คืบหน้าพระพยอมโดนโกงที่ดิน !!

หลังจากพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เปิดเผยเรื่องซื้อที่ดินหน้าวัด 1 ไร่ ราคา 10 ล้านบาท


เมื่อปี 2547 ต่อมาเจ้าของเดิมฟ้องผู้ที่เอามาขายซึ่งครอบครองโดยปรปักษ์และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์ที่ดินแปลงใกล้เคียงเนื้อที่ 9 ไร่ ที่ผู้ขายรายเดียวกันขายให้เอกชนรายอื่นและนัดอ่านคำพิพากษากรณีที่ดินที่วัดสวนแก้วซื้อมาในวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งอาจโดนเพิกถอนเช่นกัน พระพยอมจึงขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะเข้าใจว่าอาจออกโฉนดทับซ้อน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 ต.ค.


นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ อธิบดีกรมที่ดิน ว่าที่ ร.ต.ขันธ์ชัย วิจักขณะ รองอธิบดีกรมที่ดิน นายพิภพ บุญธรรม นายอำเภอบางใหญ่ และนายมณเฑียร หัสนันท์ เจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบางใหญ่ เข้าพบพระพยอม ที่วัดสวนแก้ว

หลังจากนั้นร่วมแถลงข่าวโดยพระพยอมกล่าวว่า

วัดมีความหวังจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ โดยนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายพงศ์พโยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โทรศัพท์มาสอบถามด้วยความห่วงใย

เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วกล่าวต่อไปว่า นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ อธิบดีกรมที่ดิน จะพยายามหาทางช่วยเหลือ


เท่ากับว่าวัดได้รับยามารักษาแล้ว 2 เม็ด คือเม็ดแรกจากปลัดกระทรวงยุติธรรม เม็ดที่ 2 จากอธิบดีกรมที่ดิน เป็นยาช่วยรักษาความเจ็บช้ำ ความสูญเสีย ที่ดินวัดจะไม่เสียเปล่า ถ้าจะเสียก็เสียแบบไม่ง่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ติดต่อกับผู้ซื้อที่ดินอีก 9 ไร่ บ้างหรือไม่

พระพยอมตอบว่าทราบแต่เพียงว่าผู้ซื้อจ่ายเงินมัดจำไปแล้ว 11 ล้านบาท และลงทุนถมที่ดินไปอีกหลายล้าน แต่ก็ถูกเพิกถอน น่าเห็นใจเช่นกัน

ขณะที่นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ อธิบดีกรมที่ดินกล่าวว่า


มูลนิธิวัดสวนแก้วซื้อที่ดินมา 1 แปลง ซึ่งกรรมสิทธิ์น่าจะตกเป็นของมูลนิธิซึ่งซื้อโดยสุจริต ต่อมาศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์ผู้ที่นำมาขายให้ ปัญหาอยู่ที่ว่าสิทธิ์ของใครจะดีกว่ากัน และศาลให้เจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบางใหญ่ไปชี้แจงในวันที่ 8 พ.ย. กรมที่ดินจะให้ความร่วมมือกับมูลนิธิและประสานงานสำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีให้ช่วยเรื่องคดี

ส่วนเรื่องการออกโฉนดทับซ้อน หรือมีการทุจริตหรือไม่นั้น


อธิบดีกรมที่ดินกล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ร้องไปร้องขอครอบครองที่ดินโดยปรปักษ์ แต่โฉนดยังอยู่กับญาติเจ้าของที่ดินคนเดิม และศาลสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเป็นผู้ครอบครองโดยปรปักษ์ ผู้ร้องขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทน กระทั่งผู้ร้องนำมาขายให้มูลนิธิ

ทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอน

แต่ผู้ร้องกลับเจรจากับเจ้าของเดิมที่ศาลหลังถูกฟ้องและคืนสิ่งที่ขายให้กลับไป การที่ผู้ขายทำเช่นนี้ตนเห็นว่าผิดปกติ คงต้องรอให้ศาลพิจารณา

ด้านนายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า


พระพยอมสงสัยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ถูกต้อง ตนไม่ยอมแน่ จึงสั่งอธิบดีกรมที่ดินนำเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอบางใหญ่ไปพบพระพยอมจะได้รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือทุจริต จะต้องลงโทษ เท่าที่ดูจากหลักฐาน พระพยอมซื้อที่ดินและจดทะเบียนถูกต้อง

มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องหาข้อยุติได้

หากศาลพิจารณาว่าวัดสวนแก้วเป็นฝ่ายผิด เจ้าของที่ดินจะต้องจ่ายค่าเยียวยา ซึ่งจะต้องจ่ายคืนในราคาที่ดินที่วัดซื้อไป รวมถึงต้องคิดรวมไปยังค่าใช้จ่ายในการพัฒนาของวัดที่ผ่านมาด้วย

ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าว


ที่ดินดังกล่าวจำนวน 2 แปลง มีเจ้าของแต่ไม่ใช้พื้นที่กว่า 10 ปี มีผู้เข้าไปครอบครองเรียกว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์ และแบ่งขายที่ดินให้กับวัดสวนแก้ว 1 แปลง และให้คนอื่นอีก 1 แปลง ต่อมาญาติเจ้าของที่ดินเดิมมาขอคืน และไปร้องต่อศาลให้พิจารณาใหม่ ทำให้เกิดปัญหาโฉนดทับซ้อน ผมเห็นว่าเป็นเรื่องแปลก ทั้งๆที่คดีนี้ชนะกันไปแล้ว กลับไปยอมคืนที่ดินให้กับเจ้าของคนเดิม คิดว่าน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

สำหรับที่ดินดังกล่าวเดิมมีชื่อนางทองอยู่ หิรัญประดิษฐ


เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามโฉนดหมายเลข 8215 และ 8216 ต่อมาปี 2516 ได้ยกให้นางผาด บุญมี แต่ไม่ ได้จดทะเบียน นางผาดสร้างบ้านอยู่และทำสวนร่วมกับนางวันทนา สุขสำเริง

กระทั่งปี 2546 นางวันทนายื่นคำร้องต่อศาลขอมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

ซึ่งครอบครองโดยปรปักษ์ และศาลมีคำสั่งให้ในปีเดียวกัน โดยนางวันทนาขอจดทะเบียน กรรมสิทธิ์วันที่ 26 ก.ย. 2546

หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2547


นางวันทนาขอจดทะเบียนแบ่งแยกโฉนดที่ดินหมายเลข 8216 ออกเป็นส่วนๆ ได้โฉนดที่ดินหมายเลข 55600 และขายให้ มูลนิธิสวนแก้วเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2547 กระทั่งเดือน พ.ค. 2549 นายถนอม หิรัญประดิษฐ ผู้จัดการมรดกของนาง ทองอยู่ หิรัญประดิษฐ ยื่นคำคัดค้านคำสั่งศาลที่ให้กรรมสิทธิ์

นางวันทนาและขอให้พิจารณาคดีใหม่

ด้านคู่ความยอม ความไม่สู้คดี ศาลจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีของนางวันทนา เป็นผลให้คำสั่งศาลที่สั่งให้นางวันทนาได้ที่ดินมาโดยครอบครองปรปักษ์เป็นอันเพิกถอนไป




แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์