สระบุรีแล้งลุกลามหนัก

“สระบุรี” ประสบภัยแล้งหนัก นาข้าวหลายพันไร่ยืนต้นตาย แถมเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดซ้ำเติม

ส่วน “กาฬสินธุ์” แล้งแล้ว 18 อำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนทั่วหน้า ผู้ว่าฯ เผยต้องรองบภัยแล้งมาแก้ปัญหา คาดอีกไม่นานจะได้รับอนุมัติจากมหาดไทยแต่โจรแสบซ้ำเติมอีก ย่องตัดสายไฟฟ้าในสถานีสูบน้ำไม่สามารถสูบน้ำให้บริการชาวบ้านได้ ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคกันอย่างหนัก

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. นายอุดมชัย ชมเชี่ยวชาญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลภูดิน อ.เมืองกาฬสินธุ์ พาผู้สื่อข่าวเข้าสำรวจความเสียหายของสถานีสูบน้ำที่ 2

โครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือราษฎร ในเขตนิคมสร้างตนเองลำปาว หมู่ที่ 13 ต.ภูดิน หลังจากถูกโจรขโมยตัดสายไฟฟ้าจนไม่สามารถสูบน้ำให้บริการชาวบ้านได้ ส่งผลให้ชาวบ้าน 14 ชุมชน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก  เนื่องจากขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จึงฝากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
   
ทางด้านนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ. กาฬสินธุ์ กล่าวว่าปัญหาภัยแล้งใน  กาฬสินธุ์ครอบคลุมพื้นที่ 18 อำเภอ

มีประชาชน เดือดร้อนกว่า 4 แสนคน เนื่องจากแหล่งน้ำสาธารณะและอ่างเก็บน้ำเริ่มแห้งขอด ในส่วนของจังหวัดยังคงรองบประมาณภัยแล้งเข้ามาแก้ปัญหา คาดว่าอีกไม่นานจะได้รับอนุมัติการช่วยเหลือจากกระทรวงมหาดไทย
   
ส่วนที่ จ.สระบุรี นายเดือน อ่องชาติ กำนันตำบลดงตะงาว อ.ดอนพุด จ.สระบุรี เปิดเผยว่าขณะนี้ชาวนาในพื้นที่ อ.ดอนพุด

ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา เนื่องจากภัยแล้งมาเร็วกว่าทุกปี ประกอบกับฝนทิ้งช่วงไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำให้ชาวนาประสบความแห้งแล้งดินแยกแตกระแหง ทำให้ต้นข้าวอายุ 40-60 วัน กำลังยืนต้นตาย เสียหายย่อยยับกว่า 7,000 ไร่ ถึงขั้นวิกฤติ ชาวนาแทบสิ้นเนื้อประดาตัวไปตาม ๆ กัน
   
ทั้งนี้นายบุญสม อาบวารี ส.อบจ.  สระบุรี อ.ดอนพุด ได้ขออนุมัติเครื่องสูบน้ำจากนายเฉลิม วงษ์ไพร นายก อบจ. สระบุรี จำนวน 4 เครื่อง

ไปตั้งสูบน้ำเข้าพื้นที่นาให้กับเกษตรกร หมู่ 6-7 ต.บ้าน หลวง และหมู่ 4 ต.ดงตะงาว จำนวน 2 เครื่อง แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของชาวนา นอกจากปัญหาภัยแล้งแล้ว ชาวนาในบางพื้นที่ ยังได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลกัดกินต้นข้าวเสียหายเป็นจำนวนมาก จึงขอฝากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวนาด้วย.