DSIจับแก๊งปลอมพาสปอร์ตโยงก่อการร้าย



ดีเอสไอจับแก๊งค์ปลอมพาสปอร์ต โยงก่อการร้ายข้ามชาติ โยงระเบิดสถานีรถไฟแมดริด สเปน


วันนี้ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ รักษ์ศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กรมศุลกากร และตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตสเปน ประจำประเทศไทย แถลงข่าว การจับกุมแก๊งปลอมหนังสือเดินทาง

โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ได้ร่วมกับทางการประเทศสเปน แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรข้ามชาติ ที่มีความเชื่อมโยงกับการก่อการร้าย โดยเฉพาะกลุ่มชาวเอเชียใต้ ที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย และใช้เป็นแหล่งผลิตหนังสือเดินทางปลอม โดยกลุ่มคนร้ายจะขโมยหนังสือเดินทางจากหลายประเทศ โดยเฉพาะแถบยุโรป สเปน ฝรั่งเศส และนำมาปลอมแปลงในประเทศไทย เพื่อจำหน่ายให้กับบุคคลที่ต้องการเดินทางไปประเทศที่สาม รวมถึงส่งไปยังประเทศต่าง ๆ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับผู้กระทำผิด ที่นำหนังสือเดินทางไปใช้ในหลายรูปแบบ ทั้งกระบวนการก่อการร้าย การค้ามนุษย์ การค้าอาวุธ และการลักลอบเข้าเมือง
               
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ดีเอสไอได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพบกล่องไปรษณีย์ต้องสงสัย ตรวจสอบภายในกล่องพบว่า มีการซุกซ่อนหนังสือเดินทางไว้ในเสื้อยืด จึงได้จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายมูฮัมหมัด อัทเธอร์ บัตต์ อายุ 39 ปี สัญชาติปากีสถาน, นางสาวสิริกัลยา กิจบำรุง อายุ 25 ปี และ นายซีซาน อัชซาน บัตต์ อายุ 27 ปี สัญชาติปากีสถาน จากการตรวจค้นห้องพักผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่การ์เด้นคอร์ทคอนโดมิเนียม พบของกลางจำนวนมาก ทั้งตราประทับ ตู้อบไฟแบล็คไลท์ขนาดใหญ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ้นท์ แผ่นหน้าหนังสือเดินทาง ภาพถ่ายบุคคลชาวต่างชาติขนาด 2 นิ้ว จำนวนมาก หลักฐานการส่งข้อมูลการสั่งทำเอกสารปลอมทางอีเมล์ กล่องพัสดุไปรษณีย์ของประเทศสเปน ซึ่งจากการสืบสวนมีความชัดเจนว่า กลุ่มผู้ต้องหาใช้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตหนังสือเดินทางปลอม ที่ขโมยมาจากนักท่องเที่ยวแถบทวีปยุโรป และนำไปจำหน่ายให้อาชญากรข้ามชาติ ก่อเหตุวินาศกรรมหลายจุด เช่น เหตุระเบิดสถานีรถไฟในกรุงแมดริด ประเทศสเปน อย่างไรก็ตาม ในประเทศสเปนก็ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดในประเทศไทยได้ 7 ราย เป็นชาวปากีสถาน 6 ราย ชาวไนจีเรีย 1 ราย ขณะที่ หน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศเบลเยี่ยม สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวตะวันออกกลางได้ 2 ราย โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการขยายผลเครือข่ายที่เหลือ จากข้อมูลที่ได้รับพบว่า ผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดเป็นกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายลัสการ์อีไตบ้า และเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุวินาศกรรมหลายครั้งในประเทศสเปน
               
ด้าน นายธาริต กล่าวว่า เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพ โดยในวันนี้ (2 ธ.ค.) ดีเอสไอได้นำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังแล้ว
               
สำหรับขบวนการปลอมแปลงหนังสือหนังสือเดินทางปลอม ซึ่งเชื่อมโยงกับก่อการร้าย จากการตรวจสอบจะได้ข้อมูลกรณีที่พบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดใช้เอกสารหนังสือเดินทางที่ปลอมแปลงมาจากประเทศไทย โดยการขโมยหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยวจากแถบประเทศยุโรป ซึ่งผู้ที่ขโมยหนังสือเดินทางมีความเชื่อมโยงกับผู้ที่ถูกจับจากเหตุวินาศกรรม ทั้งนี้ หลังขโมยมาแล้วหนังสือเดินทางจะถูกส่งเป็นพัสดุมายังประเทศไทยในหลายรูปแบบ ทั้งการยัดใส่กระป๋องผลไม้ และการติดไว้กับเสื้อยืด โดยการปลอมแปลงหนังสือเดินทางจะมีทั้งการปลอมเพียงใบปะหน้า และปลอมทั้งเล่ม ซึ่งปัจจุบันขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางสามารถปลอมแปลงได้เหมือนเล่มจริง แม้กระทั่งลายน้ำของแต่ละประเทศ ทำให้ยากแก่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ส่วนราคาจะขึ้นอยู่กับความเก่า และประเทศของหนังสือเดินทาง รวมถึงจำนวนตราประทับการเดินทางเข้าออกแต่ละประเทศ เพราะยิ่งใช้งานมากเท่าไหร่ ราคาจำหน่ายยิ่งสูง โดยทั่วไปซื้อขายกันเริ่มตั้งแต่ราคา 30,000 บาท ไปจนถึงหลักแสนบาท.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์