หมอแห่ผ่าลิงศาลพระกาฬ

จากกรณีทีมแพทย์อาสาเข้าตรวจอาการลิงบริเวณศาลพระกาฬ อ.เมือง จ.ลพบุรี และพบว่ามีลิงจำนวนมากป่วยเป็นโรคไส้เลื่อน

โดยจากการสุ่มตรวจลิง 100 ตัวพบว่าป่วยเป็นไส้เลื่อนมากถึง 70 ตัว เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่ลิงส่วนใหญ่ล้มป่วยจาก 3 สาเหตุ คือ 1.มีอายุมาก 2.ถูกกัด และ 3.ลิงส่วนใหญ่ปีนป่ายกระโดดไปตามหลังคาบ้านเรือนและอาคารซึ่งเป็นพื้นซีเมนต์จึงเกิดการกระแทกจนเป็นไส้เลื่อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 ส.ค. นายจารุพงศ์ พลเดช ผวจ.ลพบุรี ในฐานะประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี

ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการทำประวัติลิงลพบุรี ซึ่งมีอยู่นับพันตัว โดยลิงลพบุรีได้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ลิงตึก ลิงศาลพระกาฬ และลิงปรางค์สามยอด โดยในวันนี้ได้ให้ สัตวแพทย์หญิง จุฑามาศ สุพะนาม พร้อมเจ้าหน้าที่จับลิงมาตรวจหาโรคต่อ หลังจากเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา พบเป็นโรคไส้เลื่อนจำนวนมาก โดยสาเหตุที่ลิงป่วยโรคไส้เลื่อน เนื่องจากลิงใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ปีนป่ายตามสายไฟ การกระโดดจากตึกหนึ่งไปตึกหนึ่ง ซึ่งไม่มีการยืดหยุ่นเหมือนต้นไม้ตามธรรมชาติ

นายจารุพงศ์กล่าวว่า สาเหตุของการที่ไปตรวจพบว่าลิงเป็นไส้เลื่อนจำนวนมากนั้น เพราะ ว่าตนนั้นได้เข้ามาแก้ปัญหาของลิงลพบุรีที่มีปัญหาอยู่หลายกลุ่ม

จึงได้มีการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรีขึ้น มีตนเป็นประธาน เริ่มดำเนินการตรวจสุขภาพลิงลพบุรีตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ให้สัตวแพทย์หญิง จุฑามาศ สุพะนาม เป็นแพทย์อาสาประจำมูลนิธิ และตนได้ให้เงินจำนวนหนึ่ง 68,000 บาท ในการสำรวจประชากรลิง และตรวจหาโรคประจำตัวของลิงทั้งหมด ตั้งเป้าไว้ว่าประมาณ 3 ปี จึงจะตรวจลิงพวกนี้แล้วเสร็จ จะตรวจวันละ 100 ตัว ลิงตัวไหนที่มีปัญหาด้านสุขภาพก็รีบรักษา คาดว่าในอนาคตหากเรามีเงินสนับสนุน ชีวิตลิงความเป็นอยู่ของลิงจะดีขึ้นกว่านี้ หากประชาชนเมตตา จะบริจาคร่วมกับทางมูลนิธิได้ทางเบอร์โทรศัพท์ 0-3641-3534 เบอร์ห้องผู้ว่าฯโดยตรง และทางจังหวัดได้รับเงินบริ จาคจะมีหนังสือขอบคุณไปยังผู้บริจาคทุกคน

"ขณะนี้มีปัญหาอยู่ว่ามูลนิธิมีเงินอยู่ประ มาณ 7 แสนบาท อาจจะไม่เพียงพอต่อการตรวจลิง และรักษาได้ดี แต่ก็ต้องดำเนินการต่อไป เพราะปัญหาลิงลพบุรีนั้นมีมาก คนในเมืองลพบุรีก็กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนกับลิงที่ไปรบกวนชาวบ้านแม่ค้า และนักท่องเที่ยวอยู่ ในขณะนี้ทีมแพทย์ของมูลนิธิยังคงปักหลักทำงาน เร่งทยอยผ่าตัดรักษาโรคไส้เลื่อนให้กับลิง ซึ่งพบว่าขณะนี้ยังขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องมือและเวชภัณฑ์ในการดูแลรักษาลิงอีกเป็นจำนวนมาก" ผวจ.ลพบุรีกล่าว


นายจารุพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้จะเร่งจัดทำแผนในการพื้นฟูลิงให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งด้านงบประ มาณ และหน่วยงานที่จะรับผิดชอบโดยตรง

เพื่อตรวจสุขภาพ และควบคุมประชากรลิง การจัดสร้างแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร เพื่อให้ลิงสามารถ ปรับตัวอยู่กับการเปลี่ยนแปลงทางด้านวัตถุได้ในอนาคตอีกด้วย เคยประสานไปยังสวนสัตว์ลพบุรีแล้วที่จะขอความร่วมมือให้มาทำการสำรวจลิง แต่สวนสัตว์ยื่นขอเสนอทั้งค่าแรง บุคลากร ค่าอุปกรณ์จับลิงสูงเกินไป มูลนิธิมีเงินไม่พอจึงได้ใช้ชุดแพทย์ประจำมูลนิธิทำไปตามมีตามเกิด

วันเดียวกัน นายชัชวาล พิศดำขำ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ

ให้สัมภาษณ์กรณีข่าวลิงศาลพระกาฬมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคไส้เลื่อนจำนวนมาก หลังการตรวจสุขภาพของคณะสัตวแพทย์อาสา ว่า ในส่วนของอาการเจ็บป่วยของลิงแสมหรือลิงกัง ที่มีอยู่ทั่ว ไปตามที่ต่างๆ นั้น โดยปกติแล้วไม่ได้อยู่ในหน้า ที่รับผิดชอบของสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุท ยานฯ เนื่องจากลิงมีอยู่เป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ และบุคลากรซึ่งเป็นสัตวแพทย์ประจำของกรมก็มีจำนวนไม่เพียงพอที่จะออกไปดูแลได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถออกไปตรวจสอบสุขภาพให้กับสัตว์ทั่วไปได้ นอกจากกรณีที่ได้รับแจ้งจากประ ชาชนว่าเกิดเหตุสำคัญ หรือเหตุการณ์ที่สัตว์เข้ามารบกวน และจำเป็นที่จะต้องมีสัตว์แพทย์เข้า ไปตรวจสอบ จึงจะมีการส่งสัตวแพทย์ออกไป อย่างไรก็ตามในกรณีของลิงศาลพระกาฬที่เป็นข่าวนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ายังไม่ได้รับหนังสือ หรือเอกสารติดต่อจากหน่วยงานใด แต่เท่าที่รับทราบจากสื่อมวลชนเห็นว่าเรื่องนี้น่าเป็นห่วง ดังนั้นจึงจะส่งสัตวแพทย์ไปร่วมตรวจสอบกับคณะสัตวแพทย์อาสาด้วย

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวต่อว่า สำหรับ ลิงศาลพระกาฬ ซึ่งเป็นลิงแสมและลิงวอก นับว่าเป็นชนิดสัตว์ที่ถูกจัดอยู่ในบัญชีสัตว์คุ้มครอง

ห้ามประชาชนทำร้าย แม้ว่าลิงจะเข้ามาอยู่ในเมืองไม่ได้เป็นลิงป่าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าจะต้องได้รับการดูแลตามกฎหมายเช่นเดิม ทั้งนี้ที่ผ่านมาสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รับแจ้งจากประ ชาชนว่าได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มลิงแสม ลิงวอก ลิงกัง ในหลายพื้นที่อยู่บ่อยๆ เนื่องจากพวกมันจะออกมารื้อข้าวของ ทำลายทรัพย์สิน เช่น รื้อหลังคาวัด และบ้านของประชาชน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน เป็นอย่างมาก ซึ่งกรมอุทยานฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดูแล โดยตามทฤษฎีมีการจัดการอยู่ 2 วิธีคือ 1.จับมาเลี้ยงไว้ที่ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และ 2.ใช้วิธีการคุมกำเนิด แต่จะต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป

"ที่ผ่านมา ลิงพวกนี้มักจะออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน เช่น ออกมารื้อหลังคาบ้าน รื้อข้าวของ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และอาจจะรู้สึกโกรธแค้นทำให้เกิดการทำร้ายลิงขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายและอันตรายมาก เพราะลิงจะต่อสู้อย่างดุเดือด ดังนั้นหากได้รับความเดือดร้อนขอให้แจ้งมายังสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ เพื่อจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและหาทางแก้ปัญหา ซึ่งเป็นหน้าที่ที่อยู่ในข่ายความรับผิดชอบของเรา ส่วนของการตรวจสุขภาพสัตว์ในพื้นที่ต่างๆ นั้นไม่ได้อยู่ในส่วนของความรับผิด แต่ในกรณีของลิงศาลพระกาฬ เราคงจะประสานกับคณะสัตวแพทย์อาสาเพื่อส่งสัตวแพทย์ประจำกรมไปร่วมตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือด้วย" นายชัชวาลกล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์