ลอนดอน 27 ต.ค.- นักวิทยาศาสตร์อังกฤษทำการศึกษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่พบว่า มีเด็ก 70 คน เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวในอังกฤษในช่วงระยะเวลา 9 เดือน ระหว่างที่เชื้อไวรัส H1N1 แพร่ระบาด และมีอัตราการเสียชีวิตสูงในกลุ่มเด็กที่เป็นชนกลุ่มน้อยและเด็กที่มีปัญหาสุขภาพอื่นๆ
ผลการศึกษาในวารสารแลนเซทของอังกฤษระบุว่า นายเลียม โดนัลด์สัน อดีตนายแพทย์ใหญ่ของอังกฤษกล่าวว่า
เด็กจากชุมชนชาวบังกลาเทศและปากีสถานในอังกฤษมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากกว่าเด็กผิวขาวชาวอังกฤษ เช่นเดียวกับในกลุ่มเด็กที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอยู่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางระบบประสาท เช่น พิการทางสมอง ซึ่งนายโดนัลด์สันและคณะวิจัยกล่าวว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้ควรได้รับวัคซีนป้องกัน H1N1 เป็นลำดับแรก
อย่างไรก็ตาม คณะของนายโดนัลด์สันกล่าวว่า ผลการศึกษาที่พบว่าชนกลุ่มน้อยมีอัตราการเสียชีวิตสูงสอดคล้องกับรายงานจากสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังพบว่าตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2552 ถึงวันที่ 22 มีนาคม 2553 อัตราการเสียชีวิตของเด็กจากเชื้อไวรัส H1N1 อยู่ที่ 6 คนต่อประชากรทุก 1 ล้านคน และอัตราการเสียชีวิตของเด็กในช่วงอายุต่ำกว่า 1 ขวบนับว่าสูงที่สุด ที่ 14 คนต่อประชากรทุก 1 ล้านคน และอัตราการเสียชีวิตของเด็กชาวบังกลาเทศและปากีสถานสูงกว่าเด็กผิวขาวชาวอังกฤษ
ทั้งนี้ เด็ก 70 คน ที่เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส H1N1 ในอังกฤษ ประมาณร้อยละ 21 มีสุขภาพดี และร้อยละ 64 มีอาการผิดปกติก่อนหน้า
และจากเด็กทั้งหมด มี 45 คน ที่ได้รับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ หรือทามิฟลู มีเพียง 7 คน ที่ได้รับยาดังกล่าวภายในเวลา 48 ชั่วโมง ขณะปรากฏอาการป่วย และ 3 คนได้รับยาก่อนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยมีเด็ก 2 คน เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีน H1N1 เนื่องจากได้รับวัคซีนช้าเกินไป. -สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
