หาดใหญ่ วิปโยคแสนชีวิตติดเกาะ

"ในหลวง-ราชินี" พระราชทาน 5 ล้าน ซับน้ำตาราษฎร รับสั่งนำเครื่องอุปโภค-บริโภคจากท้องพระคลังช่วย "หาดใหญ่" วิปโยคท่วมหนักสุดในรอบ 22 ปี


วานนี้ (2 พ.ย.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยผู้ประสบอุทกภัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 5,000,000 บาท เพื่อให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำไปจัดซื้อไฟฉาย น้ำดื่มสะอาด และเครื่องอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ที่จำเป็น มอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ
     
พ.อ.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริ

พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้ร่วมอำนวยการในการเบิกเครื่องอุปโภคและบริโภคจากท้องพระคลังของพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ โดยให้กำลังพลจากกรมทหารพรานที่ 46 พร้อมด้วยกำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ศิลปาชีพ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ นำเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้งรวมทั้งผลไม้ และเครื่องนุ่งห่มมาบรรจุเป็นถุง 5,000 ชุด เพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รวมทั้งจะได้กระจายความช่วยเหลือไปยังประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและสตูล

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้นำถุงยังชีพพระราชทานทั้งหมดลำเลียงขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำไปหย่อนตามจุดที่ประชาชนต้องประสบกับภาวะน้ำท่วมอย่างหนักเป็นการเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณกว่า 3 แสนคนแล้ว

"หาดใหญ่" จมบาดาล 3 เมตร
   
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยที่ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่มีกระแสน้ำเชี่ยวกราก ไหลท่วมพื้นที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งในเขตเศรษฐกิจถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 ถึง 3 ถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนศรีภูมนารถ และถนนรัถการ น้ำท่วมสูงตั้ง แต่ 1-3 เมตร โดยน้ำได้ทะลักจากขอบคลองอู่ตะเภา และคลองต่าง ๆ เข้ามาอย่างรวดเร็วจนประประชนตั้งตัวไม่ทัน  ไม่สามารถขนข้าวของออกมาได้ ต่างพากันหนีไปบนชั้นสอง บางจุดที่น้ำท่วมสูงต้องปีนขึ้นหลังคาเพื่อเอาชีวิตรอด หลังเกิดเหตุมีการตัดกระแสไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ จึงทำให้ตัวเมืองหาดใหญ่ถูกตัดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ด้าน นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เช่นสำนักงานบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ อบต.เทศบาล อบจ. และทางจังหวัด ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่แล้ว
100,000 ชีวิตรอช่วยเหลือ

ด้าน นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีผู้ที่ยังหนีออกจากบ้านไม่ได้และติดอยู่ในกระแสน้ำเกือบ 40,000 คน ผู้ได้รับความเดือดร้อนกว่า 100,000 คนปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การขาดแคลนเรือท้องแบน น้ำดื่ม อาหารการกิน การติดต่อสื่อสารพื้นฐานและโทรศัพท์มือถือถูกตัดขาด มีผู้ที่ติดอยู่ในบ้านซึ่งน้ำสูงถึงชั้น 2 มีผู้ติดอยู่บนหลังคาบ้านจำนวนหลายร้อยราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจช่วยผู้ที่เห็นว่าอยู่ในโซนอันตรายก่อน สำหรับชุมชนที่เป็นโซนอันตายที่สุดขณะนี้คือชุมชนโคกสมานคุณ ชุมชนรัตนอุทิศ ชุมชนทุ่งเสา ซึ่งอยู่ในที่ลุ่มต่ำ


ขนคนไข้ขึ้นเอลิคอปเตอร์หนีน้ำ

นพ.สุรชัย ล้ำเลิศเกียรติกุล รักษาการ ผอ.รพ.ศูนย์หาดใหญ่ เปิดเผยว่า น้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมโรงพยาบาลซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก จึงต้องประกาศปิดโรงพยาบาลและอพยพคนไข้บางส่วนไปยัง รพ.มอ. โดยโรงพยาบาลสามารถรับส่งน้ำและอาหารได้ทางดาดฟ้า ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เส้นทางเดียวเท่านั้น

ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยทางภาคใต้ พบว่าโรงพยาบาลที่เข้าขั้นวิกฤติมี 3 แห่ง คือ รพ.ศูนย์หาดใหญ่ รพ.สะเดา และ รพ.สมเด็จฯ นาทวี โดย รพ.ศูนย์หาดใหญ่ ที่มีผู้ป่วยนอนรักษา 559 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 70 ราย ล่าสุด ทางโรงพยาบาลได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ ส่งต่อผู้ป่วยหนัก 8 รายไปรักษาที่ รพ.สงขลานครินทร์ หาดใหญ่

12 ชั่วโมงวิกฤติไร้มือช่วย


ขณะเดียวกัน กระแสน้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ที่ทำการเทศบาลนครหาดใหญ่ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวนมาก ที่ต่างร้องขออาหารและน้ำดื่ม โดยนับแต่เกิดเหตุน้ำท่วมเฉียบพลันเป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมง ทางเทศบาลฯ และจังหวัดสงขลา ยังไม่สามารถตั้งกองบัญชาการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างเป็นทางการ มีเพียงศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเท่านั้น ที่เปิดอย่างเป็นทางการ แต่ตั้งอยู่ไกลถึงสนามบินหาดใหญ่ และมีหมายเลขโทรศัพท์เพียงเลขหมายเดียว
   
นอกจากนี้ยังมีประชาชน นักท่องเที่ยวนับ 1,000 คน ติดอยู่ในโรงแรมต่าง ๆ กว่า 30 แห่ง  ได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลนอาหาร นำดื่ม และไม่มีไฟฟ้าใช้
มือถือไร้สัญญาณ โดยผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ ต่างได้รับความเดือดร้อน เพราะโทรศัพท์มือถือใช้ไม้ได้ เนื่องจากเครือข่ายล่มและไร้ไฟฟ้าชาร์จแบตเตอรี่

โดย นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวชี้แจงปัญหาโทรศัพท์มือถือถูกตัดขาดว่า เป็นเพราะเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เสียหาย 80 เสา จากเดิมที่มีอยู่ 200 เสา สาเหตุเป็นเพราะเครื่องปั่นไฟของเสาส่งสัญญาณฯ ชำรุด ได้สั่งการแก้ไขด้วยการส่งรถดาวเทียมเคลื่อนที่ของ บมจ.ทีโอที ไปเชื่อมต่อสัญญาณแล้ว คาดว่าในค่ำวันเดียวกันนี้ การสื่อสารจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ส่วนพระสงฆ์ตามวัดต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เช่น วัดคลองเรียน วัดหงส์ประดิษฐาราม วัดโคกสมานคุณ ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะน้ำท่วมสูง ไม่สามารถบิณฑบาตได้ ส่วนที่โรงเรียนมัธยมหาดใหญ่พิทยาคาร ต.ควนลัง ได้มีนักเรียนกว่า 400 คน ติดอยู่ชั้น 2 ของตัวอาคาร ขาดน้ำดื่มและอาหารตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยและคนแก่ติดอยู่ในบ้านพักหมู่ที่ 1 ต.คลองแห 4 คน โดยมีรายงานว่า มีผู้จมน้ำเสียชีวิต 1 ราย ขณะพยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย

โวยชะล่าใจรับมือน้ำท่วม

   
อย่างไรก็ตามพบว่าปริมาณฝนตกในพื้นที่ จ.สงขลา ลดน้อยลง แต่น้ำจาก อ.สะเดา อ.นาหม่อม ได้ไหลเข้าสู่ อ.หาดใหญ่ มากขึ้น ทำให้น้ำท่วมในอำเภอรอบนอกลดน้อยลง แต่น้ำในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ กลับเพิ่มสูงขึ้น สร้างความเดือนร้อน และวิตกกังวลให้กับผู้ประสบภัยเป็นอย่างยิ่ง
   
ทั้งนี้มีรายงานว่าประชาชนในพื้นที่ต่างไม่พอใจในความช่วยเหลือที่ล่าช้าของเทศบาล จังหวัด เทศบาล และ อบต. ที่ต่างอ้างว่าไม่มีเรือและน้ำมาเร็วจนเตรียมตัวไม่ทัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำท่วมเมื่อปี 2543 ที่น้ำท่วมหนักเช่นกัน แต่ได้รับการช่วยเหลือที่เร็วกว่า โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 4 ที่มีการตั้งกองบัญชาการ ที่มณฑลทหารบก 42 เพื่อช่วยเหลือผู้คน โดยการใช้เฮลิคอปเตอร์นำอาหารไปทิ้งให้ผู้ที่ติดอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั้งยังระดมเรือและรถจีเอ็มซีออกช่วยผู้ประสบภัยแต่ครั้งนี้ทุกหน่วยงานกลับไม่มีความพร้อม และอ้างไปในแนวทางเดียวกันว่า น้ำมาเร็วเกินความคาดหมายจนช่วยเหลือไม่ทัน นอกจากนี้ความช่วยเหลือของหน่วยงานจากส่วนกลางยังมุ่งไปแต่ อ.หาดใหญ่ ทั้งที่พื้นที่อื่นก็ประสบภัยเช่นกัน

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์