และคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอีกจนถึงจุดต่ำสุด ในช่วงเช้าวันที่ 18 ธ.ค. อยู่ที่ประมาณ 16 องศาฯ และจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ไปจนถึงวันที่ 19 ธ.ค. ก่อนที่อุณหภูมิจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในช่วงถัดไป

-'เชียงราย'อ่วมเจอทั้งฝนทั้งหนาว

ที่ จ.เชียงราย สถานีตรวจอากาศเชียงราย พยากรณ์สภาพอากาศตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค ไปจน ถึง 20-23 ธ.ค. ว่า อากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาฯ ยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาฯ โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมใต้ความเร็ว 15-30 ก.ม./ช.ม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-19 ธ.ค. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาฯ อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาฯ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 ก.ม./ช.ม. ในเขตอำเภอเมืองเชียงรายในช่วงเช้า มีหมอกลงจัด ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเปิดไฟหน้าเวลาขับขี่

นายยุทธนา จิตรอบอารีย์ ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เปิดเผยว่า สภาพอากาศหมอกลงจัดในช่วงเช้าวันนี้ ถือว่ายังไม่มากเท่าไหร่ ไม่สร้างปัญหาการขึ้นลงของเครื่องบินมากนัก เนื่องจากทางสนามบินได้มีการเตรียมพร้อมทั้งบุคลากรและอุปกรณ์สื่อสาร แสงไฟทุกอย่าง จึงไม่มีบัญหา

-'สุรินทร์'ขาดแคลนเครื่องกันหนาว

ที่ จ.หนองคาย อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ประมาณ 17 องศาฯ ประกอบกับมีฝนตกลงตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้อากาศหนาวเย็น และมีลมกระโชกแรงตลอดทั้งวัน ท้องฟ้ามีเมฆมาก ฟ้าหลัว ซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้ชาวบ้านในตัวเมืองหนองคาย หาวิธีคลายหนาวด้วยการ พาเด็กเล็ก ก่อไฟผิงให้ไออุ่น ซึ่งต้องคอยเติมเชื้อไฟให้ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ สถานีอุตุนิยม วิทยาหนองคาย แจ้งว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากจีนได้แผ่ลงมาปกคลุม ทำให้ภาคอีสานมีอากาศหนาวเย็นและมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-3 องศาเซลเซียส พร้อมทั้งมีฝนเกิดขึ้น และแจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นเฉียบพลัน อาจทำให้เจ็บป่วยและไม่สบายได้โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

ที่ จ.สุรินทร์ นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าฯ สุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวนี้ แม้ในทุกพื้นที่อุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น แต่ยังไม่ต่ำกว่า 15 องศาฯ ซึ่งอุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ประมาณ 19-21 องศาฯ จึงยังไม่สามารถประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ แต่ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นแล้ว ขอให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งจัดหาเครื่องกันหนาว เพื่อให้ความช่วยเหลือราษฎร จากการสำรวจราษฎรผู้ยากไร้ และขาดแคลนเครื่องกันหนาว รายงานไปยังกระทรวงมหาด ไทย เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือ มีจำนวนกว่า 200,000 ราย

-'เลย'ฝนตกทั้งวัน-ภูเรือ 6 องศาฯ

ที่ จ.เลย อุณหภูมิลดลง 3-6 องศาฯ มีฝนฟ้าคะนอง ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา เกิดฝนตกทั้งวัน อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว กลางคืนอากาศหนาวจัด คืนเดียวอุณหภูมิลดลงถึง 7 องศาฯ ยอด ภูเรือเหลือเพียง 6.5 องศาฯ สภาพอากาศทั่วไปตั้งแต่เช้าวันนี้ ช่วงเช้ามืดมีฝนตกปรอยๆ และท้องฟ้าสลัวอากาศมืดครึ้ม อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้เมื่อเช้าวันที่ 17 ธ.ค. ที่สถานีอุตุนิยมวิทยาเลย วัดได้ 14.5 องศาฯ วันที่ 16 ธ.ค. วัดได้ 21.7 องศาฯ ต่ำสุดที่อำเภอภูเรือวัดได้ 11.0 องศาฯ ยอดภูที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 7.0 องศา ยอดภูหลวง 9.0 องศา ยอดภูเรือ 6.5 องศา ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 69.2 มิลลิเมตร จากสภาพอากาศหนาวในขณะนี้ ทำให้บรรดาชาวบ้าน โดยเฉพาะที่อำเภอนาแห้ว ด่านซ้าย ภูเรือ ต้องก่อไฟผิงแก้หนาวกันตลอดทั้งวัน ที่ยอดภูกระดึงในวันที่ 17 ธ.ค. มีบรรดานักท่องเที่ยวขึ้นไปผจญอากาศหนาวเกือบพันคน คาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอีกประมาณ 2-4 องศาฯ

-'น่าน'ฝนถล่ม-หมอกลงจัด

ที่ จ.น่าน นายสมมาตร ฟุ้งวิทยา อุตุนิยม วิทยาน่าน เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 17-19 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง และมีฝนเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ โดยสภาพอากาศ จ.น่าน เริ่มมีอากาศเย็นลงอีกครั้ง อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 17 องศาฯ และตามยอดดอย พื้นที่สูงจะมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 8-14 องศาฯ นอกจากนี้ ยังมีฝนตกและลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ด้วย ซึ่งคาดว่าช่วงสัปดาห์หน้า อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาฯ

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าฯ น่าน แสดงความห่วงใยนักท่องเที่ยวและประชาชน เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมใน จ.น่าน ช่วงเช้าตรู่มีอากาศเย็น ขอให้ประชาชนหาเครื่องกันหนาวให้พร้อมและดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย การก่อกองไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ต้องให้ระมัดระวังเรื่องฝุ่นละอองที่อาจสูดดมและระคายเคืองตา รวมทั้งเหตุเพลิงไหม้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีหมอกหนาจัด ซึ่งจะส่งผลให้ทัศนวิสัยในการขับขี่รถทุกชนิดลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางขึ้นเขาต่างๆ มีทัศนวิสัยในการมองเห็น เหลือเพียง 50-100 เมตร เท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ที่สัญจรไปมาช่วงดังกล่าว ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ยวดยานเป็นพิเศษ และสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวในช่วงวันหยุด ตามอุทยานต่างๆ ก็ให้เตรียม เครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้เพียงพอ รวมทั้งสอบ ถามข้อมูลเรื่องที่พัก และเส้นทางก่อนออกเดินทาง

-'ร้อยเอ็ด'เปิดสายด่วนภัยหนาว

ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายณัฐ เอกก้านตรง อุตุนิยม วิทยาร้อยเอ็ด เตือนราษฎรในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ดและจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน ระหว่างวันที่ 17-23 ธ.ค. เนื่องจากความกดอากาศสูงหรือมวล อากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาฯ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็น และลมพัดแรง โดยเฉพาะ จ.ร้อยเอ็ด ในวันที่ 17 ธ.ค. มีอากาศหนาวและลมแรง อุณหภูมิสูงสุด 27 องศาฯ ต่ำสุด 15 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและอบอุ่นอยู่เสมอ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ ห่มผ้าให้หนากว่า ปกติ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหาร จุดธูปเทียน สูบบุหรี่ เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ การขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ นอกจากนี้ เกษตรกรควรสร้างสิ่งปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร เพื่อป้องกันผล ผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากน้ำ ค้างแข็ง หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศแปรปรวน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อโดยตรงได้ที่สถานีอุตุนิยม วิทยาร้อยเอ็ด โทร. 0-4352-2446 เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

-แห่เที่ยว'อ่างขาง'-ชมซากุระบาน

ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ฝนตกอากาศเย็น หมอกหนาจัด น.ส.จารุวรรณ ยิมหิ้น ประชาสัมพันธ์สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง กล่าวว่า อากาศบนยอดดอยอ่างขาง อุณหภูมยอดหญ้า 11 องศาฯ ทั่วไป 13 องศาฯ ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อากาศเย็นตลอดวัน อุณหภูมิทั่วไป 22-24 องศาฯ นักท่องเที่ยวทยอยขึ้นดอยอ่างขาง ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ กันมากและสวมเสื้อกันหนาวตลอดวัน เพราะทราบข่าวว่า ดอกซากุระที่โครงการหลวงดอยอ่างขางกำลังบานสะพรั่ง ส่งผลทำให้โรงแรมห้องพักเต็มหมด ที่พักบางที่ราคาก็สูงถึงห้องละ 2,500 บาท

ที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดคืนวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงเช้าวันที่ 17 ธ.ค. สภาพอากาศใน จ.ศรีสะเกษ หนาวเย็นจัด มีลมหนาวพัดกระหน่ำอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เช้าวันนี้ที่บริเวณตลาดนัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกที่บริเวณตลาดต้นมะม่วง ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีบรรดาประชาชนชาวศรีสะเกษ พากันมาหาซื้อเสื้อผ้ากันหนาวมือสองกันอย่างคึกคัก ทำให้เสื้อผ้ากันหนาวมือสองขายดีมาก สนนราคาตั้งแต่ตัวละ 35 บาทไปจนถึงตัวละ 500 บาท หากเป็นเสื้อผ้ากันหนาวมือสองหนังแท้ จะมีราคาประมาณตัวละ 400-500 บาท

ด้านน.พ.ประวิ อ่ำพันธุ์ นายแพทย์ สสจ.ศรี สะเกษ กล่าวว่า ขอฝากเตือนประชาชนชาว ศรีสะเกษที่พากันไปหาซื้อเสื้อผ้ากันหนาวมือสองมาสวมใส่ เพื่อป้องกันภัยหนาว ควรที่จะซักหรือต้มเพื่อทำความสะอาดเสื้อผ้ากันหนาวมือสองก่อนที่จะนำเอาไปสวมใส่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคผิวหนังต่างๆ ที่อาจจะติดมากับเสื้อผ้ากันหนาวมือสอง

-อุตุฯแจงหนาวฉับพลันในกทม.

วันเดียวกัน นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสภาพอากาศที่แปร ปรวน ว่า สภาพอากาศที่เกิดขึ้นไม่ใช่อากาศแปรปรวน แต่เป็นไปตามปกติที่อากาศเย็นจากประเทศจีน ถูกพัดมาปะทะกับอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย จนเกิดฝนตก ส่วนการเกิดอากาศเย็นอย่างฉับพลัน เป็นเพราะมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกพัดเข้ามาแทนที่อากาศที่ร้อนชื้นของประเทศไทย โดยนับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.เป็นต้นไป อากาศจะเย็นและลดต่ำลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ขณะที่กรุงเทพมหานคร อากาศคงไม่ หนาวเหมือนกับภาคเหนือและอีสาน แต่อากาศจะเย็นเพียงอย่างเดียว จะมีฝนตกบางพื้นที่ โดยหลังจากวันที่ 19 ธ.ค. เป็นต้นไป กรุงเทพฯ ก็จะไม่มีฝน มีเพียงอากาศเย็นอย่างเดียว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า เมื่ออากาศเย็นจากประเทศจีนถูกพัดมาแทนที่อากาศร้อนชื้น ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. เป็นต้นไป ในส่วนของภาคใต้ ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงมา ฝนจะตกในลักษณะ ประปราย ไม่ตกหนักจนถึงกับท่วมเหมือนเมื่อก่อน และสิ่งที่ต้องระวังในส่วนของภาคใต้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย คือการเกิดคลื่นลมแรง เนื่องจากการเกิดมรสุม ซึ่งเรือเล็กเรือใหญ่ที่จะออกเรือ ควรฟังการพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์