สธ.ชี้คนไทย ซดเบียร์ ปีละ2หมื่นล.

นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุขแถลงข่าว “ปีใหม่ปลอดเหล้า กระเช้าใส่ใจสุขภาพ”

และผลการตัดสินการประกวดกระเช้าปีใหม่ต้นแบบที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ ทำลายสุขภาพ เพื่อรณรงค์สร้างค่านิยมการมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ ไร้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสร้างทัศนคติที่ถูกต้องในการเฉลิมฉลองปีใหม่ประจำปี 2553 โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หวังลดการทำลายสุขภาพ การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเมาสุรา ว่า ที่ผ่านมา ช่วงเทศกาลสำคัญๆ คนไทยส่วนใหญ่มักนิยมดื่มสุราและมอบกระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ด้วย เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตตามมา โดยเฉพาะอุบัติเหตุจราจรซึ่งแก้ไขมาทุกปี แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ในปีใหม่ 2553 ที่ใกล้จะถึงนี้

นายมานิต กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน รณรงค์ควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเทศกาลปีใหม่
ให้ปฏิบัติตามกรอบกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในมาตรา 30(5)อย่างเคร่งครัด ห้ามห้างร้านต่างๆจัดกระเช้าสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หากฝ่าฝืนมีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเป็นความผิดตามมาตรา 32 กรณีที่มีการกระทำที่เป็นการโฆษณาหรือสื่อสารการตลาดร่วมด้วย และหากมีการโฆษณาส่งเสริมการขายด้วย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ซึ่งได้ชี้แจงผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขณะเดียวกันได้รณรงค์สร้างค่านิยมให้ห้างร้านต่างๆเป็นต้นแบบในการรณรงค์จัด กระเช้าของขวัญที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพกายและใจ เช่น หนังสือ ซีดี ฯลฯ จำหน่ายประชาชนแทนกระเช้าเหล้า โดยในเทศกาลปีใหม่นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะขอความร่วมมือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศกำชับหน่วยงานในพื้นที่ควบคุมการจำหน่าย กระเช้าของขวัญด้วย

นายมานิต กล่าวว่า จากการประชุมพิจารณาการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่อง ดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางนิเทศศาสตร์การตลาดกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่ ประชุมเห็นตรงกันว่า การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ผิดกฎหมายทั้งหมด โดยต้องรอให้มีกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกมาก่อนจึง จะโฆษณาได้ สำหรับกฎกระทรวงฯดังกล่าวทางคณะกรรมการกฤษฏีกาพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามต่อไป และว่าจากการติดตามประเมินการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคนไทยทั่วประเทศ ในเดือนมกราคม-มีนาคมปี 2552 นี้ คนไทยควักเงินซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดรวม 34,545 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 6 ของรายจ่ายครัวเรือนในหมวดผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม ยาสูบและเครื่องนุ่งห่ม โดยซื้อเบียร์มากที่สุดจำนวน 22,632 ล้านบาท ซื้อสุรา/ไวน์ 11,913 ล้านบาท.

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์