ปิดดอนเมือง แห่อาลัยแน่น

"ปิดแล้ว หลังเปิดให้บริการมานานกว่า 90 ปี"


วันสุดท้ายของการใช้ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพ หรือที่เรียกกันติดปากว่าสนามบินดอนเมือง หลังจากเปิดให้บริการเป็นสนามบินแห่งชาติมากว่า 90ปี ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่า ตั้งแต่เช้ามีผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาใช้บริการตามปกติกันอย่างคับคั่ง โดยสายการบินต่างๆนำเครื่องขึ้นลงกว่า 610 เที่ยวบิน แม้ว่าหลายสายการบินมีการปรับตารางการบินและลดเที่ยวบิน เพื่อป้องกันการฉุกละหุกในช่วงรอยต่อของการโยกย้ายข้าวของในคืนวันที่ 27 ก.ย. ทำให้ เคาน์เตอร์เช็กอินส่วนใหญ่เงียบเหงากว่าปกติ อย่างไรก็ตาม

ตลอดทั้งวันผู้โดยสารรวมถึงพนักงานสายการบินต่างๆ และพนักงานบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้นำกล้องถ่ายรูปมาบันทึกภาพเป็นที่ระลึกตามจุดต่างๆของสนามบินกันอย่างคึกคัก นอกจากนี้นักสะสมของที่ระลึกยังแห่มาซื้อของที่ระลึกตามร้านค้า ที่บางร้านยอมขายแบบเลหลังลดราคาถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่ได้รับความสนใจไม่น้อยก็คือไปรษณียบัตร และซองจดหมายปิดแสตมป์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ท่าอากาศยานดอนเมือง และประทับตราไปรษณียากรเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

"ยังเปิดให้บริการเช่าเหมาลำอยู่"


นายไพโรจน์ อิ่มคง หัวหน้าไปรษณีย์ท่าอากาศยานกรุงเทพ เปิดเผยว่า ศูนย์ไปรษณีย์ท่าอากาศยานกรุงเทพปิดให้บริการภายในสนามบินดอนเมืองพร้อมกันทุกจุดในเวลาประมาณ 23.30 น. ซึ่งรู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะทำงานอยู่ที่ดอนเมืองมากว่า 30 ปี อย่างไรก็ตาม พนักงานไปรษณีย์ทุกคนในส่วนนี้พร้อมที่จะไปให้บริการประชาชนที่สนามบินสุวรรณภูมิทันที ในเวลา 02.00 น. วันที่ 28 ก.ย. เนื่องจากศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมินั้นใช้อุปกรณ์ใหม่ ทั้งหมด จึงไม่ต้องเสียเวลาในการขนย้ายและติดตั้งอุปกรณ์อีก

ขณะที่ ร.อ.พินิจ สาหร่ายทอง ผอ.สนามบินกรุงเทพ (ดอนเมือง) กล่าวว่า ทำงานที่นี่มานานกว่า 30 ปี รู้สึกอาลัยเพราะผูกพันกับที่นี่มาตลอด และไม่คิดจะย้ายไปไหนจนกว่าจะเกษียณในปี 2550 ผูกพันมากกว่าภรรยาที่บ้านเพราะใช้ชีวิตอยู่กับสนามบินมาตลอด ถือว่าสนามบินเป็นชีวิตและจิตใจและสร้างโอกาสดีๆให้กับครอบครัว ลึกๆแล้วก็รู้สึกเสียดาย แต่ขอยืนยันว่าสนามบินนี้ไม่ได้ปิด เพราะยังคงเปิดให้บริการเครื่องบินส่วนตัว และเครื่องเช่าเหมาลำต่อไป

"มีผู้ใช้บริการเพียบทั้งวัน"


ด้านการขนย้ายอุปกรณ์สัมภาระของสายการบินและหน่วยงานต่างๆภายในสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานกรุงเทพและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้ทยอยขนย้ายสิ่งของตลอดทั้งวัน ด้วยรถบรรทุกสิบแปดล้อและรถหกล้อ ซึ่งช่วงกลางวันเป็นการขนย้ายตามปกติ ส่วนช่วงค่ำไปยันใกล้รุ่งของวันที่ 28 ก.ย. เป็นการขนย้ายด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและรักษาความปลอดภัยในการขนย้ายตลอดเส้นทาง ท่ามกลางความสนใจของสื่อทั้งไทยและต่างประเทศแห่ มาถ่ายภาพทำข่าวกันนับร้อยคน

สำหรับบรรยากาศทั่วไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนเปิดใช้เชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันที่ 27 ก.ย. ที่อาคารผู้โดยสารตั้งแต่ช่วงเช้าถึงค่ำ มีคนไทยและต่างชาติเดินทางมาใช้บริการตลอดทั้งวัน โดยคนที่มาใช้บริการยังพบปัญหาสารพัน ตั้งแต่หาจุดบริการต่างๆ อาทิ โทรศัพท์สาธารณะ จุดแลกเงินไม่เจอ ฯลฯ เนื่องจากสถานที่กว้างขวาง แต่ป้ายบอกทางมีน้อย รวมถึงปัญหาห้องน้ำที่บ่นกันเยอะเรื่องจำนวนห้องน้ำมีน้อยเกินไป

"ตรวจรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม."


ขณะเดียวกัน ในส่วนของการต่อเติมภายในอาคารผู้โดยสารและตามร้านค้ายังพบว่ามีคนงานเร่งมือต่อเติมและตกแต่งภายในอยู่ตลอด ส่งผลให้เกิดฝุ่นไม้และกลิ่นสีฟุ้งกระจายในบางจุด ขณะที่การรักษาความปลอดภัย ทางกองทัพได้นำสุนัขทหารจากกรมการสัตว์ทหารบกจำนวน 10 ตัว ซึ่งในจำนวนนี้มีสุนัขไทยพันทางชื่อ มะเกลือ ร่วมปฏิบัติการคอยตรวจตรา ร่วมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง รองโฆษก ทบ. กล่าวถึงการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนที่จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ว่า กองทัพบกได้รับการประสานงานกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ขอการสนับสนุนชุดสุนัขทหารตรวจค้นพัสดุภัณฑ์ระเบิด การตรวจค้นวัตถุระเบิด ซึ่งในช่วงวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา กรมการสัตว์ทหารบกจัดชุดสุนัขทหารตรวจค้นพัสดุภัณฑ์ระเบิดจำนวน 20 ชุด พร้อมกำลังพล 28 นาย เดินลาดตระเวนโดยรอบพื้นที่บริเวณส่วนของผู้โดยสารขาเข้า

"เตรียมพร้อม กำลังทหาร สุนัขทหาร ต้อนรับการเปิดใช้ฯ"


และพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร และในวันที่ 12-14 ก.ย. จัดกำลังพล 8 นาย และสุนัขทหาร 5 ตัว และในวันที่ 15 ก.ย. ถึง 31 มี.ค.2550 จัดสุนัขทหารจำนวน 10 ชุด และกำลังพล 13 นาย นอกจากนี้ ยังประสานขอเพิ่มกำลังพลอีก 300 นาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดบริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีกทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระขัดข้อง

ด้านการแก้ปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ เวลา 13.30 น. ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เดินทางมาร่วมประชุมเรื่อง ผลกระทบในการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในฐานะนายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยให้สัมภาษณ์ หลังการประชุมว่า

"ผลกระทบต่างๆ"


ทางสถาบันได้ศึกษาผลกระทบมานานแล้วว่า สถาบันได้รับผลกระทบในเรื่องเสียง การสั่นสะเทือน อิเล็กทรอนิกส์ และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอน จึงเสนอต่อการท่าอากาศยานและสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อช่วยกันลดปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งพูดคุยกันว่า การท่าอากาศยานจะมีการแก้ปัญหาให้ก่อนที่จะเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยขณะนี้ทางการท่าอากาศยานรับปากว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านการปรับปรุงห้องเรียน

โดยใช้งบประมาณ 214 ล้านบาท ทั้งนี้ ทางสถาบันเองมีความพร้อมในเรื่องงบประมาณอยู่แล้ว และใช้ได้ทันที เพียงแต่รอการอนุมัติให้มีการดำเนินการเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการช่วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้น ที่มีกระแสข่าวว่าทางสถาบันจะประท้วงการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ หวังว่าคงไม่มี ซึ่งถ้าได้รับ คำตอบที่ดีจากการท่าอากาศยาน จะเป็นการช่วยลดปัญหา เพราะสนามบินสุวรรณภูมิถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของประเทศจึงไม่ควรจะมีปัญหาในการเปิดสนามบิน

"พร้อมเปิดใช้ 28 นี้"


เวลา 17.30 น. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) และในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ถึงความพร้อมในการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 28 ก.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

ก่อนที่ พล.อ.อ.ชลิต จะออกมาเปิดเผยว่า ระบบต่างๆยังคงดำเนินการไปตามแผนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งเรื่องการขนย้ายอุปกรณ์ ที่ขนไปแล้วมากกว่าครึ่ง ส่วนความปลอดภัยในภาคอากาศ ซึ่งทางบริษัทวิทยุการบินยังควบคุมการบินทั้งที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ยังดำเนินการได้ตามปกติ ด้านระบบการรักษาความปลอดภัย ทางการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.

"เตรียมความพร้อม ทั้งกลางวันกลางคืน"


ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการรักษาความปลอดภัยไว้ทั้งกลางวัน กลางคืน และไปถึงรอบนอกสนามบินด้วยจึงไม่น่ามีปัญหาเกิดขึ้น ส่วนกำลังทหาร 800 นาย ที่นำมาช่วย ไม่ได้มาช่วยเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่มาช่วยเรื่องการขนย้ายกระเป๋าในกรณีที่สายพานอาจเกิดปัญหาขึ้น โดยจะมาช่วยเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งคาดว่าหลังจากนั้นระบบจะเข้าที่แล้ว

ทั้งบอร์ดของการบินไทย และ ทอท. ได้เตรียมพร้อมเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน โดยเตรียมแก้ไขและป้องกันเหตุขัดข้องเอาไว้กรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบเหตุขัดข้องใดๆ ซึ่งในวันที่ 28 ก.ย.นี้ถือเป็นการทดลองการบินเชิงพาณิชย์ หรือซอฟต์โอเพนนิ่ง แต่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ หรือแกรนด์โอเพนนิ่ง ทางคณะกรรมการฯจะกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว เสด็จฯมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิด คงต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง

"คปค.คิดใช้ พท.ให้กองบิน ตร. และ ทบ."


พล.อ.อ.ชลิตกล่าว และระบุถึงการใช้สนามบินดอนเมืองหลังจากนี้ด้วยว่า ทาง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้า คปค. มีแนวคิดที่จะให้กองบินตำรวจ และกองบินทหารบก ที่ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่แคบ และเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่ายเข้ามาใช้พื้นที่ ขณะเดียวกัน กองทัพอากาศยังคงใช้พื้นที่บริเวณนั้นอยู่ ส่วนการควบคุมจะยังใช้บริษัทวิทยุการบินจัดการเหมือนเดิม เพียงแต่ จำนวนเที่ยวบินจะลดลง แต่เชื่อว่าคงมีเที่ยวบินขนส่งสินค้า และเช่าเหมาลำมาลงมากขึ้น ดังนั้น จะยังไม่มีการปิดสนามบินดอนเมือง และจะใช้อาคารสำนักงานทั้งหมดในกิจการธุรกิจการบินต่อไป

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ ต่างรายงานเกี่ยวกับการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิของไทย ซึ่งจะเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย. ว่า สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสัญลักษณ์ของความวิตกกังวล เรื่องอื้อฉาวของคอรัปชันและยุคของการบริหารงานแบบซีอีโอของอดีตนายกฯทักษิณ รายงานข่าวยังระบุอีกว่า การเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิมีขึ้นท่ามกลางความวิตกกันว่าการปฏิวัติในไทย อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างน้อยราว 1 เดือน เพราะนักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในการบินมายังประเทศไทย

"ร้านค้าทยอยเข้าเก็บของ"


สำหรับบรรยากาศช่วงสุดท้ายของการใช้สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินแห่งชาตินั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นมา ยิ่งใกล้เวลาสั่งลา ภายในสนามบินยิ่งเงียบลงเรื่อยๆ เมื่อร้านค้าทยอยเก็บข้าวของและปิดร้านลงทีละร้าน ขณะที่ขบวนขนย้ายอุปกรณ์ ที่เป็นรถขนาดใหญ่ ก็ทยอยเคลื่อนขบวนเดินทางออกจากดอนเมืองอย่างต่อเนื่อง

โดยเวลา 18.50 น. รถเทรเลอร์ขนอุปกรณ์ภาคพื้นสนามของบริษัทบางกอกแอร์เวย์สและสายการบินโอเรียนท์ไทยกว่า 10 คันรถ ได้เคลื่อนขบวนจากดอนเมืองไปตามถนนวิภาวดีฯ ขึ้นโทลล์เวย์ออกถนนพระราม 9 เข้าสู่สุวรรณภูมิ ซึ่งถือว่าไร้อุปสรรคใดๆ แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างหนักก็ตาม โดยในส่วนของการบินไทยจะเป็นสายการบินสุดท้ายในการขนย้ายอุปกรณ์หนัก โดยคาดว่าจะขนย้ายเสร็จสิ้นไปสุวรรณภูมิในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 28 ก.ย.

"ดอนเมืองรำลึก"


ส่วนที่บริเวณรอยต่อระหว่างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1 และ 2 ที่มีพิธีอำลาดอนเมืองในชื่อ ดอนเมืองรำลึก สู่ จุดหมายเดียวแห่งฝัน...สุวรรณภูมิ ในเวลา 21.00 น. ก็มีผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางไปกับเที่ยวบินสุดท้ายของการบินไทยทั้งสายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงพนักงานของสายการบินไทยและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาถ่ายภาพที่ระลึกและร่วมเขียนความรู้สึกที่มีต่อสนามบินดอนเมืองกันอย่างเนืองแน่น

ทั้งนี้ เที่ยวบินสุดท้ายที่จะออกจากสนามบินดอนเมือง เป็นเที่ยวบินขาออกนอกประเทศของสายการบินคูเวตแอร์เวย์ส เดินทางจากกรุงเทพฯไปคูเวต ขึ้นบินในเวลา 02.50 น. วันที่ 28 ก.ย. ขณะที่สายการบินไทย เที่ยวบินสุดท้ายในการสั่งลาสนามบินดอนเมือง เป็นเที่ยวบินออกนอกประเทศ ที่ทีจี 662 กรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ ออกเดินทางในเวลา 01.45 น. ส่วนเที่ยวบินในประเทศ ขาออกเที่ยวสุดท้าย เที่ยวบินที่ทีจี 124 ออกจากดอนเมืองไปเชียงใหม่ในเวลา 22.15 น. ขาเข้าเที่ยวสุดท้าย เที่ยวบินที่ทีจี 216 มาจากภูเก็ตถึงดอนเมืองในเวลา 23.00 น. ซึ่งผู้โดยสารที่ใช้บริการในเที่ยวบินสุดท้ายนี้จะได้รับของที่ระลึกจากทางสนามบินด้วย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์