จับตาแท๊กซี่-วินจยย.ก่อคลื่นใต้น้ำป่วนกรุง

บชน.สั่งจับตาแท็กซี่ วินจยย. กลุ่มนศ.หวั่นก่อคลื่นใต้น้ำในกรุง ขณะที่พื้นที่ภาคกลางสั่งกำลังประกบวินรถตู้ 5 จว.หวั่นขนคนเข้ากรุง

ประชุม กดส.วุ่น ถกเดือด กดส."ดับเบิลสแตนดาร์ด ไม่สอบอธิการบดี-นศ. เป็นสมาชิกพรรคการเมือง เตือนระวังระบอบอธิการ-อมาตยาธิปไตย ครองเมือง กดส.แฉเอง บางจังหวัดให้นายอำเภอเลือกเองไม่ผ่านที่ประชุม ระวังคนกลุ่มอำนาจเก่าตบเท้ายึดสมัชชา-สภาร่างฯ

กระแสข่าวความเคลื่อนไหวต่อต้านการเข้ายึดอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หรือที่เรียกว่า "คลื่นใต้น้ำ" ซึ่งที่ผ่านมาพบในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ล่าสุดเริ่มมีคำสั่งให้จับตาความเคลื่อนไหวกลุ่มคลื่นใต้น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 6 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มีคำสั่งถึง ผบก.น.1-9 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (ตปพ.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.อก.) ให้ติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มอำนาจเก่าที่อาจก่อความไม่สงบปลุกกระแสคลื่นใต้น้ำ หลังคณะปฏิรูปฯ ยึดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ให้จับตากลุ่มรถแท็กซี่ กลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง กลุ่มนักศึกษา อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ให้ร่วมตั้งด่านร่วมกับฝ่ายทหารเพื่อสกัดตรวจค้นรถยนต์ที่อาจซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายหรือวัตถุอันตราย โดยเน้นจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ เช่น เส้นทางมุ่งสู่กรุงเทพฯ และให้คุมเข้มสถานที่ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า สถานทูต สถานที่ราชการสำคัญต่างๆ ใน กทม. เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์ และให้ประสานด้านการข่าวกับหน่วยงาน เช่น ฝ่ายทหาร สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) สันติบาล อย่างใกล้ชิด หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาโดยเร่งด่วน

สอดรับกับกระแสข่าวความเคลื่อนไหวข้างต้น แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองทหารในพื้นที่ภาคกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางทหารและตำรวจได้สั่งเพิ่มกำลังดูแลเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายคนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น เนื่องจากได้รับแจ้งข่าวว่า

จะมีกลุ่มรถตู้ 5 จังหวัด คือ ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา รอจังหวะระดมคนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทั้งนี้ใน จ.ลพบุรี นั้น พบว่ามีวินรถตู้อยู่ 3 แห่งที่น่าจับตา คือ วิน ต.ท่าหิน วิน ต.เขาพระงาม และวิน อ.บ้านหมี่

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก