โทลล์เวย์หน้าบานขึ้นค่าผ่านทางรายได้เพิ่มวันละ 4 แสน

โทลล์เวย์ลอยลม มั่นใจคนทนรถติดไม่ไหว กลับใจมาใช้บริการแน่ พอใจรายได้เพิ่มขึ้น แม้คนใช้ลดลง ด้านกรมทางหลวง ทำคุยมาตรการ 5ข้อทางเลี่ยง-ทางลัดได้ผล..

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายสมบัติ พานิชชีวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังจากประกาศปรับค่าผ่านทางดอนเมืองโทลล์เวย์จาก 55 บาท เป็น 85 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ปริมาณการใช้บริการดอนเมืองโทลล์เวย์ ลดลงประมาณ 20,000 คัน หรือลดลง 30 % จากปริมาณการใช้บริการก่อนหน้าที่ปรับราคาเฉลี่ยวันละ 80,000 คัน ซึ่งยังอยู่ในระดับเดิมที่ปรับลดลงในช่วงแรกที่ได้ปรับราคา

ส่วนรายได้ยังปรับเพิ่มขึ้นในอัตราเดิมที่ได้ปรับราคา คือ ประมาณ 10% หรือประมาณ 400,000 บาท จากเดิมที่มีรายได้วันละประมาณ 4 ล้านบาท รวมเป็น 4.4 ล้านบาท ซึ่งหากถามว่าพอใจหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าพอใจระดับหนึ่ง แต่ต่อไปคาดว่า ปริมาณการใช้บริการจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ใช้บริการ เห็นว่าการใช้ดอนเมืองโทลล์เวย์คุ้มค่า ทั้งประหยัดเวลา ไม่ต้องรถติด ประหยัดน้ำมัน และขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นในการออกโปรโมชั่น เนื่องจากต้องรอผลการประเมินผลกระทบ หลังจากการปรับขึ้นราคา 3 เดือน ซึ่งหากมีความจำเป็น ก็จะออกโปรโมชั่นมาเพื่อดึงดูดใจให้ใช้บริการ เช่น ชิงโชครางวัลใหญ่

นายสมบัติ ยังกล่าวถึงกรณีกระทรวงคมนาคมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการแก้ไขสัญญาดอนเมืองโทลเวย์ ที่มีนายถวัลรัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เบื้องต้นพบว่า มีจุดอ่อนบางจุด หรือมีบางฝ่ายระบุว่า การปรับขึ้นราคาไม่เป็นไปตามกฎหมายนั้น ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ บริษัททำตามสัญญาสัมปทานทุกประการ และการแก้ไขสัญญาก็เป็นไปตามขั้นตอนถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ตนจะต้องรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

ด้านนายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดสัญญาของดอนเมืองโทลล์เวย์ทั้งหมดให้กับคณะกรรมการแล้ว ซึ่งในรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นข้อกฎหมาย ส่วนการประเมินผลกระทบหลังจากดอนเมืองโทลล์เวย์ปรับขึ้นราคา พบว่า ปริมาณการจราจรในถนนวิภาวดี เพิ่มขึ้นประมาณ 10,000 - 15,000 คัน น้อยกว่าปริมาณการใช้ดอนเมืองโทลล์เวย์ ที่ลดลง 20,000 คัน ชี้ให้เห็นว่า มาตรการ 5 ข้อที่กรมฯ ประกาศลดผลกระทบไปก่อนหน้าได้ผล โดยเฉพาะการทำป้ายประชาสัมพันธ์ก่อนแนะนำเส้นทางเลี่ยงไปใช้เส้นทางวงแหวนรอบนอกตะวันออกและตะวันตก เพราะค่าผ่านทางถูกกว่า และการจราจรคล่องตัวกว่า รวมทั้งการเพิ่มทางเข้า-ออกมากขึ้น ทำให้การจราจรสะดวกขึ้นด้วยเช่นกัน.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์