ยูโรแข็งค่า ก่อนการประชุมธนาคารกลางยุโรป

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม 2553 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.02/05 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากราคาปิดวานนี้ (1/12) ที่ระดับ 30.04/06 บาท/ดอลลาร์ 


เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้น โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี SS&P 500 ทะยานขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน หลังจากที่เมื่อคืนนี้ ADP Employer Services เปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า นายจ้างภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มการจ้างงานสูงเกินคาดถึง 93,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 50 หลังปรับตัวขึ้น 82,000 ตำแหน่งในเดือน ต.ค. 53 หนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับตลาดแรงงานก่อนกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ (3/12) ตลาดแรงงานเป็นภาคที่อ่อนแอที่สุดของเศราฐกิจสหรัฐ และนักเศรษฐศาสตร์มองว่าการปรับตัวขึ้นในภาคดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น ส่วนสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศลดลงสู่ 56.6 ในเดือน พ.ย. จาก 56.9 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายซึ่งระดับที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิต สินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขวิกฤตหนี้ของยูโรโซน โดยธนาคารกลางยุโรปมีการประชุมวันนี้ (2/12) ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.97-30.05 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดไปที่ระดับ 30.03/05 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

 


 นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง มองการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วานนี้ (1/12) มีผลกระทบต่อเงินบาทไม่มากนักเนื่องจากส่วนต่างดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐ ยังไม่อยู่ในระดับที่สูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค กนง.มีมติ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาที่ 2.00% หลังมองแรงกดดันด้านเงินเฟ้อพื้นฐาน มีแนวโน้มสูงขึ้น จากการขยายตัวยของเศรษฐกิจ และมองว่าหากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำนานเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในอนาคต

 


 ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.3110/15 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าขึ้นยืนเหนือระดับ 1.3100 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่นักลงทุนซื้อคืนเงินยูโร ก่อนการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันนี้ (2/12) โดยนักลงทุนฝากความหวังไว้ที่อีซีบี เพื่อช่วยคลายวิตกเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ในยูโรโซนด้วยการขยายโครงการซื้อพันธบัตร เพื่อพยุงตลาดพันธบัตรรัฐบาลของประเทศรอบนอกยูโรโซน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่าอีซีบีจะดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นเพื่อปกป้องเสถียรภาพของยูโรโซน ขณะข่าวรอยเตอร์รายงานว่าสหรัฐพร้อมที่จะสนับสนุนการเพิ่มวงเงินในกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) โดยผ่านทางการให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวในเวลาต่อมาว่ายังไม่มีการหารือกันในขณะนี้ ปัจจุบันนี้ไอเอ็มเอฟมีภาระผูกพันในการจ่ายเงินสมทบ 2.50 แสนล้านยูโร แก่ EFSF ขณะที่สหรัฐเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในไอเอ็มเอฟ โดยกองทุน EFSF นี้เป็นกองทุนของสหภาพยุโรป/ไอเอ็มเอฟ และมีวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโร (9.80 แสนล้านดอลลาร์) โดยหลังจากตลาดยุโรปเปิด ค่าเงินยูโรได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐก่อนปิดตลาดไปที่ระดับ 1.3210/11 ดอลลาร์/ยูโร

 


 ตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานรายเดือนของรัฐบาลสหรัฐ ที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยตลาดคาดว่าจะบ่งชี้ถึงการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐ โดยในผลสำรวจของรอยเตอร์นั้น การจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) จะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. ขณะที่การจ้างงานภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 153,000 ตำแหน่ง ตัวเลขการว่างงาน (unemployment rate ) จะบ่งชี้ว่า อัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ 9.6% ในเดือน พ.ย.
 อัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +1.6/+2.0 สตางค์/ดอลลาร์
และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +1.0/+2.0 สตางค์/ดอลลาร์


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์