สุวรรณภูมิคึกคัก 900เที่ยวบินเปิด

นับถอยหลังการอำลาสนามบินดอนเมือง เพื่อใช้ สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นสนามบินแห่งใหม่ของไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ว่า เวลาประมาณ 13.30 น. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ รองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)

และในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดินทางมาตรวจความพร้อมของอาคารที่พักผู้โดยสาร อาคารเทคโนโลยีสารสนเทศภายในอาคาร หรือเอมส์ และหอบังคับการบินของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมี นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยผู้บริหาร ทอท. ให้การต้อนรับ

พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากประธานคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เปิดเผยภายหลังการเดินตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า คณะปฏิรูปฯ มาดูความพร้อม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั้งหมดไม่มีปัญหา สนามบิน สุวรรณภูมิเตรียมพร้อมที่จะเปิด 100 เปอร์เซ็นต์ โดยความจริงวันนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ จะเดินทางมาด้วย แต่ติดเรื่องการประชุมเกี่ยวกับการร่างธรรมนูญการปกครองจึงไม่สามารถเข้ามาร่วมตรวจเยี่ยมได้

เชื่อมั่นว่าการเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิจะมีปัญหาอุปสรรคเพียง 0.01 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ซึ่งเหมือนกับการขึ้นบ้านใหม่ เดิมทุกคนมีความกังวลว่าการเปิดจะมีอุปสรรค แต่จากที่ได้รับรายงานข้อมูลพบว่า ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไขแล้ว ดังนั้น ในวันเปิดน่าจะมีความสมบูรณ์ ซึ่งในส่วนของคณะปฏิรูปฯ เตรียมบุคลากรทั้ง 3 เหล่าทัพไว้แล้ว เพื่อมาช่วยในการอำนวยความสะดวกกับ ทอท. กว่า 1,000 คน ซึ่งในส่วนของบุคลากรทางทหารที่จะมาประจำ และช่วยเหลือที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น จะให้ประจำอยู่ 2 สัปดาห์ และเมื่อทุกอย่างลงตัว ถึงจะถอนกำลังกลับ

พล.ร.อ.สถิรพันธุ์กล่าวอีกว่า ในเรื่องของความมั่นใจของสายการบินต่างๆ กับการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ว่าจะเปิดจริงหรือไม่นั้น ในขณะนี้ทุกสายการบินมีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่า สนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดอย่างเป็นทางการ และให้บริการในเชิงพาณิชย์แน่นอนในวันที่ 28 ก.ย.นี้

ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า จากการตรวจสนามบินสุวรรณภูมิพบว่าไม่น่าเป็นห่วงในเรื่องด้านความปลอดภัย อุปกรณ์ทุกอย่างมีการเตรียมไว้พร้อมหมดแล้วไม่น่าเป็นห่วง และไม่ต้องกำชับอะไรเพิ่มเติม เพราะทุกคนทำไว้พร้อม ส่วนการให้บริการของ ทอท. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่น่าเป็นห่วง เพราะในปัจจุบันได้ให้บริการผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิกว่า 100 เที่ยวบินต่อวัน เฉลี่ยการให้บริการประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนั้น ในวันที่ 27 ก.ย.ตนจะมาอยู่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อดูความเรียบร้อย และในกรณีที่มีข้อขัดข้อง นอกจากนั้น ในส่วนของการขนย้ายอุปกรณ์ของบริษัทการบินไทยนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีการขนย้ายอุปกรณ์ไปแล้วกว่า 800-900 เที่ยว ซึ่งเฉลี่ยการขนย้ายไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งของการย้าย ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ส่วนอากาศยานที่ให้บริการอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมินั้น ทางคณะปฏิรูปฯไม่มีความเป็น ห่วง เพราะได้เตรียมพร้อมทุกด้านแล้ว

ความพร้อมเปิดใช้ทั้งหมด ไม่ต้องกำชับอะไร เป็นพิเศษ เพียงแต่ขอร้องให้สื่อโดยเฉพาะทีวีน่าจะทำสกู๊ปข่าวแสดงถึงศักยภาพของสุวรรณภูมิที่ในขณะนี้มีเที่ยวบินขึ้น-ลง กว่า 100 เที่ยวบิน หรือเทียบเท่าร้อยละ 20 ของสายการบินทั้งหมด และในช่วงรอยต่อวันที่ 27-28 ก.ย. ทางคณะปฏิรูปฯ พร้อมจะช่วยทุกด้าน และจากรายงานทราบว่าจะมีเที่ยวบินมาลง 800-900 เที่ยวในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ส่วนเรื่องพื้นที่ปลอดอากรที่บริษัท คิงเพาเวอร์ ดูแลจะตกแต่งเสร็จทันหรือไม่นั้น ในขณะนี้ทราบว่าคิงเพาเวอร์ได้เร่งให้เสร็จก่อนวันที่ 28 ก.ย.แล้ว พล.อ.อ.ชลิตกล่าว

ด้านนายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า การที่คณะปฏิรูปฯเดินทางมาครั้งนี้ จะมีการรายงานความพร้อมผ่านการปฏิบัติงานทั้งหมดที่จะเปิดใช้ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ โดยในส่วนของการขอความร่วมมือขณะนี้ยังไม่มี แต่หากมีปัญหาใดก็จะมีการประชุมหารือในคณะกรรมการ ที่มี พล.อ.อ.ชลิต เป็นประธานต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีการทดลองให้บริการสนามบินและระบบต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าเกิดปัญหาเล็กน้อย แต่สามารถแก้ไขได้ โดยปัจจุบันมีเที่ยวบินมาบินลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฉลี่ย 100 เที่ยวต่อวัน ถือว่าจำนวนมาก

ส่วนนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) กล่าวว่า ทาง ขอ.มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานที่องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอซีเอโอ เป็นผู้รับรอง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี 6 สายการบินขอเพิ่มที่จะมาบินลงที่สุวรรณภูมิ จากปกติบินอยู่ประมาณกว่า 100 สายการบิน ส่วนการออกใบรับรองการบินให้แต่ละสายการบินนั้น ขณะนี้จะเป็นการออกใบรับรองการบินเฉพาะกาล ไม่ใช่ฉบับจริง โดยจะให้แต่ละสายการบินใช้ไปประมาณ 3 เดือน ก่อนออกฉบับจริงให้ต่อไป

ต่อมา นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ว่า ได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของสนามบินดอนเมือง โดย ทอท. ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 จำนวน 300 นาย เข้าดูแลพื้นที่ในสนามบินดอนเมือง หลังจากคืนวันที่ 27 ก.ย. หรือเริ่มในวันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป โดยจะมีสายตรวจ พร้อมด้วยสุนัขตำรวจตรวจความเรียบร้อยตลอด 24 ชม.

ทั้งนี้ ทางกองบังคับการตำรวจนครบาลที่ 2 จะส่งสายตรวจมาดูแลความปลอดภัยในสนามบินดอนเมือง เพราะยังมีอุปกรณ์ต่างๆ ของสายการบินเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันจะให้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลท์ รวมทั้งเปิดไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น โดย ทอท.คาดว่า จะทำให้มีค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนประมาณ 100 ล้านบาท หรือลดลง ประมาณร้อยละ 95

ด้าน ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ การบินไทยจะจัดงานเลี้ยงอำลาสนามบินดอนเมือง ภายใต้ชื่องาน ดอนเมืองรำลึกสู่จุดหมายเดียวแห่งฝันสุวรรณภูมิ โดยมีนายวันชัย ศารทูลทัต ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัทการบินไทย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยพนักงานการบินไทยอย่างคับคั่ง โดยภายในงานจะมีการจัดชมนิทรรศการและประวัติความเป็นมาของสนามบินดอนเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

บริเวณทางเชื่อมอาคาร 1 และอาคาร 2 พร้อมด้วยกิจกรรมกรรมไทยประสานใจของคณะนักร้องประสานเสียงเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป รวมทั้งมีการขับกล่อมเสียงเพลงให้กับผู้ร่วมงานได้ประทับใจ ทั้งนี้ เพลงส่วนใหญ่ที่นำมาร้องจะเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิที่พนักงานจากฝ่ายต่างๆ เป็นผู้แต่งขึ้นเพื่อในงานดังกล่าวโดยเฉพาะ และในช่วงเวลา 01.00 น. จะเปิดแชมเปญอำลาเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายของสายการบินไทย คือเที่ยวบินที่ทีจี 662 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเซี่ยงไฮ้ และถ่ายรูปกับผู้โดยสารและพนักงาน พร้อมทั้งแจกพวงกุญแจของการบินไทยให้ผู้โดยสารเก็บไว้เป็นที่ระลึก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างเครื่องบินถอยหลังตั้งลำแท็กซี่เวย์ พนักงานการบินไทย เช่น ครัวการบิน ฝ่ายช่าง ฝ่ายพนักงานต้อนรับ จะใส่ชุดทำงานเดินลงไปที่ลานจอดเครื่องบินโบกมือให้กับผู้โดยสารในไฟลท์สุดท้าย หลังจากนั้นในช่วงเวลา 03.00 น. ทอท.ปิดไฟดวงสุดท้ายที่สนามบินดอนเมือง และเปิดไฟดวงแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับสนามบินดอนเมือง หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ท่าอากาศยานกรุงเทพ เปิดให้บริการมากว่า 90 ปี จะปิดทำการในคืนวันที่ 27 ก.ย. โดยเที่ยวบินขาเข้าเที่ยวสุดท้ายจากต่างประเทศที่จะลงจอดที่ดอนเมือง ได้แก่ เที่ยวบินของสายการบินไทยที่ทีจี 635 ขึ้นจากสนามบินอินชอน เกาหลีใต้ เวลา 17.30 น. มาถึงดอนเมืองเวลา 22.55 น. ส่วนเที่ยวบินในประเทศ

เป็นของสายการบินไทยเช่นกัน เที่ยวบินที่ทีจี 216 ขึ้นจากท่าอากาศยานภูเก็ต เวลา 21.35 น. มาถึงดอนเมืองเวลา 23.00 น. สำหรับเที่ยวขาออก เที่ยวบินในประเทศ เที่ยวสุดท้าย

เป็นของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 124 ขึ้นจากดอนเมืองเวลา 22.15 น. ไปยังสนามบินเชียงใหม่ และเที่ยวบินต่างประเทศเที่ยวสุดท้าย ที่จะบินออกจากสนามบินดอนเมือง ได้แก่ สายการบินคูเวตแอร์เวย์ เที่ยวบินที่เคยู 414 เดินทางไปประเทศคูเวต ในเวลา 02.50 น. วันที่ 28 ก.ย. ขณะที่เที่ยวบินต่างประเทศขาเข้า เที่ยวแรกที่จะเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ได้แก่สายการบินแอร์โร สวิส เที่ยวบินที่วี 171 มาจากประเทศเยอรมนี ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 04.10 น.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ