มีมติให้พิสูจน์ความปลอดภัยวัคซีนหวัด 2009 เพื่อสร้างความมั่นใจ

รัฐสภา 17 ก.พ. - คณะอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันฯ การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 มีมติให้พิสูจน์ความปลอดภัยจากวัคซีนแก่กลุ่มเสี่ยงเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน เพิ่มกลุ่มปศุสัตว์เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องรับวัคซีนเพิ่ม พร้อมของบ 193 ล้านบาท ใช้รณรงค์ให้ตื่นตัวและพัฒนาห้องแล็บทั่วประเทศ

ในการประชุมคณะอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

ที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นรองประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบพิจารณาแนวทางพิสูจน์ความปลอดภัยการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เหมือนการพิสูจน์ประสิทธิภาพเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ตามที่นักวิชาการเสนอ โดยจะเจาะเลือดกลุ่มเสี่ยงก่อนรับวัคซีนและดูภูมิคุ้มกัน หลังจากรับวัคซีน 4 สัปดาห์ ให้เจาะเลือดดูการกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกครั้ง แม้ปัจจุบัน สธ.จะติดตามความปลอดภัยและเจาะเลือดกลุ่มเสี่ยง แต่ไม่เคยนำมาเสนอต่อที่สาธารณะ เชื่อว่าประชาชนจะเกิดความมั่นใจและหันมารับวัคซีนเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ขยายกลุ่มเสี่ยงรับวัคซีนเพิ่มอีกกลุ่มคือ กลุ่มปศุสัตว์ ที่สัมผัสใกล้ชิดนก ไก่ และสุกร จำนวน 500 คน ตามที่กรมปศุสัตว์เสนอ

ซึ่งจะแบ่งวัคซีนปัจจุบันที่ฉีดให้ 5 กลุ่มเสี่ยง โดยจะไม่กระทบกับจำนวนวัคซีนที่มีอยู่หรือต้องสั่งซื้อเพิ่ม พร้อมเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติงบจำนวน 193 ล้านบาท ให้ 10 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้รณรงค์แก้ปัญหาการระบาดของโรค และพัฒนาห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ในศูนย์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประเทศ และโรงพยาบาลทั่วไป

ทางด้าน นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงระบาดระลอก 2 โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ถือว่าระบาดสูงสุดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

พบมีผู้ป่วย 500 คน ในจำนวนนี้ 300 คน อยู่ในเขตชุมชนทำให้แพร่ระบาดในวงกว้างออกไปอีก 150,000-200,000 คน หากรอให้ใกล้ปิดเทอมแล้วสถานการณ์สงบเกรงจะไม่ทันกาล อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตในรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น ดังนั้น ในช่วงนี้ต้องเร่งรณรงค์ให้เกิดการตื่นตัวและเฝ้าระวังให้มากที่สุด คาดการณ์การระบาดของโรคระลอก 3 จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ จากรายงานข้อมูลพบว่า การระบาดมีเด็กนักเรียนในโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนประจำ ค่ายทหารเป็นจำนวนมาก.- สำนักข่าวไทย


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์