พบรถบ้านแม่ยายวรวุฒิของกลางดีเอสไอ

"อัศวิน”เผยค้นบ้านแม่ยาย ส.ต.ท.วรวุฒิ พบรถของกลางคดีผงขาวของดีเอสไอ ชี้ไม่เคยช่วยงานดีเอสไอแต่เอารถมาใช้ได้อย่างไร โยนดีเอสไอตรวจสอบเอง ถ้าไม่รับจะขายทอดตลาด ฝากบอก"วรวุฒิ" หมากระเป๋าที่ฝากเลี้ยงไว้คิดถึง ขอเจ้าของกลับมามอบตัว

 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะชุดคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวภายหลังเรียกประชุมสืบสวนที่ลงพื้นที่ว่า
 
ตามที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้สั่งการให้สืบสวน จนออกหมายจับ ส.อ.สมชาย บุญนาค ผู้ร่วมก่อการในครั้งนี้


 เช้าวันนี้กำลังตำรวจอีกชุด นำโดย พ.ต.อ.วีรศักดิ์ มีณะวนิชย์ รอง ผบก.จต.ได้ไปค้นบ้านแม่ยายของ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
 
โดยพบรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต เซอฟิร่า สีบรอนซ์ตะกั่ว ติดเลขทะเทียน ศว8051 กทม.แต่จากการตรวจสอบพบเป็นทะเบียนปลอม เมื่อตรวจสอบพบหมายเลขทะเบียนที่แท้จริงคือ กษ3737 เชียงใหม่ ผู้ครอบครองชื่อนายชาญณรงค์ มูเซอ ผู้ต้องหาถูกคดีค้าเฮโรอีนจับกุมคดียาเฮรีด ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จับกุมได้เมื่อ 20 มีนาคม พร้อมเฮโรอีน 780 กรัม อายัดทรัพย์มูลค่า 117 ล้านบาท โดยดีเอสไอจับได้ หลังจากมีการประสานจากดีอีเอของสหรัฐอเมริกา สำหรับนายชาญณรงค์ นั้นเคยถูกจับที่สหรัฐแล้วพ้นโทษออกมา กลับมาค้ายาในไทยอีก ก่อนถูกจับกุม และยึดรถคันนี้เป็นของกลางในคดี ซึ่งตรงนี้ต้องไปถามดีเอสไอเอาเอง
 

 “ผมไม่ทราบว่าผู้ต้องหาในคดีนี้ไปเกี่ยวข้องกับการเอารถของกลางดีเอสไอมาใช้ได้อย่างไร ทั้งที่ดีเอสไอก็บอกว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้ไปช่วยราชการที่ดีเอสไอ ผมก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน หรือเขาไปลักรถมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกัน ต้องลองถามดีเอสไอว่าเขาได้ไปร้องทุกข์ว่าของกลางหายไปหรือเปล่าต้องไปถามดู ” พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว


 เมื่อถามว่ารถคันนี้เชื่อมโยงกับคดียิงนายสนธิหรือไม่ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า

เราตามหาตัว ส.ต.ท.วรวุฒิ รู้ว่าบ้านอยู่ที่นี่จึงไปหา จนพบรถ ตรวจสอบทะเบียนนี้ไม่มีในสารบบ ตรวจสอบตัวถังจึงพบเป็นทะเบียนปลอม


 เมื่อถามว่าจากการตรวจค้นวันนี้ได้อะไรเป็นประโยชน์ ต่อจิ๊กซอว์สาวถึงใครได้บ้าง พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า
 
ก็มีโอกาส ยังมีชุดที่ไปต่างจังหวัด กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่ ก็ขอสงวนไว้ก่อน เราไม่ทราบว่ามันจะดำเนินการได้ถึงไหนเพียงไร ซึ่งจริงๆ รถคันนี้เราไม่หรอกว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร


 เมื่อถามอีกว่ารถคันนี้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาคนอื่นหรือไม่ พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว

ขณะนี้ยังไม่พบความเกี่ยวข้อง แต่ต้องตรวจสอบ ขณะเดียวกันต้องถามดีเอสไอว่าใช่รถของเขาหรือไม่ ถ้าใช่ก็ทำหนังสือมาขอรับคืน เราไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม


 “เป็นเรื่องของเขาแล้ว ต้องถามว่า รถนี่จะเอาหรือเปล่า ไม่เอา เราก็เก็บไว้ เราเช็คแล้วว่าเป็นรถของกลางในคดีของเขา จะถามไปยังหัวหน้าชุดจับกุมนายชาญณรงค์ ของดีเอสไอ ว่าจะเอารถคืนหรือไม่ คงต้องถามไปยังอธิบดีของเขา ซึ่งคงจะบอกได้ ถ้าเขาไม่ตอบ หรือตอบว่าไม่ใช่ เราจะได้เอาไปขายทอดตลาด เราขายได้ รถตรวจยึดไม่มีเจ้าของ แต่ในเอกสารผู้ครอบครองคือนายชาญณรงค์ ส่วนระเบียบการเบิกรถของกลางไปใช้ต้องไปถามดีเอสไอ ผมไม่กล้าตอบแทน ตอบไม่ได้ ไม่อยากก้าวล่วง” ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าว


 พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวด้วยว่า

จนขณะนี้ยังไม่กล้าตอบว่าคดีนี้นอกจากตำรวจ ทหารแล้วยังมีพลเรือนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ยังไม่มีความชัดเจนตรงนี้ ถ้าพยานหลักฐานยังไม่สามารถนำมาสู่การออกหมายจับได้ ก็ไม่อยากพูดว่าเป็นใคร ยืนยันว่ายังทำคดีต่อเนื่องไม่หยุด เรียกประชุมชุดสืบสวนวันเว้นวัน ส่วนชุดใหญ่ของพล.ต.อ.ธานี ประชุมสัปดาห์ละครั้ง ขณะนี้คืบหน้าไปเยอะ การค้นก็หวังว่าจะพบตัว หรือหลักฐานนำไปสู่ตัว ซึ่งตนขอให้ ส.ต.ท.วรวุฒิ และ จ.ส.อ.ปัญญา สิงเหรา ทหารหน่วยรบพิเศษ ที่กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้มาหาอัศวิน ได้รับความเป็นธรรมแน่นอน


 “วรวุฒิ ที่หายไปกับภรรยา ทราบว่าไม่ได้เอาหมากระเป๋าที่เลี้ยงไว้ไปด้วย ตอนนี้หมากระเป๋าที่ผากเข้ามันคิดถึงอยู่ ถ้าคิดถึงหมาให้มามอบตัว มาเถอะไม่ต้องห่วงให้ความเป็นธรรม จะติดต่อผ่านสื่อมวลชนผ่านใครมาก็ได้ มาสู้กับความจริง” ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์