เชียงใหม่เตรียมทำฝนเทียมลดหมอกควัน

เชียงใหม่ตรวจพบฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เกินมาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แล้ว จากข้อมูลพบว่าจุด Hot Spot (แผนที่ดูความร้อนทางดาวเทียม) ในเชียงใหม่, ลำพูน และเชียงราย เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจต้องใช้ฝนเทียมแก้ปัญหา...

รายงานข่าววันที่ 10 มี.ค.53 นายอภิวัฒน์ คุณารักษ์ ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 เชียงใหม่

เปิดเผยว่า ในปีนี้พบค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานที่เชียงใหม่เร็วกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่าภาวะหมอกควันในปีนี้อาจกินระยะเวลานานกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศแล้งเร็วกว่าปกติ ขณะที่ดูจากจุด Hot Spot พบว่าในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า และลาว ก็เพิ่มขึ้นในระยะนี้เช่นกัน เนื่องจากเกษตรกรเริ่มเผาวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร ประกอบกับลมเริ่มเปลี่ยนทิศจากตะวันตกเฉียงใต้ของพม่า พัดพาฝุ่นละอองและควันเข้ามาในพื้นที่แอ่งกระทะภาคเหนือ

ทั้งนี้รัฐบาลได้หารือกับทางการพม่าและลาว ทราบว่าทั้ง 2 ประเทศไม่มีเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ ล่าสุดกรมควบคุมมลพิษ จึงได้นำรถโมบายไปไว้ที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย และที่หลวงพระบาง ประเทศลาว ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้ง และเชื่อมโยงการสื่อสาร คาดว่าจะสามารถวัดผลได้เร็วๆ นี้

ทางด้านสำนักงานสาธารณสุขจ.เชียงใหม่ ท.พ.สุรสิงห์ วิศรุตน์รัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจ.เชียงใหม่ เผยว่า

กรณีที่ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานที่เชียงใหม่ ทางสสจ.เชียงใหม่ ได้รับจัดสรรหน้ากากอนามัยมาจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และกำลังพิจารณาแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยหนัก และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง โดยการไม่ออกไปยืนในที่โล่ง ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด สังเกตท้องฟ้า หากมีสภาพขุ่นมัว ไม่ควรออกกำลังกายโดยเฉพาะในเวลาเช้า เนื่องจากมลพิษสูงจากความกดอากาศต่ำมากกว่าปกติ หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ควรใช้หน้ากากอนามัย หรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากปิดจมูก

ส่วนนายทรง กลิ่นประทุม หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วทุกด้าน

เพื่อทำฝนเทียมขึ้นในปี 2553 และเริ่มปฏิบัติการทำฝนเทียมในภาคเหนือได้ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.นี้เป็นต้นไป โดยจะเน้นพื้นที่ภาคเหนือตอนบนก่อน เพื่อช่วยดับไฟป่า และลดมลพิษในอากาศ ซึ่งในบางจังหวัดเกินมาตรฐานแล้ว หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวด้วยว่า ระยะนี้อากาศยังอยู่ในสภาพยากลำบากต่อการทำฝนเทียม แต่ 2 วันที่ผ่านมาเริ่มเห็นแนวโน้มที่จะได้ผลมากขึ้น คือ อากาศไม่นิ่ง มวลอากาศยกตัวได้ดี คาดว่าหลังดำเนินการแล้ว 4-5 ชั่วโมง จะมีฝนตกลงมา ในปี 52 ที่ผ่านมา สามารถปฏิบัติการได้ผลถึงร้อยละ 97 สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของสำนักฝนหลวงการบินเกษตร  www.royalrainmaking.thaigov.net

ด้านนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายยกอบจ.เชียงใหม่ ได้นำรถดับเพลิงของอบจ.ออกฉีดให้ละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชื้นให้กับชั้นบรรยากาศ

และช่วงสายของวันนี้ (10 มี.ค.) ในตัวเมืองเชียงใหม่มีท้องฟ้าครึ้ม ปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ทางศูนย์อุตตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งเตือนประชาชนในช่วงระหว่างวันที่ 10-11 มี.ค.นี้ อาจมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก เกิดจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศสูง ที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์