สธ.แนะเที่ยวป่าระวังไรอ่อนกัด


        สธ.เตือนนักท่องป่าระวัง 'ไรอ่อน' กัด อันตรายถึงชีวิต เผยอาการหลังเที่ยวป่าภายใน 2 สัปดาห์ มีไข้สูง รีบพบแพทย์


        วันนี้(16 พ.ย.) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงฤดูหนาว คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติ เดินป่า หรือตั้งเต็นท์พักแรมในป่าเขา สัมผัสอากาศหนาว อีกทั้งในวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2552 จะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ และวันที่ 13 ธันวาคม 2552 จะมีฝนดาวตกเจมินิดส์ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางไปพักแรมในป่าเขา เพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าว หากเข้าไปในเขตพื้นที่เป็นแหล่งอาศัยของไรอ่อน และบังเอิญถูกไรอ่อนหรือไรแดง (Chigger) ที่มีเชื้อก่อโรคสครับ ไทฟัส กัด จะทำให้ป่วยเป็นโรคสครับ ไทฟัส (Scrub typhus) หรือโรคไข้รากสาดใหญ่ได้


        นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ขอแนะนำนักท่องเที่ยวเดินป่า หากจะกางเต๊นท์พักแรมในป่า ควรทำบริเวณค่ายพักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนกับพื้นดินติดบริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ หรือที่หญ้าขึ้นรก เนื่องจากเป็นที่อาศัยของตัวไรอ่อน ในการป้องกันตัวไม่ให้ไรอ่อนกัด ขอให้แต่งตัวให้รัดกุมมิดชิด ใส่กางเกงขายาวเสื้อแขนยาวปิดคอ เหน็บปลายเสื้อเข้าในกางเกง ใส่รองเท้าและสวมถุงเท้ายาวหุ้มปลายขากางเกงไว้ และทายากันแมลงตามแขนขาส่วนที่พ้นจากเสื้อผ้า เมื่อกลับจากการท่องเที่ยวพักแรมในป่า ขอให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที และซักเสื้อผ้าที่ใช้มาแล้วให้สะอาด เพื่อกำจัดตัวไรที่อาจติดมากับเสื้อผ้า


        ด้านนายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ กล่าวว่า โรคสครับ ไทฟัส เป็นโรคติดต่อในสัตว์ฟันแทะที่อยู่ในป่า เช่น หนู กระแต กระจ้อน เมื่อตัวไรอ่อนดังกล่าวไปกัดคน มักจะเข้าไปกัดในบริเวณร่มผ้า และปล่อยเชื้อริกเกตเซียเข้าสู่คน หลังถูกกัดประมาณ 10 -12 วัน จะมีไข้สูง ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน หูอื้อ เหงื่อออก หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว บางรายอาจมีอาการปวดน่อง ตาแดง ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ มีตับโต ม้ามโต โดยผู้ที่ถูกไรอ่อนกัดประมาณร้อยละ 30 - 40 จะมีแผลบุ๋มสีดำ ลักษณะคล้ายโดนบุหรี่จี้ แต่ไม่เจ็บ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ หลังมีไข้ประมาณ 4-5 วันบางรายจะมีผื่นนูนแดงตามตัว กระจายไปแขนขา ซึ่งจะหายไปใน 2-3 วัน บางรายอาจมีอาการทางปอด ในรายที่รุนแรงอาจมีอาการสมอง คอแข็ง เสียชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการเหล่านี้หลังกลับออกจากเที่ยวป่า ภายใน 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการไปเที่ยวป่าให้แพทย์ทราบด้วยเพื่อรับการรักษาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงถึงชีวิต ซึ่งโรงพยาบาลทุกแห่งมียารักษาโรคนี้หายขาด


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์