เตือนยาสตรีผสมนำอัดลม

รักษาผู้ป่วยโรคจิตกิน เกิดอาการคอแข็ง ตัวเกร็ง หน้าเงยขึ้นฟ้า

ต้องหามส่งโรงพยาบาลกว่า 10 คน โชคดีหมอรักษาไว้ทัน เพราะหากกินปริมาณมากอันตรายถึงชีวิต ระดม อสม.แจ้งเตือนผู้ปกครองสอนลูกหลานให้ระวัง ขณะที่ภาคอีสานวัยรุ่นหันมาใช้น้ำยาสตรีผสมนำอัดลมกินแทนเหล้า เพราะราคาถูก แถมยังมีฤทธิ์เมากว่า ขณะที่ อย.เตือนกินเข้าไปมากส่งผลต่อหัวใจ ไต และตับ อาจตายได้เช่นกัน

แก๊งวัยรุ่นอุตริต้มใบกระท่อมผสมยารักษาโรคจิตกินจนต้องหามส่งโรงพยาบาลกันโกลาหลรายนี้ เปิดเผยเมื่อเช้าวันที่ 30 มิ.ย.

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่าก่อนหน้านั้นมีกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 13 ราย ถูกนำส่งรักษาที่ รพ.พังงา เนื่องจากเกิดอาการชัก เกร็ง ตัวแข็ง คอแข็ง หน้าเงยขึ้นฟ้า ตาเหลือกและลิ้นจุกปาก สาเหตุเพราะเสพน้ำต้มใบกระท่อมผสมยา HALO PERIDOLซึ่งเป็นยาที่ใช้ควบคุมอาการทางจิตและควบคุมการกระตุกของผู้ป่วยทางจิตซึ่งเป็นยาอันตรายไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายยาทั่วไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าวัยรุ่นได้ยามาจากผู้ป่วยที่มีอาการจิตเวชโดยไม่รู้ว่าจะมีผลข้างเคียง

สอบถาม นพ.ชัยยุทธ ศักดิ์ศรชัย ผอ.รพ.พังงา เปิดเผยว่า สำหรับพืชกระท่อมเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งประเภทเดียวกับยาบ้า

แต่ฤทธิ์จะอ่อนกว่าโดยฤทธิ์ของกระท่อมปกติทำให้ประสาทตื่นตัวจะทำให้ขยัน แต่ถ้ากิน เข้าไปมากจะมีผลข้างเคียงทำให้ประสาทหลอน มีอาการก้าวร้าว หงุดหงิด สับสน โดยเฉพาะหากไม่เสพจะมีอาการหงุดหงิด ช่วงปีที่ผ่านมามีคนไข้มาบำบัดรักษาเนื่องจากติดพืชกระท่อม 16 ราย และในปีนี้มีผู้เข้ามารักษาเพิ่มขึ้นเป็น 20 ราย และเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. มีผู้ป่วยวัยรุ่นเข้ามารักษา 13 ราย แต่ละคนมีอาการคอแข็งและชักเกร็ง สอบถามทราบว่าเสพน้ำต้มใบกระท่อมผสมกับยาจิตเวชซึ่งยาประเภทนี้มีผลข้างเคียงทำให้เกร็งและคอแข็ง แต่ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นและกลับบ้านไปแล้ว

ขณะที่นางอัจฉรา เพชรสุทธิ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สถานีอนามัยตำบลกะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง กล่าวว่า ยา HALOPERIDOL เป็นยาที่ใช้กับผู้ป่วยจิตเวช

จากการตรวจสอบในพื้นที่ ต.กะไหล มีคนไข้ที่ป่วยจิตเวชอยู่ 2 คน แต่รักษาโดยการฉีดยาเท่านั้น คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นอาจได้ยาชนิดนี้มาจากที่อื่น พร้อมแจ้งให้ อสม.ออกประชาสัมพันธ์แจ้งผู้ปกครองเด็กและวัยรุ่นให้ทราบถึงผลข้างเคียงของยาตัวนี้ เพราะถ้ากินยาชนิดนี้เกินขนาดจะมีอาการซึม กระสับกระส่าย คอแข็ง ตัวเกร็ง หรือมีการเคลื่อนไหวที่ช้าลง และอาจจะมีน้ำลายไหล หากพบอาการลักษณะนี้ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที

ด้านนายอธิรักษ์ อาจหาญ ประธาน อสม.ตำบลกะไหล กล่าวว่า ขณะนี้เป็นห่วงกลุ่มวัยรุ่นที่คบหากันจะเผยแพร่ไปในพื้นที่ข้างเคียง

จึงให้ อสม.ช่วยกันเตือนคนในหมู่บ้านเพราะบางคนเข้าใจว่าใบกระท่อมกินแล้วทำให้แข็งแรงขยันทำงาน และเยาวชนมีกรรมวิธีที่ผิดแผกนำไปผสมกับสารหรือตัวยาต่างๆยิ่งเป็นอันตราย หากไปถึงโรงพยาบาลช้าอาจอันตรายถึงชีวิต แต่หากไม่รีบหยุดยั้งการแพร่ระบาดของสูตรยานี้จะทำให้เกิดการสูญเสียขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ส่วนภาคอีสาน วัยรุ่นในพื้นที่หันมาดื่มยาน้ำสตรีผสมน้ำอัดลมแทนเหล้า แต่ อย.เตือนดื่มมากอันตรายถึงเสียชีวิต

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้วัยรุ่นในหลายจังหวัดในภาคอีสาน อาทิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สุรินทร์ อำนาจเจริญ ทั้งเด็กวัยรุ่น เด็กแว้นและนักศึกษา นิยมดื่มยาน้ำสตรีผสมน้ำอัดลม เพราะยาน้ำสตรีมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ วัยรุ่นบางคนถูกบังคับจากพ่อแม่ ให้สาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลิกดื่มเหล้า เลยหันมาดื่มยานํ้าสตรีผสมกับน้ำอัดลมแทนเหล้า เพราะเมาคึกคะนองมากกว่าเหล้า  แต่วัยรุ่นบางกลุ่มนำไปผสมกับยาแก้ไอและน้ำอัดลมซึ่งออกฤทธิ์มึนเมามากกว่าหลายเท่า

สอบถามนายบิว (นามสมมติ) อายุ 23 ปี เปิดเผยว่า หลังจากพ่อพาไปเลิกเหล้า พอมานั่งดื่มน้ำเปล่ากับเพื่อนรู้สึกอึดอัดเพราะไม่มีตัวกระตุ้นอารมณ์ร่วมสนุก

ภายหลังรุ่นพี่แนะนำให้ดื่มยาน้ำสตรีผสมกับน้ำอัดลมกับน้ำแข็ง หากต้องการความเมาเร็วรุนแรงต้องเพิ่มปริมาณยาสตรีหรือบางคนนำยาแก้ไอผสมไปด้วย บางคนไม่ได้เลิกเหล้าแต่หันมาดื่มยาน้ำสตรีแทน เพราะราคาถูกกว่าเหล้าและมีรสชาติของความหวานของน้ำอัดลมแต่มีอาการ มึนเมารุนแรงมาก นับตั้งแต่ตนเลิกดื่มเหล้ามาประมาณ 7 เดือน ดื่มยาน้ำสตรีแทนมาตลอด อย่างน้อยวันละ 1 ขวดจนบางครั้งทำให้ปัสสาวะและอุจจาระออกเป็นเลือด

ด้านนายวินิต อัศวกิจวิรี ผู้อำนวยการกองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ยาน้ำสตรีเป็นยาสมุนไพรหลายชนิดใช้สำหรับสตรีรับประทานขับเลือด

เช่น ช่วยประจำเดือนไม่ปกติ ช่วยขับน้ำคาวปลาหลังคลอดบุตร แต่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ประมาณ 10-12 เปอร์เซ็นต์ หากกินเข้าไปจำนวนมากเปรียบเหมือนดื่มเบียร์ เนื่องจากเบียร์ 1 กระป๋อง มีแอลกอฮอล์อยู่ประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่ากินยาน้ำสตรี 1 ขวด เท่ากับดื่มเบียร์ 1-2 กระป๋อง

นายวินิตกล่าวอีกว่า ยาน้ำสตรีแต่ละยี่ห้อมีสูตรไม่เหมือนกัน ส่วนผสมยาประเภทเผ็ดร้อน เช่น ขิง ว่านชักมดลูก

เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการกระชับกล้ามเนื้อที่หย่อนยานทุกส่วนของร่างกายให้กระชับแน่น บางคนกินเข้าไปจะมีอาการหน้าอกตึงหรือปวดมดลูก ปวดในช่องคลอด หากดื่มเข้าไปมากเกินกำหนดอาจทำให้ภายในร่างกาย กระชับกล้ามเนื้อ เช่น ท่อปัสสาวะ อุจจาระ หดเกร็ง ทำให้ปัสสาวะและอุจจาระออกเป็นเลือด หรือกระตุ้นส่วนต่างๆ ในร่างกายอาจส่งผลเสียต่ออวัยวะภายใน เช่น ระบบการหมุนเวียนโลหิต โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ โรคไต โรคตับ อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์