หลวงพ่อคูณลั่น กูไม่กลัว ผลตรวจหวัด09

วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังจากลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำตัวหลวงพ่อคูณส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 ส.ค. เนื่องจาก หลวงพ่อคูณมีอาการเบลอ หลงลืม และจำชื่อ และใบหน้าลูกศิษย์ใกล้ชิดไม่ได้ นอกจากนี้เมื่อคืนของวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา หลวงพ่อคูณยังมีอาการไข้สูง ซึม ไอ มีเสมหะ และหนาวสั่น ซึ่งคณะแพทย์ได้ให้น้ำเกลือ ยาพ่นขยายหลอดลม และให้ยาต้านเชื้อไวรัสโอเซลทามิเวียร์ และยาซานามิเวียร์ในรูปของยาพ่นกับหลวงพ่อคูณ เนื่องจากเสี่ยงสูงที่อาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งการที่แพทย์ให้ยาพร้อมกัน 2 ชนิด เนื่องจาก เกรงว่าหลวงพ่อคูณอาจดื้อยา โดยหลังจากแพทย์ให้ยาหลวงพ่อคูณมีอาการตอบสนองดี อาการไข้ลดลง ส่วนผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการจะทราบผลอีก 1-2 วันว่าหลวงพ่อคูณติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือไม่

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวรักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ

พร้อมด้วยนายแพทย์ชัยวิวัฒน์ ตุงคะเสรีรักษ์ แพทย์อายุรกรรม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท และนายแพทย์อนุชิต นิยมปัทมะ อายุรแพทย์โรคปอด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปิด ได้เข้าตรวจอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ พร้อมกับรายงานมูลเหตุของอาการ พร้อมกับสวมหน้ากากพ่นยาขยายหลอดลม 10 นาที จากนั้น นายแพทย์อนุชิต ได้ตรวจอาการปอด สังเกตอาการไข้หวัด 2009 โดยใช้เวลาตรวจ 30 นาที

จากนั้น นายสมศักดิ์ ปริสุทโธเหมทานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้ากราบมนัสการดูอาการด้วยความห่วงใย

ก่อนหลวงพ่อคูณ จะลุกสวมจีวร และฉันภัตตาหารเช้า นอกจากนี้ที่หน้าห้องทางโรงพยาบาลมหาราชฯ ได้นำกระดาษเขียนว่า ห้ามเยี่ยม อาการดีขึ้น รู้สึกตัวดี ไม่มีไข้ แต่ยังไม่อยากฉันอาหาร พร้อมกับออกแถลงการณ์อาการป่วยของหลวงพ่อคูณ ฉบับที่ 2 เพื่อให้หลวงพ่อคูณได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ สำหรับอาหารที่ลูกศิษย์นำมาให้ฉันเป็นอาหารที่โปรดปรานมาก ประกอบด้วยข้าวสุก 1 จาน ข้าวต้ม 1 ถ้วย ข้าวต้มหมู 1 ถ้วย น้ำพริกปลาป่น ปลาดุกย่าง 2 ตัว แกงจืดผักกาดขาววุ้นเส้น หมูทอด ผัดบวบไข่ และ ผัดถั่วงอก ซึ่งฉันปลาดุกย่าง 2 ตัวหมด คลุกข้าวครึ่งจาน ข้าวต้มเล็กน้อย ส่วนของหวานเป็นผลไม้ มะละกอ ลูกพลับ และขนมครก


หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การป่วยเป็นของธรรมดา ดีขึ้นตามลำดับ ไม่เป็นอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลวงพ่ออาจจะติดไข้หวัด 2009 นั้น "กูก็ไม่รู้สึกยังไงด๊อก ถ้ามันจะเป็นจริง ก็ป้องกันอะไรไม่ได้ มันก็ต้องเป็น เป็นเหมือนกันทุกๆคน นี่ไม่เป็นมาก เป็นเล็กๆน้อยๆ ฉันยาดี ฉีดยาได้ ส่วนจะฝากลูกหลานระวังป่วยไข้หวัด 2009 กูไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาพูดฝากบอก ไม่รู้วิธีการ ดีแล้วไม่เป็นไร อายุ 86 ปีแล้ว วันเกิดปีนี้ วันที่ 4 ต.ค. ไม่ทำอะไร แก่แล้วไม่ทำอะไรอีก" หลวงพ่อคูณ กล่าว

นายแพทย์พินิศจัย กล่าวอีกว่า ภาพรวมอาการดีขึ้น ทั้งระบบประสาท และเรื่องติดเชื้อ ขณะนี้ไข้ลงหมดแล้ว ความรู้สึกตัวปกติดี แต่ยังมีอาการอ่อนเพลีย

ตอนนี้ต้องรอให้ฉันได้มากขึ้นก่อน แต่เท่าที่ดู ฉันได้มากแล้ว ซึ่งให้น้ำเกลือไปแล้ว 2 ขวด คงต้องให้ต่อไปอีกระยะหนึ่งน่าจะดีขึ้นตามลำดับ ส่วนความจำเท่าเดิม โดยจำลูกศิษย์ได้ รู้ตัวดีขึ้น ทักทาย พูดจารู้เรื่อง ตอนนี้ไม่เบลอแล้ว จดจำสถานที่ เวลา ชื่อ หน้าลูกศิษย์ได้ แต่ยังอ่อนเพลีย เพราะไข้เพิ่งลง การฉันให้เท่าเดิมคงต้องรอระยะหนึ่ง ส่วนระบบประสาทเคยผ่าตัดสมอง และสูงอายุ ตรงถ้าไม่สบายหรือมีไข้จะสับสนได้อีก ซึ่งอาการที่พบมาจากพิษไข้ ที่ทำให้สับสน ถ้าดูอาการโดยรวมการรักษาตอบสนองอย่างชัดเจนกับยาที่รักษาไข้หวัด 2009 ยาต้านไวรัสที่ให้ไป 2 ตัว ตนคิดว่าถึงผลตรวจออกมาเป็นเนกะทีฟ ยังคิดว่าเป็นอยู่ เพราะผลตรวจอย่างที่นายแพทย์อนุชิตตรวจอยู่กับเทคนิคการตรวจ การส่งตรวจ และขึ้นกับเทคนิคการตรวจที่ขึ้นกับแล็ป แม้กระทั่งแล็บที่ดี ไม่ใช่ว่าจะตรวจได้ 100%

ฉะนั้นถ้าอาการโดยรวม  ทั้งเรื่องการตอบสนองต่อการรักษาคิดว่า น่าจะใช่ไข้หวัด 2009 คณะแพทย์ที่รักษาหลวงพ่อคิดว่า น่าจะเป็นมากที่สุด โดยให้ยาโอเซลทามิเวียร์ และยาซานามิเวียร์ในรูปของยาพ่น และให้น้ำเกลือกับวิตามินบำรุง ถ้าเป็นสำหรับหลวงพ่อคูณ ถือว่าอาการหนัก และจริงๆ คราวนี้หนักกว่าทุกครั้ง เพียงแต่โชคดีมีอาการทางสมองนำมาก่อน ทำให้มาถึงแพทย์แล้วเจอว่า มีไข้ ถ้าเป็นรายอื่นเป็นไข้นำมาก่อนและไม่ได้มาหาหมอ 1 - 2 วันอาการแย่แล้ว แต่ตัวหลวงพ่อเป็นกลุ่มที่ง่ายต่อการติดเชื้อรุนแรง อย่างไรก็ตาม ต้องให้ยาจนครบทุกตัว ครบกำหนด 5 วัน ซึ่งอย่างน้อยต้องพักรักษาตัวต่อไปอีกอย่างน้อย 3 - 5 วัน

"ผมเรียนว่าความจริงแล้วท่านมีความเสี่ยงสูงที่จะติดอยู่แล้ว เพราะลูกศิษย์เข้าไปหาท่านต่อวันเป็นร้อยคนเป็นพันคน ฉะนั้นไม่แปลกที่ท่านจะเป็นภาวะนี้ ผมคิดว่าเรื่องของหลวงพ่อน่าจะเป็นอันหนึ่งที่เป็นอุทาหรณ์ให้กับประชาชนทั่วไปว่า ขนาดหลวงพ่อ ซึ่งท่านเสียสละ ท่านไม่มีทางเลี่ยงเรื่องนี้ เพราะท่านเป็นคนของประชาชน ทั้งที่เราพยายามระมัดระวังแล้ว ท่านก็ยังติดภาวะนี้ แต่เพราะมันระบาดกันไปทั่วแล้ว เพราะภาวะนี้มันมีจริง ส่วนภาวะนี้จะติดมาจากวัดหรือที่โรงพยาบาล เราคงบอกไม่ได้ แต่ที่ผ่านมา ช่วง 3 เดือนหลัง ไม่ได้มาโรงพยาบาลเลย ส่วนผลตรวจที่จะออกและยืนยันภายใน 48 ชั่วโมง แต่ผลอันนี้ที่เราส่งไปมี 2 แบบ คือ ผลเลือด กับผลตรวจเสลด ซึ่งผลเลือดคงอีกนานหลายวัน แต่ผลตรวจทาง พีซีอาร์. ด้านน้ำลายหรือเสลดไม่น่าจะเกิน 48 ชั่วโมง" นพ.พินิศจัย กล่าว

นายแพทย์อนุชิต กล่าวว่า การติดเชื้อ อาการดีขึ้นค่อนข้างมาก ไข้ลดลงต่ำ เป็นปกติแล้ว

ส่วนเรื่องยาทามิฟลู คิดว่าจำเป็นต้องให้ยา 2 ตัวในรูปของยาพ่นต่อไปจนครบ 5 วัน วันละ 2 เม็ด รวม 10 เม็ด ซึ่งวันนี้ให้เป็นเม็ดที่ 4 เพราะหลวงพ่อคูณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ถ้าเป็นไข้หวัด 2009 จริงจะเสี่ยงสูง และอันตราย เพราะหลวงพ่อเป็นเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และเคยสูบบุหรี่ค่อนข้างมาก เมื่อมีอาการไข้ร่วมกับมีอันตรายของโรคต่างๆ ที่หลวงพ่อเคยเป็นทำให้เสี่ยงสูง แต่หลังจากได้ยาโอเซลทามิเวียร์ และยาซานามิเวียร์ ไปทำให้ตอบสนองค่อนข้างดี ปอดจากเดิมที่มีเสมหะอยู่ในปอดมาก ตอนนี้สามารถไอเอาเสมหะออกมาได้ ไข้ลดลง ซึ่งจากอาการข้างต้นทำให้คิดว่าน่าจะตอบสนองต่อยาโอเซลทามิเวียร์ และยาซานามิเวียร์ ค่อนข้างดี ส่วนผลตรวจเชื้อไข้หวัด 2009 คณะแพทย์กำลังรอผลยืนยันอย่างเป็นทางการ จากทางโรงพยาบาลจุฬาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุขออกมายืนยันว่าหลวงพ่อคูณ ไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัด 2009 จริงๆ เป็นอย่างไร

นายแพทย์อนุชิต กล่าวว่า ต้องขอดูรายงานก่อน เพราะถึงแม้ว่าผลตรวจเบื้องต้น บางทีผลตรวจไม่สามารถที่จะยืนยันได้ 100% เนื่องจากขึ้นอยู่กับการเก็บเสมหะเป็นหลัก แต่จากอาการเบื้องต้น ผลตรวจเลือดแบคทีเรียเข้าได้กับการติดเชื้อกลุ่มของไวรัส มีอาการไข้สูง และไอ ร่วมกับมีอาการอยู่กลุ่มเสี่ยง ซึ่งปกติของกระทรวงฯ ถ้าคนไข้ที่มีอาการอยู่กลุ่มเสี่ยงและมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ควรแนะนำว่า ให้ยารักษาไปก่อน ซึ่งตอนนี้ต้องรอผลตรวจยืนยันอีกครั้ง ซึ่งหลวงพ่อคูณยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ คณะแพทย์จะให้ยา 2 ชนิด ประมาณ 5 วัน จนครบ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์