พัทลุงจม ทะเลหนุน ดินยุบตัว หนีตายวุ่น

พายุฝนยังถล่มพัทลุง น้ำท่วมขังริมทะเลสาบสงขลา น้ำทะเลหนุนซ้ำสูงถึง 1.30 เมตร ใน 5 อำเภอ ชาวบ้าน 15 ครอบครัวต้องย้ายไปนอนศูนย์ศิลปาชีพฯ หวั่นไม่ปลอดภัย

ขณะที่สวนผลไม้ชาวบ้าน อ.ศรีนครินทร์ ดินยุบตัวลึก 4 เมตร กว้างถึง 6 เมตร นายอำเภอสั่งล้อมพื้นที่หวั่นอันตราย เร่งประสานทรัพยากรธรณีเข้าสำรวจสาเหตุ พร้อมแจ้งเตือนทุกพื้นที่ระวังเหตุน้ำท่วม พายุ แผ่นดินทรุด ด้านนครศรีฯ ฝนยังตกไม่หยุด อ.เมือง ร่อนพิบูลย์ พระพรหม น้ำท่วมสูง 50 ซ.ม. แต่น้ำในคลองไม่เพิ่ม หากฝนหยุดคาดลดระดับลง

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถาน การณ์น้ำท่วมจาก จ.พัทลุง ว่า ขณะนี้น้ำยังคงท่วมขังในบริเวณที่ราบลุ่มและริมทะเลสาบสงขลาพื้นที่ อ.เขาชัยสน บางแก้ว ควนขนุน ปากพะยูน และ อ.เมือง จ.พัทลุง เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุน ทำให้ระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.30 เมตร และมีกระแสลมพัดแรง ชาวบ้านหัวป่าเขียว หมู่ 7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน กว่า 30 คน ต้องย้ายมานอนที่อาคารศูนย์ศิลปาชีพเป็นครั้งที่สอง หลังจากเพิ่งย้ายกลับบ้านเมื่อน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาไม่นาน

นายเพียร มาลีทอง อายุ 63 ปี ชาวบ้านหัวป่าเขียว กล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมามีคลื่นลมแรงและมีฝนตกลงมาอีก

ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังอยู่แล้วเพิ่มระดับสูงขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 1.30 เมตร ด้วยสภาพบ้านเรือนของชาวบ้านหมู่ 7 ติดกับริมทะเลสาบ ประกอบกับน้ำทะเลหนุน จึงไม่สามารถนอนที่บ้านได้เกรงว่าจะไม่ปลอด ภัย จึงต้องย้ายสมาชิกในครอบครัวมาอาศัยนอนที่อาคารศิลปาชีพบ้านหัวป่าเขียว ร่วมกับเพื่อนบ้านอีก 15 ครัวเรือน

ด้านนายสถาพร ประทุมทอง นายอำเภอศรีนครินทร์ จ.พัทลุง กล่าวว่า ที่สวนผลไม้ของชาวบ้าน หมู่ 2 ต.ลำสินธุ์ เกิดดินทรุดตัวเป็นวงกว้าง 6 เมตร ลึก 4 เมตร เบื้องต้นได้สั่งให้นำเชือกไปกั้นรอบบริเวณดินทรุดตัวแล้ว พร้อมสั่ง ไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อรอให้นักธรณีวิทยาลงสำรวจสภาพพื้นที่ เพราะบริเวณ ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้แหล่งชุมชนบ้านเรือนชาวบ้านเกรง จะได้รับอันตรายหากดินเกิดการทรุดตัวซ้ำอีก

นายพิสิษฐ บุญช่วง ผวจ.พัทลุง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ที่ดินทรุดอยู่ห่างจากบริเวณลำคลองประมาณ 30 เมตร

แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการทรุดของดิน ทางจังหวัดได้ประสานไปยังกรมทรัพยากรธรณี เพื่อให้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้นและประกาศห้ามไม่ให้เข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ และที่ผ่านมาทางจังหวัดได้ประกาศเตือนชาวบ้านอยู่ทุกระยะ หากยังมีฝนตกอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยเฉพาะแถบเทือกเขาบรรทัด ขอให้ประชาชนระมัดระวังเกี่ยวกับดินโคลนถล่ม อย่างไรก็ตามในการป้องกันนั้นทางจังหวัดได้ติดตั้งสัญญาณและมีอาสาสมัครหรือมิสเตอร์เตือนภัย คอยเตือนภัยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากเกิดเหตุร้ายแรงสัญญาณก็จะดังขึ้นและพี่น้องประชาชนก็จะทราบล่วงหน้า เพื่อสามารถอพยพเคลื่อนย้ายประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยที่จัดเตรียมไว้

ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนหยุดตกในช่วงเช้า แต่ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม

ซึ่งพื้นที่น้ำท่วมมากที่สุดในบางตำบลของ 3 อำเภอ คือ อ.ร่อนพิบูลย์, เมือง และพระพรหม โดยเฉพาะที่หมู่ 6 ต.ช้างซ้าย มีน้ำท่วมสูงประมาณ 30-50 ซ.ม. พื้นที่ทางการเกษตรจมอยู่ใต้น้ำเป็นบริเวณกว้าง ส่วนระดับน้ำตามลำคลองก็ไม่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากฝนหยุดตกน้ำที่เอ่อล้นเต็มตลิ่งก็จะลดระดับลง

นายธนวัฒน์ เรืองเดช นักวิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัย จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า 3 อำเภอที่มีน้ำท่วมนั้น และเริ่มลดระดับแล้ว บางหมู่บ้านมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ชาวบ้านถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาในช่วงหน้าฝน แต่ขณะที่น้ำลดลงก็จะไปเพิ่มระดับในพื้นที่รับน้ำ 3 อำเภอ คือ อ.ปาก พนัง, เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ก่อนจะไหลออกสู่ทะเลต่อไป

สำหรับเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีน้ำเข้าท่วมขังเล็กน้อยตามแนวริมคลอง มีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบต้องเตรียมพร้อม บางหลังขนย้ายข้าวของหนีน้ำบ้างแล้ว อย่างไรก็ ตามเพื่อความไม่ประมาท ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือน้ำท่วมในครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพราะสภาพอากาศยังไม่น่าไว้ใจ นอกจากนั้นจะสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่ทราบว่าเป็นพื้นที่ทางการเกษตรเท่านั้น

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์