โคราชผวา!จระเข้โผล่ลำน้ำลำตะคอง

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายบำรุงสัตว์ สวนสัตว์นครราชสีมา นำจระเข้เพศผู้ อายุประมาณ 4-5 ปี ซึ่งได้รับมอบจากชาวบ้านหมูสี หมู่ที่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
 
หลังจากที่ชาวบ้านช่วยกันจับตัวได้ที่บริเวณริมคลองลำตะคอง ภายในหมู่บ้าน ซึ่งมีพื้นที่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อวานนี้ ( 1 มิ.ย.)  มาตรวจสอบขนาด และความสมบูรณ์ของร่างกาย อย่างละเอียด ก่อนนำไปกักโรคไว้ภายในตู้กระจกหลังพบว่า จระเข้ตัวดังกล่าวมีสภาพอิดโรย และมีอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เพื่อดูอาการและพักฟื้นร่างกาย เป็นเวลา 30 วัน หลังจากนั้นจะทำการเจาะเลือดเพื่อนำไปพิสูจน์หาสายพันธุ์ที่ชัดเจนต่อไป

นายกีรติ กันยา นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์ 5 ฝ่ายบำรุงสัตว์ สวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากการตรวจสภาพร่างกายของจระเข้ตัวดังกล่าว พบว่า จระเข้มีอาการอิดโรย ผอมโซเนื่องจากการขาดอาหารมาเป็นระยะเวลานาน  สังเกตได้จากส่วนที่กักเก็บพลังงานที่หางถูกดูดไปเลี้ยงร่างกายจนทำให้หางลีบแบนผิดปกติ อีกทั้งยังพบว่าระบบหายใจผิดปกติ คล้ายมีอาการป่วย จึงจำเป็นตั้งกักตัวไว้ในตู้กระจกเพื่อเฝ้าดูอาการและพักฟื้นสภาพร่างกายอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าจระเข้ตัวนี้เป็นจระเข้สายพันธุ์ใด แต่ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นจระเข้น้ำจืด สายพันธุ์หนึ่งของไทย และน่าจะเป็นจระเข้ที่อยู่ตามธรรมชาติเนื่องจากสำรวจที่เล็บพบว่า มีความสมบูรณ์อย่างมาก ผิดกับจระเข้ที่เลี้ยงภายในฟาร์มทั่วไปที่เล็บจะมีร่องรอยการสึกกร่อนเนื่องจากการเสียดสีเพราะถูกเลี้ยงในบ่อปูน แต่อย่างไรก็ดียังไม่สามารถพันธงได้ว่าจระเข้ตัวนี้เป็นจระเข้ตามธรรมชาติจริงหรือไม่

 
นายกีรติ กล่าวอีกว่า สำหรับจระเข้ตัวดังกล่าวเป็นเพศผู้ มีความยาวตั้งแต่หัวจรดหาง 1.7 เมตร น้ำหนักตัวมวลรวม 10.6 กิโลกรัม คาดว่าจะมีอายุประมาณ 4 - 5 ปี ทั้งนี้หากเป็นจระเข้ที่อยู่ในธรรมชาติจริง มีความเป็นไปได้สูงว่าจะยังคงมีจระเข้ขนาดเดียวกันหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติอีกส่วนหนึ่ง และสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านหมูสี หมู่ที่ 4 และหมู่บ้านใกล้เคียง มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตของจระเข้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำและธรรมชาติที่สูง  อีกทั้งทางชาวบ้านในพื้นที่ ต.หมู่สี เองต่างระบุว่าเคยมีการพบเห็นจระเข้อยู่ในลุ่มน้ำบริเวณนั้นอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะต้องมีการสำรวจพื้นที่ดังกล่าวเพื่อดูว่ามีจระเข้เหลืออยู่ในลำน้ำแถบนั้นหรือไม่ และมากน้อยขนาดไหน เพื่อสร้างความสบายใจและหาวิธีป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ หากพบว่ามีจระเข้ตามธรรมชาติอาศัยอยู่บริเวณนั้นจริง