สุวิทย์เล็งชงรบ.ตั้งงบฯซื้อ ฮ.ใหม่ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ช่วยบิน

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)

เตรียมเสนอรัฐบาลตั้งงบประมาณเพื่อจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ใหม่ มาทดแทนเฮลิคอปเตอร์ รุ่นอีโคลอย หรือ AS350 1103 หลังเกิดอุบัติเหตุตกที่บ้านน้ำแขว่ง ต.เมืองลี อ.นาหมื่น จ.น่าน ทำให้นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัด ทส. นายโกวิท ปัญญาตรง ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง พ.ต.เจนวิทย์ อรุณสวัสดิ์ นักบิน และ ส.อ.วิฑูล เชียรเงิน ช่างเครื่องเสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา


ทั้งนี้ นายสุวิทย์ให้สัมภาษณ์ภายหลังนำคณะเข้าตรวจสอบเฮลิคอปเตอร์ภายในโรงซ่อม สนามบินกองบินปีกหมุน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

โดยมีนายละม่อม นันทวนิชย์ หัวหน้าช่างซ่อมบำรุง นำตรวจ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ว่าเครื่องบินในโรงซ่อมแห่งนี้มีกว่า 14 ลำ แต่ใช้การได้จริงแค่ 5 ลำ นอกนั้นใช้การไม่ได้ อยู่ระหว่างรอจำหน่ายเครื่องเสีย เนื่องจากมีการตกเสียหาย ตัวเครื่องเสียการทรงตัว ไม่สามารถนำขึ้นบินได้ ต้องขายทิ้งเป็นของเก่าไป แต่ไม่มีของใหม่มาเพิ่มเติมให้ศูนย์ซ่อมแห่งนี้


"เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.น่าน ไม่โทษตัวนักบิน เนื่องจากเครื่องบิน เลขที่ 1103 ลำดังกล่าวไม่สมบูรณ์ นักบินเองต้องใช้ความสามารถพิเศษเพียงอย่างเดียว โดยเครื่องบินลำดังกล่าวมีข้อผิดผลาดเรื่องการสื่อสารต่างๆ เช่น เครื่องรับสัญญาณไพล็อต สัญญาณนิรภัย วิทยุสื่อสารมีเพียงช่องรับสัญญาณเพียงช่องเดียว ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้เลย ที่สำคัญไม่มีเครื่องเตือนภัยเมื่อประสบอุบัติเหตุ หรือ ELT จากนี้ไปจะดำเนินการตรวจเช็คเครื่องบินแต่ละลำว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เนื่องจากเครื่องบินแต่ละลำมีอายุใช้งานมาหลายสิบปีแล้วและเป็นเครื่องเก่าแก่ บางรุ่นไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งรัฐบาลต้องตั้งงบประมาณจัดซื้อหาเครื่องบินมาให้ใหม่และเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยเพื่อนำมาใช้ โดยคงต้องพูดจากันในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป"นายสุวิทย์กล่าว


นายสุวิทย์กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ 5 ลำ ที่ยังใช้งานได้อยู่ มีเพียง 2 ลำ ที่มี ELT ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเครื่องเคลื่อนที่ได้

โดยยกเครื่องดังกล่าวขึ้นเครื่องไปด้วยหากออกบิน ซึ่งเครื่องนี้จะทราบผลว่าหากตัวเครื่องบินลงฉุกเฉินหรือกระแทกอย่างแรง จะสามารถจับสัญญาณได้ โดยสัญญาณจะขึ้นที่จอเรดาร์ จึงสามารถหาจุดตกได้ แต่เฮลิคอปเตอร์ลำที่เกิดเหตุไม่มีระบบดังกล่าวติดตั้งไว้ การค้นหาจึงพบได้จากสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เบื้องต้นต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจเช็คสภาพการใช้งานของแต่ละลำอย่างละเอียด และสั่งหยุดการบินเฮลิคอปเตอร์ ของสำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากนั้นจะรวบรวมการตรวจสอบทั้งหมดยื่นเข้า ครม.ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้   


ด้านนักบินประจำสำนักการบินอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทส.รายหนึ่งร้องเรียน มติชน ว่าอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกครั้งนี้ ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงคือ ผู้อำนวยการสำนักการบินฯ

เนื่องจากเป็นผู้ที่ทำการเปลี่ยนแปลงตัวนักบิน "การนำคณะผู้บริหาร หรือคณะวีไอพีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ โดยทั่วไปจะต้องใช้นักบินฝีมือดี มีประสบการณ์สูง 2 คน แต่ครั้งนี้บังเอิญนักบินฝีมือดีไม่เป็นที่ถูกใจ จึงถูกเปลี่ยนตัว โดยมีการเรียกใช้นักบินจาก จ.ขอนแก่น ไปทำการบินแทน ซึ่งนักบินรายนี้ในกลุ่มนักบินด้วยกันทราบดีว่ามีประสบการณ์การบินน้อย ดังนั้น เมื่อประสบกับสภาพอากาศแปรปรวนจึงทำให้เกิดปัญหา และเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว


นายสุวิทย์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่เคยทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน ขณะนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก

และจะขอตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ส่วนการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกนั้น ได้มอบหมายให้นายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ รองปลัด ทส.ในฐานะกำกับดูแลสำนักการบินฯ ดำเนินการ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะประกอบไปด้วยบุคคลใด แต่คาดว่าจะได้รายชื่อในเร็วๆ นี้


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์