สุวรรณภูมิวุ่น ขลุกขลักสุดๆ

"รอกระเป๋า นาน ชั่วโมงครึ่ง"


การเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิวันแรก เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ภาพรวมจะออกมาดูดี แต่เมื่อคนมาใช้บริการพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ความโกลาหลก็บังเกิด โดยตั้งแต่เวลา 04.26 น. เที่ยวบินระหว่างประเทศที่นำผู้โดยสารเดินทางมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นเที่ยวบินแรก คือสายการบินแอร์โร สวิส จากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เที่ยวบินที่ วีวี 171 มีผู้โดยสารกว่า 200 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยร่วมเดินทางมาด้วยถึง 117 คน เป็นคนจาก จ.อุดรธานี เลย และลำปาง ที่เดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในกรุงสตอกโฮล์ม ซึ่งทันทีที่กลุ่มผู้โดยสารเดินทางเข้ามาภายในอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ ต่างก็ รู้สึกประทับใจกับการต้อนรับของเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่หลังจากนั้นสถานการณ์ก็พลิกกลับ เมื่อผู้โดยสารทั้งหมดต้องเสียเวลารอกระเป๋าจากสายพานลำเลียงนานถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง จากนั้นปัญหา กระเป๋าล่าช้าได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องกับผู้โดยสารของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 951 และเที่ยวบินที่ทีจี 911 มาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ต้องรอนานกว่า 1 ชั่วโมงเช่นกัน รวมถึงปัญหาอีกสารพัดได้ประดังตามเข้ามาเป็นระลอก ตั้งแต่ปัญหาการดีเลย์ของเครื่องบินที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะลงจอดเทียบงวง บางลำต้องไปจอดกลางรันเวย์แทน ทำให้เกิดปัญหากระทบเป็นลูกโซ่ตามมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่เฉพาะสายการบินไทยเท่านั้นที่มีปัญหากระเป๋ามาล่าช้า สายการบินอื่นต่างเจอปัญหาคล้ายกัน เพียงแต่สายการบินไทยกลายเป็นสายการบิน ที่มีปัญหากระเป๋าผู้โดยสารขาเข้ามาล่าช้ามากสุด กว่าผู้โดยสารจะได้รับกระเป๋าก็ล่าช้าไปถึง 3-4 ชั่วโมง

"รถเข็นกระเป๋าไม่พอ"


นอกจากนี้ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองยังมีปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องใช้เวลายืนรอนานถึง 20-30 นาที พร้อมทั้งจำนวนรถเข็นที่จะเข็นสัมภาระกระเป๋ามีน้อยและพอมีปัญหาเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินของสนามบิน ไม่มีใครที่จะให้ความช่วยเหลือเท่าใดนัก จึงเกิดความโกลาหลภายในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณขาเข้าจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบางคนถึงกับออกปากด่าทอและสบถออกมาด้วยความไม่พอใจ

จากนั้นในเวลา 11.00 น. ได้เกิดปัญหาระบบไอทีภายในสนามบินล่ม ต้องใช้เวลานานร่วม 1 ชั่วโมง ในการบูธเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ข้อมูลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) สามารถเชื่อมโยงกับสายการบินต่างๆได้ โดยเจ้าหน้าที่เช็กอินรายหนึ่งกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีปัญหาตั้งแต่ตอนทดสอบเที่ยวบินแล้ว และเชื่อว่ายังมีปัญหาต่อเนื่องไปอีกสักระยะ เนื่องจากระบบยังไม่ได้เข้าที่ แต่โดยรวมแล้วคงทำให้เที่ยวบินดีเลย์ไม่มากนัก

"ปัญหาซ้ำซ้อนเพียบ"


ทั้งนี้ นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาถึงเรื่องนี้ว่า เชื่อมั่นว่าระบบของเราดีอยู่แล้ว แต่จากการตรวจสอบในเหตุการณ์ พบว่าเกิดจากได้มีเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลระบบ เข้าไปเพิ่มสวิตช์ ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้สายการบินได้เข้ามาใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นและได้สายการบินมากขึ้น แต่กลายเป็นว่าระบบโอเวอร์ โหลด จึงทำให้ระบบดับ ซึ่งในส่วนนี้ได้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลด้านฐานข้อมูลและดูแลแก้ไขปัญหาแล้วและสามารถกลับมาใช้งานได้ภายใน 15 นาที

ต่อมาในเวลา 13.00 น. ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า เกิดความโกลาหลอีกระลอก เมื่อเกิดปัญหากระเป๋าของผู้โดยสารที่มากับสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 204 และทีจี 222 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ผู้โดยสารรวม 300 คน ออกมาล่าช้า ทั้งที่เครื่องลงมาตั้งแต่เวลาก่อนเที่ยง ทำให้ ผู้โดยสารที่รอรับกระเป๋ามานานนับชั่วโมง เกิดความฉุนเฉียวไม่พอใจพนักงานของการบินไทย ซึ่งผู้บริหารการบินไทยต้องแก้ปัญหาด้วยการสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาเลี้ยงผู้โดยสาร หวังคลี่คลายสถานการณ์ แต่ปัญหากลับเกิดซ้ำซ้อน เมื่ออาหารมีไม่เพียงพอจน ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทยต้องลงมาสั่งการแก้ปัญหาด้วยตนเอง

"ร้านอาหาร อาหารไม่พอขาย"


ขณะเดียวกัน ในส่วนของการเช็กอินเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังเกิดความสับสน ซึ่งนอกจากผู้โดยสารส่วนหนึ่งจะไม่ทราบว่าต้องไปเช็กอินบริเวณเคาน์เตอร์ใดแล้ว เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่สนามบินก็ไม่ได้ รับคำตอบที่ชัดเจน นอกจากนี้ ในการออกตั๋วโดยสารเที่ยวบินยังเกิดข้อผิดพลาด โดยผู้โดยสารชาวไทยรายหนึ่งที่ใช้บริการของการบินไทยเป็นประจำ จะเดินทางไปสิงคโปร์ ด้วยเครื่องการบินไทย ได้ไปเช็กอินบริเวณเคาน์เตอร์ เอช (H) เพื่อออกตั๋วในชื่อของตัวเอง แต่ปรากฏว่าตั๋วโดยสารที่ออกให้กลับเป็นชื่อของนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อร้องขอให้แก้ไข เจ้าหน้าที่กลับอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของระบบคอมพิวเตอร์ ให้ขึ้นไปเปลี่ยนที่นั่งบนเครื่องเอาเอง ทำเอาผู้โดยสารรายนี้ถึงกับงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น

สำหรับปัญหาอื่นๆที่พบในการเปิดใช้สนามบินวันแรกนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจร้านอาหารในสนามบินสุวรรณภูมิ พบว่า ร้านอาหารหลายร้าน อาหารไม่พอจำหน่าย คนเข้ามารับประทานอาหารมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถึงแม้ว่าราคาอาหารจะแพง เช่น โจ๊กกระเพาะหมู บะหมี่เป็ด ชามละ 100 บาท ขณะที่หลายร้านมีคนมาเข้าแถวรอซื้ออาหารเป็นจำนวนมาก จนอาหารที่เตรียมไว้หมดก่อนเวลา


"ห้องน้ำน้อยรอต่อคิวยาวเหยียด"


ขณะที่ นายเสรี วงษ์มณฑา พิธีกรชื่อดังกล่าวว่า ได้เดินทางมากับสายการบินไทยเที่ยวบินที่ ทีจี 134 มีปัญหาเรื่องเข้าห้องน้ำที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีคิวยาวมาก ภายในห้องน้ำมีโถฉี่เพียง 4 โถ ผู้หญิงก็ประมาณ 4 โถ และมีห้องน้ำจำนวนน้อยมาก ทำให้ไม่เพียงพอกับผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่สนามบิน จึงอยากให้ ทอท. ที่รับผิดชอบดูแลปรับปรุงให้ดี

อย่างไรก็ดี หลังเกิดปัญหาต่างๆ จนผู้โดยสารหัวหมุน นายวันชัย ศารทูลทัต ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ดการบินไทย ได้เรียกประชุมหัวหน้า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม สรุปได้ว่าภาพรวมต่างๆ ได้ความว่า ในส่วนการขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ มีความสมบูรณ์ แต่ในเรื่องของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ยังมีปัญหาล่าช้า ซึ่งนายวันชัยได้สั่งการให้การบินไทย มีการประชุมร่วมกับ ทอท. เพื่อหาแนวทางและข้อกำหนดในทางปฏิบัติว่ามีข้อบกพร่องโดยด่วน นอกจากนั้น ให้มีการดำเนินการปรับเปลี่ยนป้ายแนะนำ และป้ายบอกเส้นทางในอาคารผู้โดยสารให้มีความชัดเจนมากขึ้น

"บริการรับกระเป๋า ล่าช้า"


ด้าน ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวย การใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่การให้บริการรับกระเป๋าผู้โดยสารมีความล่าช้าอย่างมากว่า ในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับระบบสายพานลำเลียง กระเป๋า หรืออุปกรณ์การขนกระเป๋าของการบินไทยมีไม่ครบ การบินไทยยืนยันว่า อุปกรณ์ขนกระเป๋าของการบินไทยที่รับผิดชอบในส่วนของลานจอด และนำเข้ามาที่ระบบสายพานลำเลียงมีครบสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยอมรับว่า ตั้งแต่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เช้าวันที่ 28 ก.ย. 49 มีกระเป๋าผู้โดยสารของการบินไทยทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศตกค้างอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กว่า 200 ใบ ในขณะที่เครื่องบินได้ทำการบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปแล้ว แต่ยืนยันว่าสาเหตุมาจากระบบสายพานลำเลียง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ ทอท. ไม่ใช่การบินไทย แต่การบินไทยจะรับผิดชอบจัดส่งกระเป๋าให้ผู้โดยสารทุกใบ และทุกเจ้าของ นอกจากนั้นในส่วนของประตูเทียบเครื่องบินอัตโนมัติ ในสนามบินที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ ทอท. ประจำ ส่งผลให้การทำการบินล่าช้า อย่างไรก็ตาม ส่วนกรณีที่เมื่อสนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาในเรื่องเช็กอิน และระบบสายพานลำเลียง ได้ส่งผลให้เครื่องบินของการบินไทย ทำการบินล่าช้ากว่า 15-45 นาที จากที่มีการทำการบินตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ย. จนถึงช่วงบ่าย จาก 19 เที่ยวบิน ล่าช้า กว่า 17 เที่ยวบิน

ต่อมาเวลา 16.30 น. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และรองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) พร้อมด้วยนายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทอท. นายสมชัย สวัสดีผล ผอ.สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางมาตรวจความพร้อมและได้สอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ ทอท.และการบินไทย

"ล่าช้าปัญหาเยอะ"


ทั้งนี้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติของสนามบินใหม่ โดยเฉพาะในช่วง 6 ชั่วโมงแรกของการใช้งานจะต้องประสบกับเหตุการณ์ต่างๆที่ไม่คาดคิด แต่เจ้าหน้าที่พยายามแก้ไขเป็นกรณีไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เปิดสนามบิน ผู้โดยสารจะไม่มีการตกเครื่อง เนื่องจากเครื่องบินต้องรอผู้โดยสาร แม้ว่าจะต้องออกล่าช้าบ้าง นอกจากนี้ มั่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัย ของสนามบินว่ามีความรัดกุม ส่วนสายพานลำเลียงกระเป๋าในช่วงแรกอาจมีปัญหาขัดข้อง ได้ให้ ทอท.เร่งแก้ไข ส่วน กรณีผู้โดยสารที่ทำการเปลี่ยนเครื่องที่มีผู้โดยสารบางคน เกือบขึ้นเครื่องไม่ทันนั้น ได้สั่งการให้ ทอท.เพิ่มการประชาสัมพันธ์ และประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เพื่อไม่ให้ เกิดข้อผิดพลาด

ต่อมาในช่วงเย็น นายเพทาย บุญเวศ กรรมการผู้จัดการฝ่ายลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น บริษัทการบินไทย ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ปัญหาต่างๆ ในเรื่องของระบบเช็กอินผู้โดยสาร กระเป๋าล่าช้า เครื่องดีเลย์ ทางการบินไทยขอยอมรับผิด และขอโทษผู้โดยสารที่มาใช้ บริการและไม่ได้รับความสะดวกสบาย


ปัญหานี้เราพยายามแก้ไข เพราะตอนทดสอบเราไม่รู้ข้อบกพร่อง และเพิ่งมาใช้สนามบินใหม่ต้องมีการแก้ไขกันไป ส่วนกระเป๋าผู้โดยสารที่มาถึงสนามบินแล้วการขนย้ายล่าช้า เป็นเรื่องของความผิดพลาดในการประสานงานที่ไม่ตรงกัน ระหว่างการบินไทยกับ ทอท. เช่น เครื่องบินมาถึง ทอท.ขนกระเป๋าลงให้ แต่การบินไทยมารับกระเป๋าผิดที่เป็นต้น ส่วนนี้ไม่อยากโทษใคร เพราะต้องช่วยกันแก้ไขไป นายเพทายกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แม้ผู้เกี่ยวข้องกับสนามบินสุวรรณภูมิพยายามแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งวัน แต่ยังเกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ โดยเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. มีผู้โดยสารซึ่งเดินทางมาจากประเทศเกาหลี ประมาณ 200 คน โดยสายการบินวันทูโกของบริษัทโอเรียนต์ไทย เที่ยวบินที่โอเอ็กซ์ (OX) 301 จากอินชอน-กรุงเทพฯ ได้รวมตัวประท้วง หลังจากที่รอรับกระเป๋านานถึง 4 ชั่วโมง หลังเดินทางมาถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 15.00 น. โดยไม่มีเจ้าหน้าที่สายการบินและเจ้าหน้าที่ของ ทอท.คนใดสามารถตอบข้อข้องใจได้ ซึ่งในบรรยากาศความวุ่นวายดังกล่าว มีผู้โดยสารชายชาวเกาหลีไม่พอใจที่รอรับกระเป๋านาน จนเกิดความโมโห และระเบิดอารมณ์ใส่เจ้าหน้าที่ของสายการบินโอเรียนต์ไทย ด้วยการชกต่อย จนถึงขั้นแจ้งความดำเนินคดีกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุความวุ่นวายดังกล่าว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูว่า ความไม่พร้อมในการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิครั้งนี้ อาจทำให้ประเทศไทยเสียภาพพจน์ เพราะชาวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย

"ประสานงานแก้ไขปัญหา"


อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และพบว่ากระเป๋าของผู้โดยสารเที่ยวบินดังกล่าว ไปอยู่ที่สายพานลำเลียงที่ 10 แต่ข้อมูลที่ประกาศให้ผู้โดยสารไปรับกระเป๋าที่สายพานลำเลียงที่ 23 จึงทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย

ทั้งนี้ ความวุ่นวายดังกล่าวเกิดจากระบบข้อมูลภายในสนามบินยังไม่เป็นระบบและสับสน ขณะที่บริษัทการบินไทยได้ออกแถลงการณ์ขออภัยผู้โดยสารที่ได้รับสัมภาระล่าช้าในบางเที่ยวบิน ในวันแรกของการทำการบิน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งบริษัทได้พยายามแก้ไข และจะรับผิดชอบจัดส่งสัมภาระให้กับผู้โดยสารตามที่อยู่ที่แจ้งไว้อย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่าปัญหาความวุ่นวายในการรอรับกระเป๋านานของผู้โดยสาร เป็นผลมาจากอุปกรณ์ขนย้ายของบริษัทการบินไทยมีปัญหา และไม่ยอมแจ้งให้กับ ทอท.ทราบ ทำให้ ทอท. ไม่รู้ปัญหา ทั้งที่มีทหารเตรียมไว้ 1,000 นาย เพื่อแก้ปัญหาฉุกเฉิน

กระนั้น ถึงแม้วันแรกของการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิจะเต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรค แต่สำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ ต่างรายงานการเปิดใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิเต็มรูปแบบเป็นวันแรก ว่าสนามบินแห่งใหม่นี้เป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่อันทันสมัย ซึ่งแม้จะเกิดอุปสรรคเล็กน้อยในวันแรกของการให้บริการ แต่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ยังชื่นชมและแสดงความคิดเห็นในเชิงบวก อาทิ ประทับใจความอลังการของการออกแบบสนามบินและการให้บริการอันเป็นมิตรของเจ้าหน้าที่ แถมระบุด้วยว่า การก่อรัฐประหารของ คปค. ไม่ส่งผลต่อการเปิดใช้สนามบินใหม่


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์