สธ.ตรวจวัดดังไฟฟ้ารักษาโรค

สาธารณสุขลุยตรวจวัดเมืองกรุงเก่า ใช้กระแสไฟฟ้ารักษาคนปวดเมื่อย ด้วยการแช่เท้าลงในกะละมังที่มีน้ำแล้วน้ำจะเปลี่ยนสี

สั่งให้ปิดบริการทันทีเพราะผิดกฎหมาย ทางด้านเภสัชกรเผยเครื่องมือดังกล่าวเป็น อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ มีใช้ในห้องทดลองตามโรงเรียน มีคุณสมบัติในการใช้กระแสไฟฟ้าขั้วบวก-ลบ แยกไอออนหรือธาตุในน้ำทำให้น้ำเปลี่ยนสี มาหลอกลวงชาวบ้านที่ปวดเมื่อย จึงหลงเชื่อว่าแช่น้ำแล้วพิษเจ็บป่วยในร่างกายจะถูกขับออกมา
   
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ก.ย. นพ.รัตนชัย จุลเนตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ได้สั่งการให้นายจตุรัตน์ วุฒิวรศิริ หน.กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสมพงษ์ แสดงฤทธิ์ นิติกรประจำสำนักงาน เภสัชกรหญิงพณินชิสา มุสิกชัย เภสัชกรชำนาญการ เดินทางไปที่วัดศิริสุขาราม หรือวัดโรงหลวง หมู่ 4 ต.ช่างเหล็ก อ.บางไทร หลังจากได้รับร้องเรียนว่ามีการใช้กระแสไฟฟ้ารักษาประชาชนที่เจ็บป่วยอยู่ภายในวัด เมื่อไปถึงพบประ ชาชนหญิง-ชาย อายุ 30-80 ปี มานั่งเข้าคิวรักษา โดยบางส่วนกำลังนั่งรักษาด้วย การใช้เท้าแช่ลงไปในกะละมังที่ใส่น้ำจนท่วมหลังเท้า แล้วน้ำมีการเปลี่ยนเป็นสีเขียว ดำ และส้ม แตกต่างกัน ภายในน้ำมีสายไฟเส้นเล็ก ๆ ผูกโยงลงไปในกะละมัง ที่ลำตัวคนไข้มีแผงคล้ายเข็มขัดขนาดใหญ่คาดไว้ โดยมีพระภิกษุหลายรูปยืนดูแลและแนะนำวิธีการใช้อยู่ใกล้ ๆ
   
เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าว สร้างความงุนงงให้กับพระและประชาชนเป็นอย่างมาก

แล้วนายจตุรัตน์ ได้แจ้งให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายว่าด้วยการเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการมาเปิดรักษาภายในวัดก็ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้การใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์โดยไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ มีโทษถึงจำคุก จึงขอให้เก็บและหากพบว่ามีการนำมาใช้รักษาประชาชนอีก จะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาเปิดสถานพยาบาลโดยไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ
   
ทางด้านเภสัชกรหญิงพณินชิสา กล่าวว่า เครื่องมือดังกล่าวเป็นอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ มีใช้ในห้องทดลองตามโรงเรียน ต่าง ๆ

มีคุณสมบัติในการใช้กระแสไฟฟ้าขั้วบวก-ลบ แยกไอออน หรือธาตุในน้ำ ทำให้น้ำมีการเปลี่ยนสี ซึ่งเคยใช้เป็นวิธีการหลอกลวงประชาชนทั่วไปมาแล้ว ทำให้เชื่อว่าเมื่อเจ็บป่วยน้ำจะเปลี่ยนสี แต่เมื่อใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์มาใส่เอาไว้จะไม่มีการเปลี่ยนสี เพราะ ไม่มีแร่ธาตุให้แยกออกมา จึงเป็นการหลอกลวงประชาชนที่เจ็บป่วย ส่วนใหญ่ปวดเมื่อย และหลงเชื่อคิดว่า แช่น้ำแล้วพิษเจ็บป่วยในร่างกายจะถูกขับออกมา
   
ขณะที่พระจตุพล อรรถโกวิโท อายุ 23 ปี ผู้ดูแล เปิดเผยว่า เดิมทีพระครูบุญเสริม กันตธัมมาภิรักษ์ อายุ 52 ปี เจ้าอาวาสวัด เป็นผู้ซื้ออุปกรณ์มาจากญาติโยมที่นำมาเสนอขาย

ราคาเครื่องละกว่า 2 หมื่นบาท จากนั้นก็ลองใช้ดู และพบว่าน้ำมีการเปลี่ยนสี อาการปวดเมื่อยดีขึ้น จึงสั่งเครื่องมาอีก 5 เครื่อง เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้กัน แต่เนื่องจากมีประชาชนมาใช้บริการมากขึ้น จึงมีการเก็บค่าน้ำค่าไฟคนละ 100 บาท โดยให้นั่งแช่น้ำคนละครึ่งชั่วโมง แต่ละวันจะมีคนมาใช้บริการไม่น้อยกว่า 50 คน รายได้ทั้งหมดหักค่าน้ำค่าไฟแล้ว หลวงพ่อต้องการนำไปสร้างพระอุโบสถ ไม่ได้มีเจตนาทำเพื่อธุรกิจแต่อย่างใด แต่เมื่อทางสาธารณสุขเห็นว่าไม่เหมาะสม ก็จะยุติการใช้เครื่องมือดังกล่าว.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์