ลักเด็กส่อวุ่น 2บ้าน-แย่งลูก

คดีลักเด็กส่อเค้าวุ่น หลังพงศพัศพา"พ่อจ่อย-แม่บุญนำ"พบลูกที่อุดรฯแล้ว ส่วนเด็กจะอยู่กับใครยังต้องรอ"พม.-ผู้ว่าฯ"ถกขั้นตอนและตัดสิน ส่วนกรณีน้องอีฟตำรวจยังสับสนไม่รู้เป็นลูกใคร เหตุผู้ต้องหาให้การขัดแย้ง เตรียมตรวจดีเอ็นเอผู้เกี่ยวข้องพิสูจน์ความสัมพันธ์

จากกรณีลักพาเด็กจากสนามหลวงไปขายที่จ.อุดรธานี ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม กล่าวว่า


ได้เรียกตัวนางช้อน สีส่อง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหา และนายภิราช สารพูลทรัพย์ อายุ 45 ปี มาสอบปากคำ โดยผู้ต้องหาอ้างว่านายภิราชเป็นพ่อของด.ญ.อีฟ (นามสมมติ) เด็กที่อยู่กับนางช้อน จากการสอบปากคำยังไม่มีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการลักพาตัวเด็กเพิ่ม ขณะเดียวกันประสานกับสภ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ช่วยสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าผู้ต้องหานำเด็กไปเร่ขาย นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนสน.ชนะ สงครามได้เดินทางไปสอบปากคำเด็กที่ถูกลักตัวไปจากสนามหลวงทั้งสองรายที่อยู่จ.อุดรธานี คือ น้องอีฟและน้องหญิง (นามสมมติ) เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป

พ.ต.ท.สมยศกล่าวอีกว่า

ในส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าน้องอีฟเป็นบุตรสาวของนายภิราช กับอดีตภรรยาเก่าที่มาฝากให้เลี้ยงนั้น ขัดกับคำให้การของนายภิราชที่ให้การไว้ว่า น้องอีฟเป็นบุตรสาวที่เกิดกับผู้ต้องหา ทำให้ยังเกิดความสับสนว่า ในข้อเท็จจริงน้องอีฟเป็นลูกของใคร จึงจะพานายภิราชไปร่วมพูดคุยเรื่องนี้กับผู้ต้องหาในเรือนจำอีกครั้ง หากผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นลูกที่เกิดกับนายภิราชก็จะเกลี้ยกล่อมให้ตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไปเพื่อให้ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม การตรวจดีเอ็นเอนั้นไม่สามารถบังคับผู้ต้องหาไปตรวจได้

พ.ต.ท.สมยศกล่าวต่อว่า

หากพบว่าน้องอีฟไม่ใช่บุตรของนายภิราชกับนางช้อน ก็เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวมาตั้งแต่เล็กๆ และต้องดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป รวมถึงอาจต้องเรียกตัวบุตรชายของนางช้อนกับสามีเก่ามาสอบปากคำ ในประเด็นที่มีข้อมูลว่านางช้อนเป็นหมัน ส่วนในรายของน้องหญิงนั้น ทราบว่าบิดาและมารดาได้เดินทางไปจ.อุดรธานีแล้ว และจะตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์กันที่จ.อุดรธานีเลย

สว.สส.สน.ชนะสงครามกล่าวด้วยว่า

ทั้งนี้จะนำคดีเด็กหายในท้องที่ที่ผ่านมา มาตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีคดีเด็กหายคดีใดที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ในพื้นที่สน.ชนะสงครามโดยเฉพาะท้องสนามหลวงมีแจ้งความเด็กหายบ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการพลัดหลงกับผู้ปกครอง

เวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท. พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษกตร. เดินทางไปที่สภ.ศรีธาตุ จ.อุดร ธานี พร้อมด้วยนายจ่อย ลากุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเช่าเลขที่ 71/4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนคร ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และน.ส. บุญนำ ทิพโสด หรือดาว อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 13 ต.บ่อโพธิ์ อ.นคร ไทย จ.พิษณุโลก พ่อแม่ด.ญ.หญิง อายุ 6 ขวบ เพื่อให้พบกับน้องหญิง หลังจากถูกนางช้อนลักพาตัวมาจากสนามหลวง กทม. เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ก่อนหน้าจะเดินทางไปที่บ้านที่รับเลี้ยงน้องหญิง พล.ต.ท.พงศพัศเกรงว่าพ่อแม่น้องหญิงจะเกิดการทะเลาะกันเพื่อแย่งตัวน้องหญิงไปเลี้ยงดู และจะทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นกับตัวเด็กทางด้านจิตใจ เนื่องจากนายจ่อยและน.ส.บุญนำแยกทางกันแล้ว อีกทั้งภายหลังน้องหญิงหายไป ทั้งคู่ต่างก็มีครอบครัวใหม่แล้ว พล.ต.ท.พงศพัศจึงเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมสังเกตการณ์คือ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุดรธานี และศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 71 ปรากฏว่าผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย ต่างก็ยืนยันต้องการพาน้องหญิงไปเลี้ยงดู

จากนั้นเดินทางต่อไปที่บ้านเลขที่ 152 ม.10 ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรฯ ของนายสุทัศน์ บุญสุใส และนางคีม โพธิ์ศรี สามีภรรยาผู้รับซื้อน้องหญิงมาจากนางช้อน และเลี้ยงดูมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อนายจ่อยและน.ส.บุญนำเห็นหน้าน้องหญิงต่างก็ถึงกับร้องไห้ เรียกน้องหญิงให้เข้ามา ซึ่งตอนแรกน้องหญิงยังไม่กล้าเข้าใกล้ ได้แต่ยืนกอดอยู่ในอ้อมอกของนางคีม ผู้เลี้ยงดู ขณะที่นายจ่อย นำตุ๊กตาผู้หญิงที่ซื้อมาฝากลูก พร้อมพาพี่ชายของน้องหญิงมาด้วย และถามน้องหญิงว่า จำพ่อแม่ และพี่ชายได้หรือไม่ สักพักน้องหญิงพยักหน้ารับ พร้อมกับบอกว่าจำได้ จากนั้นน้องหญิงให้พ่อและแม่กอดหอม

พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวว่า
 
วันนี้ถือเป็น การให้พ่อแม่และลูกได้เจอหน้ากัน และน้องหญิงยืนยันว่าจำคุณแม่คุณพ่อได้ จากนี้ไปจะอยู่ในขั้นตอนของสำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับนายอำนาจ ผการัตน ผู้ว่าฯอุดรธานี เพื่อประชุมกำหนดขั้นตอนและตัดสินว่าจะให้น้องหญิงไปอยู่ในความดูแลของใครต่อไป

โดยพล.ต.ท.พงศพัศมอบเงินสด 10,000 บาท ให้นายสุทัศน์และนางคีมที่เลี้ยงดูน้องหญิงมา พร้อมกับนำตุ๊กตาหมีรูปตำรวจหญิง ที่พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท. ผบ.ตร. ฝากมามอบให้ด้วย บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวในตอนท้ายว่า

ในส่วนของน้องอีฟนั้น ขณะนี้อยู่ในความดูแลของสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุดรธานี จนกว่าจะหาพ่อและแม่เจอ จึงขอแจ้งผู้ปกครองหรือญาติที่สงสัยน้องอีฟจะเป็นลูกหลาน ติดต่อได้ที่บก.ภ.จว. อุดรธานี หรือสำนักงานบ้านพักและครอบ ครัว จ.อุดรธานี ได้ตลอดเวลา ส่วนกรณีนางช้อน สีส่อง จะต้องดำเนินคดีต่อไป ตำรวจจะขยายผลการติดตามจับกุมแก๊งค้ามนุษย์ โดยให้ทุกพื้นที่รวบรวมสถิติการลักพาตัวเด็กย้อนหลังไป 3 ปี แล้วให้ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ดำเนินการอย่างเฉียบขาดต่อไป

จากนั้นพล.ต.ท.พงศพัศเดินทางต่อไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.อุดรธานี เพื่อเยี่ยมน้องอีฟ เด็กที่ถูกนางช้อนขโมยมาอีกคน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์