พระบรมราชานุญาต ให้ผันน้ำ ท่วมที่ส่วนพระองค์ [

จากเหตุวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่แผ่กระจายไปทั่วประเทศทั้งภาคกลาง เหนือและอีสาน สร้างความสูญเสียมหาศาลทั้งชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่ถูกน้ำป่าจากดอยอ่างขางถล่มบ้านพังพินาศหลายหลัง ผู้ประสบภัยเสียชีวิตทันที 7 ศพ สูญหายอีกหลายราย ขณะเดียวกัน พื้นที่สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรุงเทพฯระดับน้ำเริ่มปริ่มเท่ากับพนังกั้นน้ำแล้วนั้น

อภิรักษ์ ยังไม่ห่วงน้ำสูง

ความคืบหน้าในการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองของ กทม. เมื่อสายวันที่ 10 ต.ค. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ออกตรวจสภาพน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา 2 แห่ง คือ ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ เขตบางกอกน้อย 160 ครัวเรือน และชุมชนวัดราชผาติการาม เขตดุสิต 95 ครัวเรือน พบระดับน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า และส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว ทำให้ข้าวของภายในบ้านเสียหายเกือบทั้งหมด เช่น ตู้เย็น เตียงนอน ชาวบ้านบางรายบอกว่าทนอยู่ในสภาพนี้มากว่า 2 สัปดาห์ อยากให้ กทม.มายกพื้นหนีน้ำ แต่นายอภิรักษ์ตอบว่าคงทำไม่ได้

นายอภิรักษ์ให้สัมภาษณ์ว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณ 3,473 ลบ.ม./วินาที ถือเป็นระดับที่สูง และเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ 33 ชุมชน ราว 2,100 หลังคาเรือน ส่วนกรณีที่กรมชลประทานเตือนเรื่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงมาก และกำชับให้ เตรียมแผนสำรองไว้ใช้นั้น ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง แต่ กทม.ได้เตรียมจะใช้ถนนที่เคยเป็นแนวกั้นน้ำเมื่อปี 2538 ที่น้ำท่วมใหญ่กั้นไม่ให้น้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน เช่น ถนนอรุณอมรินทร์ ถนนเจริญนคร ถนนสามเสน

กำชับใช้งบให้โปร่งใส

ต่อมานายอภิรักษ์ได้ประชุมผู้บริหาร กทม. รวมทั้ง ผอ.เขตหลายเขต เช่น มีนบุรี คลองสามวา บางพลัด ชี้แจงถึงปัญหาและอุปสรรคน้ำท่วม โดยทั้งหมดระบุตรงกันว่าน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานเริ่มเน่า ประชาชนมีอาการคันตามผิวหนัง คันดินเหนียวที่ใช้รถขุดทำเป็นแนวกันน้ำมักจะพังโดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกหนัก นอกจากนี้ยังพบปัญหาหลักคือไม้กระดานที่ทำเป็นทางเดินให้ประชาชนถูกขโมยไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำเข้าออก และเจ้าหน้าที่ต้องลงมือซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม นอกจากนี้ที่ประชุมรายงานเรื่องการเบิกจ่ายงบฉุกเฉินที่ตั้งไว้ 100 ล้านบาท ได้เบิกจ่ายซื้อทราย กระสอบ ไม้กระดาน น้ำมัน ไปแล้ว 47 ล้านบาท โดยนายอภิรักษ์ได้กำชับให้ใช้เงินอย่างโปร่งใส หากภาวะน้ำท่วมรุนแรงจนเงินไม่พอ ผู้บริหารก็จะพิจารณาจัดสรร เงินงบกลางมาใช้จ่ายต่อไป

ทางด้าน จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังที่ประชาชน ผจญน้ำท่วมสูงมาหลายวัน ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ล่าสุดตอนสายวันที่ 10 ต.ค. นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับหนังสือด่วนจากสำนักพระราชวังให้ดำเนินการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าที่ดินส่วนพระองค์บริเวณทุ่งมะขามหย่อง สถานที่ตั้งอนุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย พื้นที่พันกว่าไร่ กับทุ่งภูเขาทอง สถานที่ตั้งอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พื้นที่กว่าสองพันไร่ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ทรงเห็นพสกนิกรได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมสูง จึงมีพระบรมราชานุญาตให้ผันน้ำเข้าที่ดินส่วนพระองค์ เพื่อให้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งเป็นการลดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลบ่าเข้ากรุงเทพฯ เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 2 แห่งสามารถกักเก็บน้ำได้หลายล้านลูกบาศก์เมตร

ซาบซึ้งในพระเมตตา

หลังได้รับหนังสือ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานงานขอกำลังทหารจาก จ.สระบุรี จ.ลพบุรี หน่วยสรรพาวุธ กองทัพบก และจากอีกหลายหน่วยกว่า 800 นายมาผันน้ำเข้าที่ดินส่วนพระองค์อย่างทันท่วงที สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรผู้ประสบภัยอย่างล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเมตตาช่วยเหลือประชาชน ขณะที่นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรม ชลประทาน เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ระบายน้ำเข้าไปในเขตพื้นที่ส่วนพระองค์ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ยินยอมให้ผันน้ำเข้าทุ่งนาที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้ช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลเข้ากรุงเทพฯ อย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤติช่วงน้ำทะเลหนุนสูงนี้ไปได้

พระตกสะพานจมน้ำ

ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในตอนเย็นวันเดียวกันได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอีกร่วม 10 ซม. เนื่องจากน้ำเหนือไหลผ่านมา ส่วนที่วัดกอไผ่ ต.บางบาล อ.บางบาล ขณะที่พระปิ่น ภามะโน อายุ 81 ปี รองเจ้าอาวาสเดินข้ามสะพานไม้ชั่วคราวจากกุฏิไปสรงน้ำข้างวัด ปรากฏว่าเดินพลาดร่วงตกสะพานจมน้ำมรณภาพ

เขื่อนบางแก้วพังน้ำทะลัก

ที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้ายามีระดับลดลงถึง 25 ซม. เนื่องจากกระแสน้ำจำนวนหลายสิบล้านลูกบาศก์เมตร ได้ไหลทะลักผ่านเขื่อนบางแก้วที่พังทลายลง เข้าท่วมพื้นที่หลังเขื่อนไปจนจรด อ.มหาราช อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีจำนวนนับแสนไร่และน้ำมีระดับสูงเพิ่มขึ้นเป็น 1-2 เมตร ทำให้ประชาชนในพื้นที่ ต.ตลาดกรวด บ้านรี และบ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จำนวนหลายพันครัวเรือนต้องขนข้าวของและสัตว์เลี้ยงขึ้นมาอยู่บนถนน ขณะเดียวกันแพทย์ พยาบาล รพ.อ่างทอง ได้ออกมาตั้งเต็นท์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ ต.บ้านอิฐ

นอกจากนั้นในช่วงเช้าวันเดียวกันกระแสน้ำได้ ไหลทะลักเข้าท่วมถนนสายเอเชีย ช่วงหลัก กม.ที่ 104-105 ม.5 ต.บ้านอิฐ ระดับน้ำสูง 20 ซม. นายโสภณ บุณประสงค์ รอง ผอ.สำนักงานบำรุงทาง จ.อ่างทอง สั่งระดมขนกระสอบทรายมาวางกั้นเพื่อลดความแรงของน้ำป้องกันไม่ให้กัดเซาะถนนเสียหาย พร้อมทั้งตั้งคันดินกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จำนวนหลายหมื่นไร่

ขณะเดียวกันนั้นได้มีคนเสียชีวิตสังเวยน้ำท่วมเพิ่มขึ้นเป็นศพที่ 4 แล้ว โดยเช้าวันเดียวกัน ร.ต.ต.จิรโชติ กันทะเนตร ร้อยเวร สภ.อ.เมืองอ่างทอง ไปสอบสวนพบศพคนตายลอยน้ำ บริเวณหลังปั๊มน้ำมันบุญช่วยวีช็อป หมู่ 2 ต.โพสะ ซึ่งถูกน้ำท่วมสูง พบศพนายปิยะ วิภา อายุ 20 ปี คนงานก่อสร้างที่มาทำงานอยู่ที่โรงงานกระดาษใกล้ที่เกิดเหตุ ลอยขึ้นอืด สอบสวนทราบว่า ผู้ตายไปช่วยชาวบ้านขนกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม ริมถนนสายอ่างทอง-อยุธยา แล้วถูกกระแสน้ำพัดหายไปจนพบเป็นศพ

มท.1 รุดเยี่ยมปลอบใจ

บ่ายวันเดียวกันนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย คนใหม่ เดินทางมาที่วัดศรีมหาโพธิ์ ต.โรงช้าง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เพื่อตรวจดูสถานการณ์น้ำ และมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 3,000 ชุด จากนั้นจึงเดินทางมาร่วมต้อนรับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช.ซึ่งเดินทางมาตรวจน้ำท่วมด้วย โดย พล.อ.สนธิได้ให้เร่งระบายน้ำแบ่งกระจายออกไปในพื้นที่ด้าน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยโดยเร็ว

สิงห์บุรีพื้นที่ภัยพิบัติ 6 อำเภอ

ด้าน จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำจากเจ้าพระยาได้ดันพนังกั้นน้ำทะลักท่วมถนนสายสิงห์บุรี-ชัยนาท ตั้งแต่หน้าศาล หลักเมืองไปถึงหมู่ 2 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี ไม่สามารถสัญจรได้ต้องเลี่ยงไปใช้ถนนพหลโยธิน สายสิงห์บุรี-นครสวรรค์ แทน ส่วนในเขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรีน้ำไหลท่วมบางพื้นที่ โดยนายไสวรินทร์ ศรีชำนิ นายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี ได้ขอกำลังทหารจาก ม.พัน 20 รอ.มาขนกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พื้นที่ จ.สิงห์บุรี ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 6 อำเภอ จ.ชัยนาท นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยหลังประสบภัยน้ำท่วมมาหลายวันที่ ต.สรรพยา ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จำนวน 1,000 ครอบครัว และ จ.สระบุรี หลายพื้นที่ อ.บ้านหมอ อ.พระพุทธบาท ถูกน้ำท่วมขังหลายหมู่บ้าน ในช่วงสายวันเดียวกัน นายชุมพร พลรักษ์ ผวจ.สระบุรี นายเฉลิม วงษ์ไพร นายก อบจ.สระบุรีและคณะนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย

ระดมกำลังสร้างคันกั้นน้ำ

สำหรับ จ.อุทัยธานี น้ำในแม่น้ำสะแกกรัง ยังคงมีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ นางเตือนจิตรา แสงไกร นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ประสานขอกำลังทหาร จากค่ายจิระประวัติ จ.นครสวรรค์ 80 นาย พร้อมด้วยกำลัง อปพร.เทศบาลฯ และ อส.จ.อุทัยธานี นำถุงทรายทำแนวกั้นน้ำตลอดแนวริม น้ำสะแกกรัง ฝั่งตัวเมืองอุทัยธานี เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมอาคารร้านค้าในตลาด นอกจากนี้ อบจ.อุทัยธานี นำรถแบ็กโฮ 2 คัน ตักวัชพืชบริเวณสะพานข้ามวัดอุโปสถาราม (วัดโบสถ์) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ด้วย

ด้าน จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำที่ตลาดเก่าอำเภอกบินทร์บุรี เริ่มลดลงเล็กน้อย และน้ำได้ไหลลงสู่ อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมือง และ อ.บ้านสร้าง ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมตลาดเทศบาลศรีมหาโพธิ และบ้านเรือนประชาชน 2 ฝั่งแม่น้ำ รวมทั้งถนนสายศรีมหาโพธิ-ปราจีนบุรี เป็นช่วงๆระดับน้ำสูงกว่า 80 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ขณะเดียวกันกำลังทหารจาก จ.ฉะเชิงเทรา มาช่วยสร้างสะพานชั่วคราวเข้าบ้านหมู่ 3 ต.หาดนางแก้ว อ.ศรีมหาโพธิ เพื่อให้ ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านสามารถเดินทางเข้าออกได้

เมืองคูคตปริ่มจมบาดาล

ที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี น้ำจากคลองรังสิตกับน้ำฝนที่ตกตลอดทั้งคืน ได้ไหลท่วมบ้านเรือนในซอย กม.27 ซอย 39 ซอยแข็งขัน 1-3 ซอยจามร ก, ข และซอยจามรเดชเจริญ โดยนางสุภารมย์ โลทะกะ นายกเทศมนตรีเมืองคูคต สั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนพร้อมทั้งประสานงานไปยัง ผบ.ทอ.ขอสนับสนุนกระสอบทรายและกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปทุมธานี 2 ส่งเจ้าหน้าที่ ออกช่วยเหลือประชาชนในการเคลื่อนย้ายปลั๊กไฟด้วย

เมืองนนท์น้ำสูง 1 เมตร

ทางด้าน จ.นนทบุรี บ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ ชุมชนเชิงสะพานพระราม 5 หมู่ 2 ถนนนครอินทร์ ต.บางไผ่ อ.เมือง ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร และระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพื้นที่หมู่ 3 ชุมชนวัดลุ่มคงคาราม ต.บางกรวย อ.บางกรวย ถูกน้ำท่วมแทบมิดหลังร่วม 200 หลัง และวัดบางไกรใน ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน

เมืองจันท์สูญ 2 พันล้าน

ที่ จ.จันทบุรี ตำรวจ สภ.อ.เมืองจันทบุรี ไปสอบสวนชันสูตรศพ น.ส.บุญเรือน จตุผลัง 59 ปี อยู่หมู่ 9 ต.คลองนารายณ์ อ.เมืองจันทบุรี ติดในสระน้ำหลังบ้าน ริมคลองแม่น้ำจันทบุรี สอบสวนทราบว่า ผู้ตายออกไปหลังบ้านเมื่อ 2 คืนที่ผ่านมาเพื่อไปดูน้ำที่จะเข้าท่วมบ้านแล้วถูกกระแสน้ำพัดหายไปจนน้ำลดจึงพบศพโผล่ สำหรับระดับน้ำเริ่มลดเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ บริเวณย่านการค้า เช่น ถนนอัญมณี บริเวณตลาดน้ำพุ และย่านชุมชนต่างๆ พ่อค้าแม่ค้าทำความสะอาดหน้าร้าน เพื่อเตรียมเปิดกิจการขายสินค้าตามเดิม

ด้านนายพนัส แก้วลาย ผวจ.จันทบุรี เปิดเผยว่า แม้ระดับน้ำจะลดลง แต่ยังมีบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มยังมีน้ำท่วมอยู่ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสูบระบายน้ำออกสู่ทะเล คาดว่าในวันพรุ่งนี้น้ำที่ตกค้างอยู่ คงเหลือปริมาณไม่มาก จากอุทกภัยที่ผ่านมาทำให้พื้นที่ 7 อำเภอได้รับผลกระทบ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนแสนกว่าคน และวงการค้าขายพลอยยังได้รับผลกระทบ ทำให้ขาดเงินหมุนเวียนวันละประมาณ 50 ล้านบาท เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายประมาณ 2,000 ล้านบาท

ภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ตลอดทั้งวันนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผวจ.เชียงใหม่ และ พล.ท.จีรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 นำกำลังทหาร ตำรวจ ตชด.ภาค 3 และหน่วยกู้ภัย อปพร. รวมกว่า 1 พันคน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำป่าซัดถล่มในพื้นที่ ต.แม่ออน อ.ฝาง จนบ้านเรือนพังพินาศย่อยยับ มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ ซึ่งการเข้าเคลียร์พื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีท่อนไม้ขนาดใหญ่ขวางเต็มไปหมด ทางขึ้นดอยอ่างขาง บริเวณ กม.ที่ 14 ถูกน้ำซัดสะพานขาดสะบั้น แถมมีท่อนซุงทับกันเต็ม ต้องใช้เวลาซ่อมแซมนานหลายเดือน ขณะที่นายธนศักดิ์ ประทุม อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่โครงการหลวงดอยคำ ที่ถูกกระแสน้ำซัดจมหายยังค้นหาไม่พบ แต่อย่างใด ทั้งนี้ นายบรรลือศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายอำเภอฝาง รายงานความเสียหายให้นายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผวจ. ทราบว่าพื้นที่ ต.แม่ออนถูกน้ำท่วมทั้งหมด 14 หมู่บ้าน และ ต.แม่ข่าอีก 3 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อนที่พัก 1,200 ครอบครัว จำนวน 3,000 คน มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ บาดเจ็บ 5 คน สูญหาย 1 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวนมาก ยังประเมินมูลค่าไม่ได้

เตือนพิจิตรท่วมฉับพลันอีก

ส่วน จ.พิจิตร สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย เพราะยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในแม่น้ำยมกับแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอีก แถมมีน้ำจากทางเหนือไหลหนุน ล่าสุดพบว่าวัดถูกน้ำท่วมกว่า 138 แห่ง พระและสามเณรเดือดร้อนหนัก เพราะไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้ ส่วนถนนเสียหาย 247 สาย พื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้บาดาลกว่า 6 แสนไร่ ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ผู้ที่อยู่ริมแม่น้ำน่านกับแม่น้ำยมให้ระวังน้ำท่วมฉับพลันอีก วันเดียวกัน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมคณะ นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านใน อ.โพทะเล โดยมี พล.ต.ต.วิฑูรย์ คลังพลอย ผบก.ภ.จ.พิจิตร และตำรวจในพื้นที่ให้การต้อนรับ

เมืองสองแควป่วยติดเชื้อ

ด้าน จ.พิษณุโลก ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นใกล้ถึงจุดวิกฤติ ชุมชนในตัวเมืองพิษณุโลกหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านนำกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำกันวุ่นวาย พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากตัวเมืองตลอด 24 ชั่วโมง นพ.วิเศรษฐ วัชโรทน สูตินรีเวช รพ.พุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ขณะนี้มีหญิงสาววัยรุ่นที่พักอยู่ตามหอพักต่างๆ พากันทยอยเข้ารักษาตัว เนื่องจากป่ายเป็นโรคติดเชื้อในช่องคลอด สาเหตุมาจากชุดชั้นในตากไม่แห้งสนิททำให้มีเชื้อรา บางคนเดินลุยน้ำเสื้อผ้าเปียกทั้งวัน เลยทำให้อับชื้น จึงขอให้ประชาชนได้ระมัดระวัง และควรตากเสื้อผ้าไว้ที่โล่งแจ้ง

จ.นครสวรรค์ น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ถนนสายเลี่ยงเมืองขึ้นเหนือบริเวณบ้านกลางแดดทั้งขาขึ้นและขาล่อง น้ำท่วมสูงรถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางตำรวจต้องทำป้ายแจ้งเตือนผู้ใช้เส้นทางให้เลี่ยงใช้เส้นทางพหลโยธินผ่านตัวเมืองนครสวรรค์แทน ส่วนที่ อ.ชุมแสง ระดับน้ำในแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านพื้นที่ยังคงวิกฤติ ประกอบกับมีน้ำเหนือที่ไหลบ่า มาสมทบ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นกว่า 10 ซม. เส้นทางที่จะไปยังศูนย์ราชการ เช่นที่ว่ากันอำเภอ สถานีตำรวจ และสำนักงานเกษตรอำเภอ มีน้ำท่วมขังสูง 50-60 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อนทั่วหน้า นายเสน่ห์ คงแป้น นายอำเภอชุมแสง นำรถอีโก้งมาวิ่งรับ-ส่ง ชาวบ้านที่ไปติดต่อราชการ เพื่ออำนวยความสะดวก โดยไม่คิดค่าบริการ แต่ก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล ขณะเดียวกัน ได้ระดมกำลังทำพนังกั้นน้ำรอบศูนย์ราชการ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกโดยเร็ว

เขื่อนพิมายทะลักท่วมเมือง

ส่วนภาคอีสานที่ จ.นครราชสีมา น้ำในลำห้วยต่างๆ ไหลทะลักเข้าเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ต่ำบางแห่งน้ำทะลักเข้าท่วมสูง แถมไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ทำให้บ้านเรือน ในตรอกสำโรงจันทร์ ชุมชนเกาะลอย ชุมชนจมอยู่ใต้บาดาล ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก งูเหลือมขนาดใหญ่ยาว 4 เมตร หนักกว่า 30 กก. เลื้อยหนีน้ำติดตาข่ายชาวบ้านเกาะลอย นายจำรัส โยโส ช่วยจับถูกงูฉกจมเขี้ยวเลือดโซมร่าง ด้าน อ.พิมาย น้ำจากเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำมูลบน-ลำแซะ ไหลไปสมทบในเขื่อนชลประทานพิมาย จนเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมในตลาดอำเภอพิมาย ที่ว่าการอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ บ้านพักข้าราชการ รวมทั้งร้านค้า และบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูง ถนนบายพาสสายพิมาย-ชุมพวง บริเวณหน้าศาลแขวงนครราชสีมาพิมาย ถูกน้ำท่วมสูง 40 ซม. รถยนต์สัญจรไปมาลำบาก

แม่น้ำชีล้นตลิ่งท่วมนาข้าว

ที่ จ.มหาสารคาม น้ำในแม่น้ำชีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังมีฝนเทกระหน่ำติดต่อกันหลายวัน ทำให้พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำบางแห่งน้ำทะลักเข้าท่วมสูง ทางชลประทานจังหวัดมหาสารคามเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วน จ.อุดรธานี น้ำในลำห้วยต่างๆ ไหลไปรวมในอ่างห้วยหลวง อ.กุดจับ ทำให้ปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จนใกล้ล้นตลิ่งแล้ว ทางอ่างเก็บน้ำต้องเร่งระบายน้ำ ทำให้พื้นที่ท้ายอ่างถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ขณะที่อ่างห้วยสามพาด อ.หนองแสง อ่างน้ำหนองปะโค อ่างน้ำหนองตะไก้ อ.กุมภวาปี และอ่างน้ำบ้านจั่น กับอ่างน้ำหนองสำโรง อ.เมืองอุดรธานี ต้องเร่งระบายน้ำเช่นกัน

จ.ขอนแก่น พื้นที่หมู่ 3 หมู่ 4 และหมู่ 12 ต.ดอนหัน อ.เมืองขอนแก่น ถูกน้ำในแม่น้ำชีล้นตลิ่งท่วมสูงเป็นวงกว้าง ชาวบ้านขนข้าวของหนีน้ำกันอย่างทุลักทุเล เรือกสวนไร่นาจมอยู่ใต้น้ำกว่า 2,000 ไร่ นายสุทธินันท์ บุญมี นายอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมกำลังทหารเข้าช่วยเหลือชาวบ้านเต็มที่ ทั้งนี้ นายสุทธินันท์กล่าวว่า พื้นที่ ต.ดอนหัน มีอาณาเขตติดกับ ต.เขวาไร่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ เลยส่งผลให้น้ำทะลักท่วมสูง ส่วน จ.ชัยภูมิ หลายอำเภอถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน และมีผู้จมน้ำตาย 1 ศพ คือนายบัญฑิต เหง้าขามป้อม อายุ 21 ปี หลังลงเล่นน้ำกับเพื่อนที่ฝายน้ำล้นฝายทิพย์ ต.บ้านเป้า อ.เกษตรสมบูรณ์ ถูกกระแสน้ำพัดจมหายตายอนาถ

น้ำมูลทะลักท่วมชุมชนหนัก

นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุบลราชธานี เผยว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดปริมาณน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี วัดได้ 7.55 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำมูล ในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ รวม 20 ชุมชน 1,013 ครัวเรือน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในการอพยพสิ่งของขึ้นไว้ในที่สูง รวมทั้งการตั้งศูนย์เฉพาะกิจ และเตรียมถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมติดตั้งถังน้ำอุปโภคบริโภค ขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 12 ถัง คาดว่าในระยะ 1-2 วันนี้น้ำน่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากแม่น้ำโขงหนุนสูงขึ้น ประกอบกับการระบายน้ำจากเขื่อนเหนือ จ.อุบลราชธานี

อุดรฯ-หนองบัวลำภูน่าห่วง

จ.หนองบัวลำภู หลังมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนเรือกสวนไร่นาเป็นวงกว้างรวม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สุวรรณคูหา อ.นาวัง อ.ศรีบุญเรือง อ.นากลาง เฉพาะนาข้าวจมอยู่ใต้บาดาลเสียหายย่อยยับหลายพันไร่ นพ.ศราวุธ สันตินันตรักษ์ นายก อบจ.หนองบัวลำภู ระดมกำลังทำพนังกั้นน้ำกันโกลาหล ขณะที่ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ประชาชนระวังภัยน้ำท่วมฉับพลันแล้ว เช่นเดียวกับ จ.เลย น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนตลาดเมืองใหม่ เขตเทศบาลเมืองเลย ชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนเดือดร้อนทั่วหน้า ทางจังหวัดประกาศเตือนให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยขนข้าวของไปไว้ในที่สูง

ที่ จ.ศรีสะเกษ ระดับน้ำหลายพื้นที่ยังคงทรงตัว และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ถนนสายศรีสะเกษ-ยางชุมน้อย เขต อ.เมืองศรีสะเกษ ถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตร รถยนต์สัญจรผ่านไปมาไม่ได้ ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทางจังหวัดเร่งช่วยเหลือเต็มที่ วันเดียวกัน ร.ต.ท.เสรี ปริญญากร ร้อยเวร สภ.อ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งพบศพคนจมน้ำตายลอยอยู่ในลำห้วยสำราญ หลังศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน จ.ศรีสะเกษ ไปตรวจสอบทราบชื่อนายประวิทย์ สารบูรณ์ อายุ 35 ปี สอบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาผู้ตายลงเล่นน้ำท่ามกลางน้ำไหลเชี่ยวกราก ถูกกระแสน้ำพัดจมหายหน่วยกู้ภัยค้นหาไม่พบ กระทั่งศพลอยโผล่ดังกล่าว

อุตุฯเตือน 13 จังหวัดระวังภัย

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออกมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ลุ่มของจังหวัดตาก เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้

กรมชลฯไขลานระบายน้ำ

ที่กรมชลประทาน นายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามถึงระดับน้ำและความคืบหน้าในการช่วยเหลือประชาชนและการเร่งระบายน้ำ โดยนายสามารถให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า กรมได้บริหารจัดการน้ำโดยรับน้ำเข้าระบบชลประทาน 832 ลบ.เมตรต่อวินาที แยกเป็นทุ่งตะวันตก 627 ลบ.เมตรต่อวินาที และออกสู่ทุ่งตะวันออกอีก 205 ลบ.เมตรต่อวินาที ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณเพิ่มขึ้นอีก 13 ลบ.เมตรต่อวินาที เป็น 2,901 ลบ.เมตรต่อวินาที ในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างได้เปิดประตูคลองลัดโพธิ์ระบายน้ำผ่าน 20.49 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงระยะเวลา 13 ชั่วโมงที่ปริมาณน้ำทะเลลดลง ซึ่งในช่วงนี้ ถึงวันที่ 13 ต.ค. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ปัญหาอุทกภัยขณะนี้เป็นประเด็นที่มีการหารือกันอย่างกว้างขวางใน ครม. โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กำชับให้ส่วนราชการต่างๆ ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ประสานงานกับนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ที่นำเสนอการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยธรรมชาติ โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ นอกจากนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ยังได้นำเรื่องของระบบเครือข่ายเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย รวมทั้งการ ใช้ระบบอีอีซีวี หรือระบบการสื่อสารเคลื่อนที่ด้วย

มอบ โฆสิต แก้น้ำท่วม

ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวอีกว่า นายกฯได้มอบหมายให้นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัฐฎ์ รองนายกฯและ รมว.อุตสาหกรรม ไปพิจารณาแนวทางนโยบายในเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลชุดก่อนๆ เพื่อนำมาพิจารณาปรับตามความจำเป็น ให้พิจารณาตามแผนการที่วางไว้ ในส่วนของสำนักงบประมาณได้ชี้แจงถึงงบประมาณการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ไม่มีปัญหาใดๆ หรือถ้าหากสถานการณ์มีความรุนแรง ความเสียหายเป็นวงกว้าง ทาง รมว.คลังสามารถเพิ่มวงเงิน แก่จังหวัดได้ตามความจำเป็น นอกจากนั้นยังมีงบกลางที่สามารถใช้เงินสำรองจ่ายในกรณีจำเป็นได้เช่นกัน

เตรียมล้างบางแก๊งมอดไม้

ส่วนนายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วมว่า คงต้องมีแนวทางหารือการแก้ปัญหาระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะต้องวางแผนระยะยาวในการแก้ปัญหา รวมถึงต้องมีการวางแผนอนุรักษ์พื้นที่ให้เหมาะสม แต่ปัญหาเร่งด่วน ที่ต้องแก้ไขคือ เรื่องการบุกรุกทำลายป่า ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการยกเลิกยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาลุ่มน้ำ 25 แห่ง มูลค่า 2 แสนล้านบาท ของรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ นายเกษมตอบว่า ต้องพิจารณาความเหมาะสมและทิศทางทั้งหมดก่อน

ขณะที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมว่า หากไม่มีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ป่านนี้น้ำท่วมกรุงเทพฯแล้ว จึงอยากเรียกร้องให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายรุ่งเรือง อิศรางกูร ณ อยุธยา รมช.เกษตรฯ ให้ไปศึกษาระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลกับเขื่อนป่าสักฯว่ากักเก็บน้ำได้เพียงใด ความเร็วน้ำที่ปล่อยจากเขื่อน ตลอดจนน้ำทะเล เพื่อหาทางระบายน้ำไม่ให้ท่วม กทม. ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่อยากพูดเรื่องนี้เพราะตอนเป็นรัฐบาลเคยอนุมัติการก่อสร้างไปแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นก็มีพวงหรีดมาวางเต็มหน้าบ้าน อยากถามว่ากลุ่มที่คัดค้านรู้สึกอย่างไร ที่ชาวบ้านถูกน้ำท่วมทุกปี หากสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแล้ว จังหวัดทางภาคเหนือ ตั้งแต่แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก จะไม่ต้องประสบปัญหาอุทกภัยซ้ำซากแบบนี้อีก

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ