แฉกระชับบ่อนไก่ยิงหนุ่ม19ทะลุตา

เหยื่อปืน - นายสิทธิพงษ์ สิทธิสีจันทร์ วัย 19 ปี 
ถูกยิงตาทะลุจากเหตุกระชับพื้นที่ย่านบ่อนไก่
กลายเป็นคนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ 
นางศกุตลา มารมย์ มารดา แม่ค้าส้มตำร้องขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล

แม่เหยื่อปืนจากปฏิบัติการกระชับพื้นที่ม็อบแดง ย่าน "บ่อนไก่" ช่วงพฤษภาอำมหิต ร้องเรียน "ข่าวสด" ลูกชายวัย 19 ปีถูกจนท.ยิงทะลุหัว คมกระสุนทำลายระบบประสาท หมอต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกและควักลูกตาออก 


จากกำลังหลักช่วยหาเลี้ยงครอบครัว ต้องพิการตาและหูซ้าย ร่างกายซีกขวาไม่มีแรง ทั้งที่ลูกไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม แต่ภาครัฐไม่เคยยื่นมือเยียวยา ทุกวันนี้ดำรงชีพอยู่อย่างยากลำบาก ล่าสุดยังมีหลานถือกำเนิดขึ้นมาให้ดูแลอีกคน ฝากถามรัฐบาลมาร์คและผู้สั่งการยิงว่าประชาชนเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายจริงหรือ เพราะแต่ละคนมีเพียงหนังสติ๊กเป็นอาวุธในมือ

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรับเรื่องร้องเรียนจากนางศกุตลา มารมย์ อายุ 42 ปี มารดานายสิทธิพงษ์ หรือมิน สิทธิสีจันทร์ อายุ 19 ปี เหยื่อกระสุนปืนจากปฏิบัติการกระชับพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์สลายมวลชนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นางศกุตลากล่าวว่า นายสิทธิพงษ์ หรือ "มิน" บุตรชาย ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ขณะไปอยู่ย่านบ่อนไก่ กทม. กระสุนทะลุเข้าศีรษะด้านซ้าย 1 นัด ส่งผลต่อระบบประสาทการพูดและการเขียนของลูก ต่อมาแพทย์ต้องควักลูกตาด้านซ้ายทิ้งและหูด้านซ้ายก็ดับ ไม่ได้ยินเสียงใดๆ สงสารลูกมากที่ทุกข์ทรมานขนาดนี้ ตอนอยู่ร.พ. แพทย์ต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะออกเพื่อลดอาการสมองบวม ปัจจุบันไม่มีกะโหลก แพทย์บอกว่าหากครบกำหนด 6 เดือนให้มาใส่กะโหลกได้

"ลูกชายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักช่วยดิฉันทำน้ำเต้าหูขายที่ตลาด ซึ่งเป็นงานหนักพอสมควร การทำแต่ละครั้งต้องมีกรรมวิธีมากมายต้องปั่นถั่วเหลืองตั้งแต่ตี 3 และแยกกากออก จากนั้นนำไปต้มให้เดือดจนฟองหมดไม่อย่างนั้นจะเหม็นเขียว ทุกขั้นตอนใช้เวลามากและใช้แรงยก ปกติลูกชายจะคอยช่วยตลอด แต่เขาทำไม่ได้อีกต่อไป จึงต้องเลิกอาชีพนี้" นางศกุตลาระบุ

มารดาเหยื่อกระชับพื้นที่เปิดเผยต่อว่า ในอดีตน้องมินเป็นคนแข็งแรงมากช่วยงานทุกอย่างไม่มีเกี่ยง แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เรียนเพราะลาออกเพื่อมาขายของเนื่องจากเป็นงานที่ลูกชอบ น้องมินเป็นคนพูดเก่ง มนุษยสัมพันธ์ดีมีเพื่อนมีลูกค้าประจำมาก แต่หลังเกิดเหตุน้องมินช่วยได้แค่ออกแรงเท่าที่มี เพราะมือข้างขวายังใช้การไม่ถนัด ไม่มีแรง ตาและหูข้างซ้ายพิการ ตาขวาเริ่มมัว และยังสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้มากนอกจากตน ส่วนพ่อของน้องมินเลิกกันมานานแล้วตั้งแต่น้องมินคลอดมาได้เพียง 2 เดือน กระทั่งตนแต่งงานใหม่ซึ่งก็รักน้องมินมาก แต่ขณะนี้สามีใหม่ป่วยไส้ติ่งแตกเพิ่งผ่าตัดประมาณ 1 เดือนยังทำงานหนักไม่ได้ ทุกวันนี้ครอบครัว ยึดอาชีพขายส้มตำ น้องมินทำได้เพียงช่วยนั่งเฝ้ารถเข็นปลาเผาหน้าร้าน ส่วนด้านแรงงานช่วยเข็นรถ จัดของ จัดผักของส้มตำได้บ้าง แต่ไม่สามารถค้าขายอย่างเก่า เพราะระบบประสาท เสียไป ทำให้โต้ตอบกับลูกค้าไม่ได้ 

"น้องมินมีครอบครัวแล้ว ภรรยาวัย 21 ปี เพิ่งคลอดลูกชายเมื่อวานนี้ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ชื่อเด็กยังไม่ได้ตั้งคงต้องให้พ่อเขาตั้งเอง ส่วนค่าใช้จ่ายในการคลอดใช้สิทธิ์บัตร 30 บาท แทน อย่างไรก็ตาม ระหว่างน้องมินมองผ่านห้องกระจกเห็นหน้าภรรยาและลูกชายที่เพิ่งคลอดเป็นครั้งแรกเขาดีใจมาก ยืนยิ้มมองจ้องลูกชายตลอดเวลา แต่พูดไม่ได้ ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบ ครัวลำบากพอสมควร เพราะสมาชิกในบ้านส่วนใหญ่มีร่างกายไม่สมบูรณ์ น้องมินถูกยิงบาดเจ็บ สามีเพิ่งผ่าไส้ติ่งยังทำงานหนักไม่ได้ ทุกวันนี้ต้องสู้ทนเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว รายได้เฉลี่ยจากการขายของวันละประมาณ 1 พันบาทยังไม่หักต้นทุนค่าของ อยากให้หน่วยงานรัฐหันมาดูแลครอบครัวบ้าง เนื่องจากสาเหตุที่ลำบากอยู่ทุกวันนี้เพราะลูกชายถูกเจ้าหน้าที่รัฐยิง ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเลย ท่านผู้ใดประสงค์ช่วยเหลือบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน ประ เภทเผื่อเรียก สาขาบางนา ของนางศกุตลา มารมย์ เลขที่ 05-1140-99282-0" นางศกุตลากล่าว

นางศกุตลาตั้งคำถามถึงผู้มีอำนาจด้วยว่า อยากฝากถามไปยังรัฐบาลและผู้สั่งการยิงประ ชาชนว่าประชาชนที่มารวมตัวในวันนั้นเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายหรืออย่างไร พวกที่มาชุมนุมแต่ละคนมีเพียงหนังสติ๊กเป็นอาวุธในมือเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายอำพล นาคบำรุง หรือน้องมอส อายุ 18 ปี พนักงานร้านอาหารยาโยอิ สาขามาบุญครอง เครือสุกี้เอ็มเค ถูกกระสุนที่ยิงมาจากฝั่งทหารพุ่งทะลุลำคอขณะเดินไปขึ้นรถเมล์บริเวณโรงแรมเซ็นจูรี่ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม. เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ว่า อาการยังสาหัส นอนรักษาตัวอยู่ที่ร.พ. ราชวิถี และยังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐ ญาติน้องมอสเผยว่า น้องมอสยังต้องฟื้นฟูร่างกาย พร้อมกับทำกายภาพบำบัด ล่าสุดขาข้างขวาบวมจากการติดเชื้อบริเวณข้อกระดูกสะโพกข้างขวา ต้องการรถเข็นที่ปรับนั่งนอนได้พร้อมที่บล็อกคอ หากผู้มีจิตเมตตาประสงค์จะบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาดินแดง ออมทรัพย์ 259-1-29562-3 ชื่อ นายอำพล นาคบำรุง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์