สองครูแจ้งตร.ดำเนินคดีผู้ปกครอง-ผู้ดำเนินรายการทีวี

สองครูถูกกล่าวหาข่มขืนลูกศิษย์เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ 3 ผู้ปกครองและ 2 ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยวาไรตี้ ฐานหมิ่นประมาทและไม่คุ้มครองเด็ก ตร.สายไหมเตรียมเรียกสอบปากคำ

(28กันยายน) เวลา 12.30 น.นายลอน โสรกนิษฐ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 2 แขวงและเขตสน.สายไหม ครูประจำชั้นโรงเรียนประชานุกูล,นายพิมล ซุ่นศรี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1955 หมู่บ้านช.รุ่งเรือง 6 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ครูพละ พร้อมนายกิ่งแก้ว โยมเมือง ทนายความ เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ปณชัย ศรัทธาวุฒิ พนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปกครองเด็ก และผู้ดำเนินรายการเมืองไทยวาไรตี้ ทาง ททบ.5 ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มาตรา 328

และข้อหาการโฆษณาในลักษณะไม่คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 พ.ร.บ.การคุ้มครองเด็ก 2546 โดยนำหลักฐานเป็น ภาพถ่ายรายการเมืองไทยวาไรตี้ ของททบ.5 จำนวน 3 แผ่น และแผ่นซีดีบันทึกช่วงเมืองไทยสนทนาในรายการดังกล่าว

โดยครูทั้งสองให้การว่า เนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 21.20 น. นายวุฒิโรจน์ หรือกรรชัย กำเนิดพลอย และนายสุทธิพงษ์ ทัดพิทักษ์กุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยวาไรตี้ ได้นำเอากรณีครูข่มขื่นลูกศิษย์ ซึ่งกำลังเป็นที่มสนใจของประชาชนมาดำเนินรายการให้รับทราบถึงพฤติกรรม โดยมีการนำเอาบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนผู้เสียหาย 3 คนประกอบด้วย

นางขวัญเดือน เอมโอด ที่อ้างว่าเป็นญาติของเด็กที่ถูกข่มขืนในห้องพยาบาล นางบุญเรือน วิฬุริยะกุล ซึ่งอ้างว่าเป็นป้าของเด็กผู้เสียหายคนหนึ่ง และน.ส.จำเนียร พันธ์นัดที ซึ่งอ้างว่าเป็นมารดาของหนึ่งในเด็กผู้เสียหายทั้ง ๆ ที่ไมใช่ โดยนำบุคคลดังกล่าวมาพูดคุยในช่วงเมืองไทยสนทนาในรายการดังกล่าว ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือว่าเป็นการเผยแพร่เกี่ยวกับตัวเด็ก เป็นความผิดตามพ.ร.บ.การคุ้มครองเด็กพ.ศ.2546 มาตรา 27 และมาตรา 50

นอกจากนี้ ยังมีการนำภาพของตนทั้ง 2 คนมาออกอากาศรวมทั้งการสัมภาษณ์หรือการสนทนา ยังเป็นข้อความกล่าวใส่ร้ายตนทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นการหมิ่นประมาท ทั้งตลอดเวลา พิธีกรทั้ง 2 คน ยังคอยพูดเสริมและถามข้อความต่างๆที่เป็นการหมิ่นประมาทด้วย ตนทั้งสองคนได้ให้ทนายความติดต่อประสานงานไปยังพิธีกรทั้ง 2 คนและผู้ที่เกี่ยวข้องกับรายการเมืองไทยวาไรตี้ โดยแจ้งว้า การกระทำดังกล่าวของรายการ

เป็นการกระทำผิดต่อกฏหมาย แต่ทางรายการกลับนำเทปรายการช่วงเมืองไทยสนทนามาออกอากาศซ้ำอีกครั้ง เมื่อวันที่ 22 ส.ค. เวลาเดียวกัน อีกทั้งยังได้สอบถามประชาชนว่าา ทำแบบนี้ผิดด้วยหรือ จึงเป็นการกระทำผิดตามมาอีกกระทง

ด้านพ.ต.ท.ปณชัย กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความไว้ ตามที่ทั้ง 2 คนแจ้งทั้ง 2 ข้อหาซึ่งหลังจากนี้ จะเรียกตัวผู้ที่ถูกแจ้งความทั้ง 5 คนมาสอบปากคำ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แต่สำหรับข้อหาโฆษณาในลักษณะให้คุ้มครองเด็ก เท่าที่พิจารณาอาจจะไม่เข้าข่าย เนื่องทั้ง 2 คน ไม่ใช่ผู้เสียหาย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก