หญิงคลอดลูก7เดือนตายแล้ว ลุ้นไทยประเทศแรกทำวัคซีนลูกผสมกันได้ทั้งหวัดใหญ่-หวัดมรณะสำเร็จ


เร่งผลิตวัคซีนลูกผสมชนิดฉีดกันทั้งหวัดใหญ่-หวัด09 เผยคืบกว่า70%ยันไม่กลายพันธุ์ เผยยอดติดเชื้อ"หวัด09"ในกทม.ตายแล้ว32ราย "จตุจักร"แชมป์ติดเชื้อ สธ.เผยผลเปิดคอลเซ็นเตอร์มีคนโทรปรึกษาวันละ900สาย ประสานไอทีซีปิดเว็บแอบอ้างขายยาต้านไวรัส หญิงวัย26คลอดลูก7เดือนติดเชื้อตายแล้ว

หญิงวัย26คลอดลูก7เดือนติดหวัด09 ตายแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ผู้หญิงอายุ 26 ปี จาก จ.ราชบุรี ซึ่งคลอดบุตรอายุ 7 เดือนก่อนกำหนด และติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยหลังจากที่คลอดบุตรออกมาอาการหนักอยู่ตลอดเวลา และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขณะนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว

กทม.ตายแล้ว32ราย "จตุจักร"แชมป์ติดเชื้อ

พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยรายงานของกองควบคุมโรค สำนักอนามัย (สนอ.) แจ้งยอดผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน-30 กรกฎาคม ในพื้นที่กรุงเทพฯ พบผู้ป่วยสะสม 3,432 ราย เพิ่มขึ้นจากเดิม 32 ราย มีเสียชีวิต 18 ราย เขตที่มีผู้ป่วยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จตุจักร 135 ราย พญาไท 132 ราย ภาษีเจริญ 121 ราย ดุสิต 118 ราย และ ดินแดง 108 ราย

เร่งพัฒนาวัคซีนลูกผสมกันหวัดใหญ่-หวัด09

ด้านนายอนันต์ จงแก้ววัฒนา หัวหน้าห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาและเซลล์วิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดทีมวิจัยอยู่ระหว่างพัฒนาวัคซีนลูกผสม ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเชื้อเป็นสามารถป้องกันไวรัสได้ 2 ชนิด คือ ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ชนิดบี และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยหากฉีดเข้ายังร่างกายของคนจะทำให้สร้างแอนติบอดี้ต่อต้านไวรัสทั้ง 2 ชนิดได้ในคราวเดียวกัน

ลุ้นหากสำเร็จ ไทยสร้างชื่อเป็นประเทศแรก

นายอนันต์กล่าวว่า ทีมวิจัยได้คัดเลือกไวรัสชนิดบีผสมกับไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่ง เป็นคนละชนิดกัน จะไม่เกิดการแลกเปลี่ยนพันธุกรรม ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่าวัคซีนลูกผสมที่ผลิตจะกลายพันธุ์ ขณะนี้พัฒนาในระดับหลอดทดลอง โดยสำเร็จไปแล้วกว่าร้อยละ 70 คาดว่าประมาณ 1-2 เดือน จะเริ่มทดลองในสัตว์ทดลองได้ การวิจัยครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญ เพราะทั่วโลกยังไม่มีพัฒนาวัคซีนลูกผสม หากทำสำเร็จไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่พัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสได้ 2 ตัวในคราวเดียวกัน

สธ.เผยคนโทรปรึกษาคอลเซ็นเตอร์กว่า900สายต่อวัน

พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่ สธ.เปิดสายด่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โทร.0-2590-3333 และ 1422 บริการตลอด 24 ชั่วโมง พบว่าล่าสุดช่วงเดือนกรกฎาคม เฉลี่ยกว่า 900 สายต่อวัน ส่วนใหญ่มีความสงสัยเรื่องอาการป่วย การรักษา การป้องกัน วัคซีน ยาต้านไวรัส และร้องเรียน

แม่ทุกข์ลูกชายตัวร้อนไม่มีเงินรักษา คิดจุดไฟเผายกบ้าน

พญ.ศิริพรกล่าวว่า มีรายหนึ่งใช้ชื่อว่าคุณสุวาลัย โทรศัพท์ปรึกษาที่คอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ระบุว่า ครอบครัวมีทั้งหมด 4 คน ขณะนี้ป่วยเป็นไข้หวัด 3 คน คือ คุณสุวาลัย สามี และบุตรชายวัย 8 ขวบ ส่วนบุตรคนเล็กแยกไปฝากญาติดูแล และว่าได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล (รพ.) ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แพทย์สั่งจ่ายยาและให้กลับบ้าน ปรากฏว่า บุตรชายตัวร้อนสูง เกรงว่าจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แต่ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายมากพอที่จะเดินทางกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้ง และไม่แน่ใจว่า หากเป็นโรคดังกล่าวจะต้องเสียเงินค่ารักษาจำนวนเท่าใด เมื่อทุกข์และเครียดมาก ทำให้คิดถึงขนาดจะใช้น้ำมันเบนซินราดเผาทั้งครอบครัว เพื่อหนีปัญหา

"กรณีนี้เจ้าหน้าที่ให้คำแนะให้ระงับอารมณ์ และประสานให้ รพ.ลำลูกกาไปช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว ขอย้ำว่าผู้ที่ป่วยด้วยโรคหวัดสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามสิทธิการรักษาที่มี เช่น บัตรทอง บัตรประกันสังคม บัตรสวัสดิการข้าราชการ" พญ.ศิริพรกล่าวว่า

ขณะที่ นพ.นราพงศ์ ธีรอัครวิภาส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำลูกกา จ.ปทุมธานี กล่าวถึงกรณีผู้ป่วย จ.ปทุมธานี ที่ปรึกษาคอลเซ็นเตอร์ของ สธ.ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา บุตรชายผู้ป่วยหายเป็นปกติแล้ว

สาวใหญ่ปทุมฯโทรวอนช่วยสามีมีก้อนเนื้อในปอด

ส่วนนางสุวาลัย ผลทวี อายุ 48 ปี อาชีพนวดแผนไทย พักอยู่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กล่าวว่า บุตรชายมีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม มีไข้สูง วันรุ่งขึ้นจึงพาไปพบแพทย์ที่คลีนิคตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และรับยาลดไข้ไปกินพร้อมแนะนำหากไข้ไม่ลดใน 2 วัน ให้ไปที่โรงพยาบาล ต่อมาวันที่ 21 กรกฎาคม สามีมีอาการไข้ วันที่ 22 กรกฎาคมจึงพาลูกและสามีที่มีอาการไข้สูง ไอ มีน้ำมูก อาเจียน ไปพบแพทย์ที่ รพ.ลำลูกกา แพทย์ให้ยาลดไข้และกลับไปรักษาตัวที่บ้าน

"ขณะนี้ลูกอาการดีขึ้น แต่ยังมีน้ำมูก ส่วนสามีทรุดหนักเอ็กซเรย์ปอดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีก้อนเนื้อที่ปอดแพทย์สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นมะเร็ง หรือเนื้องอก และนัดเอ็กซเรย์อีกครั้งในวันที่ 3 สิงหาคม ที่คลีนิคออเงิน เขตสายไหม กทม.ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ช่วงนี้เครียดมาก สามีไข้ขึ้นทุกวัน ถ้าเขาตายครอบครัวคงอยู่ไม่ได้ เพราะวันนี้ก็ต้องหยุดงานมาดูแลลูกและสามี ไม่มีเงิน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ" นางสุวาลัยกล่าว

ประสานไอซีทีปิดเว็บขายยา"โอเซลทามิเวียร์"

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (เลขาธิการ อย.) กล่าวว่า ตรวจสอบพบในอินเตอร์เน็ตมีการประกาศขายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์มากกว่า 10,000 เว็บ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกหลอกขายยาปลอม หรือยาไม่มีคุณภาพอย่างมาก จึงประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อดำเนินการทางกฎหมายและสั่งปิดเว็บไซต์แล้ว หากพบเบาะแสแจ้งได้ที่ อย.หรือสายด่วน 1556

นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) สธ. กล่าวว่า เป็นวันแรกที่ อสม.กว่า 987,000 คนทั่วประเทศ เริ่มลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนในชุมชน อัตรา 1 อสม.ต่อ 5-10 หลังคาเรือน และสั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สจจ.) ทั่วประเทศ รายงานผลการปฏิบัติงานของ อสม.ด้วย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์