แพนด้าน้อยจ้องเขม็งรูปพ่อ ช่วงช่วง

เมื่อวันที่ ที่ 31 ก.ค. ทีมงานวิจัยหมีแพนด้าและสัตวแพทย์สวนสัตว์เชียงใหม่ รายงานการติดตามพัฒนาการลูกหมีแพนด้า อายุ 65 วัน ว่า
 
วันนี้ทดสอบพัฒนาการของลูกหมี โดยการปูพรมที่พื้นเพื่อช่วยให้ลูกหมีใช้ขาดันพื้น ทำให้มีพัฒนาการด้านการคลานและการเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น เมื่อวางลูกหมีลงบนพรมพบว่าลูกหมีดันตัวไปข้างหน้าได้ดีและเร็ว โดยใช้ขาหน้ายกด้านหัวขึ้นแล้วพยายามใช้ขาหลังยืนขึ้นแล้วดันตัวคลานไปข้างหน้าได้ไกลสูงสุด 5-6 คืบ เมื่อคลานไปเจอม้าโยกจะหยุดแล้วใช้จมูกดมที่ม้าโยกอย่างสนใจเนื่องจากเป็นกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย แล้วก้มลงดมที่พื้นก็คลานไปข้างหน้าอีก พอเหนื่อยก็นอนพักแล้วไปต่อ

 ส่วนการทดสอบพัฒนาการด้านการได้ยิน พบว่า

ลูกหมียังคงไม่สนใจเสียงของเล่น อาจจะยังไม่ได้เสียงที่เขย่า แต่เมื่อเคาะลงที่พื้นพบว่าลูกหมีสนใจ โดยการคลานตามบ้าง คาดว่าคลานไปตามแรงสั่นสะเทือนของพื้น



 ต่อมาทางนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัย

นำภาพถ่ายของแพนด้าช่วงช่วงใบใหญ่มาวางไว้หน้าแพนด้าน้อย ซึ่งนั่งจ้องเขม็ง และพยายามคลานเข้าไปหา บางครั้งถึงกับใช้หัวชนภาพถึง 3 ครั้ง ทีมวิจัยเชื่อว่าน่าจะเข้าใจว่าเป็นแม่หลินฮุ่ย และทุกครั้งที่แพนด้าน้อยร้องขึ้นมา หลิยฮุ่ยซึ่งนั่งอยู่ในคอกกักอีกด้านที่มองเห็นแพนด้าน้อยได้อย่างชัดเจน จะทิ้งไผ่ที่กินอยู่รีบมาชะเง้อดูแพนด้าน้อยด้วยความห่วงใย ทางนายประเสริฐศักดิ์ ต้องทำความเข้าใจกับหลินฮุ่ยเพื่อให้ไว้ใจที่สุด จนการบันทึกพฤติกรรมต่างๆ เสร็จสิ้นลงด้วยความพอใจของทีมงานวิจัย

 นายประเสริฐศักดิ์กล่าวด้วยว่า
 
ได้นำภาพถ่ายของแพนด้าช่วงช่วงเข้าไปให้ดูเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมว่าในวันที่ 6 ส.ค.วันเกิดช่วงช่วง จะเปิดโอกาสให้แพนด้าน้อยได้เห็นตัวเป็นๆ ของพ่อช่วงช่วง และพ่อช่วงช่วงก็ได้เห็นแพนด้าน้อยด้วย เป็นการดูพฤติกรรมก่อนวันจริงว่าแพนด้าน้อยจะมีท่าทีอย่างไร

               

 ด้านนางหูไห่ผิง ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน ซึ่งได้เข้าไปร่วมการฝึกพัฒนาการแพนด้าน้อย กล่าวว่า

พัฒนาการด้านต่างๆดีมากแล้ว ตนได้อุ้มแพนด้าน้อย ขึ้นมาทำให้เกิดคิดถึงแพนด้าน้อยจำนวนหลายตัวที่จีนที่ตนได้เลี้ยงและต้องจากมาเป็นเวลานาน เมื่อมาอุ้มและเล่นกับแพนด้าน้อยจึงมีความสุขมาก ซึ่งเมื่อแพนด้าน้อยร้องขึ้นจะเห็นแม่หลินฮุ่ยรีบมายืนเกาะกรงดูลูกน้อยทันทีด้วยความเป็นห่วง ซึ่งถือว่าหลินฮุ่ยมีความเป็นแม่ที่สูงมาก แต่เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ใกล้ลูกไม่ได้ก่ออันตรายให้กับลูกก็ได้เดินกลับไปถือว่าเป็นหลินฮุ่ยมีความเป็นแม่ที่สุดยอด


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์