น่านยังไม่พ้นวิกฤติ 4หมู่บ้านดินทรุด อพยพหนีจ้าละหวั่น

"ชาวบ้านแตกตื่น แผ่นดินทรุด"


อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ออกโรงประกาศให้ 4 หมู่บ้าน อ.เชียงกลาง จ.น่าน เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย หลังแผ่นดินทรุดตัวเกิดรอยแยก ชาวบ้านแตกตื่น อพยพหนีตาย จนท. เตรียมขนย้ายราษฎร 68 ครอบครัวกว่า 300 ชีวิต สาเหตุฝนตกหนักทำให้ดินอิ่มตัวชุ่มน้ำ แม้ว เรียกประชุมด่วนล้อมคอกแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ขณะพื้นที่ สุโขทัย แม่น้ำยมทะลักเข้าท่วมเขต อ.เมือง ด้าน กรมชลฯระดมเครื่องสูบน้ำระบายน้ำเร่งด่วน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ ผอ. สำนักงบประมาณ ประชุมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเร่งด่วนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดน่าน โดยก่อนการประชุมคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ จะเสนอที่ประชุม3-4 เรื่อง โดยจะขอใช้เงินทดรองราชการของผู้ว่าราชการจังหวัดไปช่วยเหลือโรงเรียนประมาณ 60 แห่งในพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อให้เปิดเรียนได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมและสำรวจค่าเสียหายว่าจะจำเป็นต้องใช้งบประมาณเท่าใด


"เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน"


ภายหลังการประชุม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมและสอบถามว่ามีพื้นที่ใดที่จะเสี่ยงกับภาวะน้ำท่วมเช่นเดียวกับจังหวัดน่าน ซึ่งปรากฏว่ามีจังหวัดสุโขทัยที่น่าเป็นห่วงเพราะมีปริมาณน้ำฝนมาก แต่ไม่มีเขื่อนรองรับทำให้น้ำเข้าเมือง ผ่านทาง อ.ศรีสำโรง ต.ปากแคว อ.เมือง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่เศรษฐกิจและผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะมีการทำเขื่อนกั้นน้ำไว้แล้ว นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะดูแลภาคเหนือให้นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน

รมช.มหาดไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดน่านระดับน้ำลดลงแล้วทุกพื้นที่หากฝนไม่ตกน้ำคงจะลดและไม่มีปัญหาอะไร ระหว่างนี้จะต้องให้ความช่วยเหลือเรื่องการฟื้นฟูอาชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 10 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 120 หลัง นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนและระบบสาธารณูปโภค ต่าง ๆ เสียหาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานฟื้นฟูและบูรณาการให้เร็วที่สุดและขยายวงเงินงบประมาณที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซีอีโอ

เป็น 100 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการแก้ไขและช่วยเหลือประชาชน ในส่วนบ้านเรือนเสียหาย และนายกรัฐมนตรีคงจะเดินทางไปเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ด้วยตัวเองในเร็ว ๆ นี้ ส่วนบางพื้นที่ไม่มีเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำ คงจะต้องพิจารณาในการทำเขื่อนหรือแก้มลิง เช่น จังหวัดสุโขทัย แพร่ ส่วนในลำน้ำจะต้องดูแลให้น้ำไหลได้สะดวก ไม่ให้มีการรุกล้ำแม่น้ำ


"ย้ายชาวบ้าน ทรุดยาวกว่า 500 ม."


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว. เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วม จ.สุโขทัย ที่เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำท่วม ในหลายจุดว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานได้ระดมกำลังคนและเครื่องจักร เครื่องมือช่วยเหลือในการกำจัดขยะและวัชพืชที่มาอุดตัน บริเวณประตูระบายน้ำบ้านยางซ้าย เพื่อให้การระบายน้ำไหลคล่องตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง ไปที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสุโขทัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการสูบน้ำแล้ว

สถานการณ์ในพื้นที่ อ.เชียงกลาง จ.น่าน เกิดเหตุแผ่นดินทรุดเป็นรอยแยกยาวตามถนนและผ่านบ้านเรือนราษฎร จากแนวสันเขา ระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ซึ่งจุดที่พบรอยแยกอยู่ในพื้นที่บ้านกอก หมู่ 8 ต.เชียงกลาง อ.เชียง กลาง บริเวณแนวสันเขาหลังหมู่บ้าน ล่าสุดที่บ้านเลขที่ 68 ของนายศุภกฤษ สุต๋า ได้รับความเสียหาย โดยตัวบ้านซึ่งเป็นผนังปูนแตกแยกออกจากกัน คานหัก หลังบ้านทรุด พื้นบ้านแตก ขณะนี้ทางหมู่บ้านได้ทำการอพยพชาวบ้าน 38 ครอบครัว กว่า 288 คน ไปหลบภัยอยู่ที่บริเวณอุทยานแห่ง ชาติภูแว เพื่อความปลอดภัย ซึ่งชาวบ้านแตกตื่นและตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น


"ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย"


ด้านนายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกรมทรัพยากรธรณีได้ประกาศ 4 หมู่บ้านดังกล่าวเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว ขณะที่นายสมศักดิ์ โพธิสัตย์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพื้นที่แล้ว พบว่ารอยแยกมี 3 แนว สาเหตุรอยแยกมาจากฝนตก ประกอบกับภูมิ ประเทศมีความลาดชันสูง ปริมาณฝนตกหนักทำให้ดินอิ่มตัวชุ่มน้ำ ดินจึงทรุดตัวเกิดเป็นรอยแยก กรมทรัพยากรธรณี จึงแนะนำให้อพยพประชาชนในหมู่บ้านออกจากพื้นที่ก่อน จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝนพร้อมติดป้ายแจ้งเตือนภัยดินถล่มริมถนน

ที่ จ.สุโขทัย น้ำได้ไหลเข้าท่วมในเขตอำเภอเมืองขยายวงกว้าง ขณะแม่น้ำยมเอ่อล้นต่อเนื่องเซาะตลิ่งเสียหายมากขึ้น ขณะที่ อ.ศรีสำโรง เริ่มมีปัญหาเมื่อน้ำในแม่น้ำยมเลยจุดวิกฤติ โรงเรียนต้องหยุดสอน ส่วนถนนจรดวิถีถ่อง เส้นทางหลักสุโขทัย-ศรีสำโรง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร ระยะทางยาวกว่า 500 เมตร รถยนต์เล็กสัญจรลำบาก ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุโขทัย ย้ำเตือนราษฎรสองริมฝั่งแม่น้ำยม โดยเฉพาะเขต อ.ศรีสำโรง และ อ.เมือง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่อาจถูกน้ำท่วมมากขึ้น


"เบี้ยวค่าแรง"


ส่วนที่ จ.แพร่ ได้มีราษฎรในเขตผู้ประสบภัยของ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ประมาณ 100 คน ผู้รับเหมาช่วงต่อและเจ้าของรถบรรทุก 10 ล้อ ซึ่งเป็นชาวจังหวัดแพร่ทั้งสิ้น ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณศูนย์บัญชาการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามโครง การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมบริเวณอ่างเก็บน้ำแม่มานและบริการทางน้ำที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคเหนือ ที่ตั้งหมู่บ้านทุ่งเจริญ หมู่ 7 หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่

เพื่อเรียกร้องขอเงินค่าแรงจากการรับจ้างในการเก็บเศษไม้บริเวณอ่างแม่มาน ปรากฏว่าถูกเบี้ยวค่าจ้างรายวันตามที่กำหนดไว้วันละ 150 บาท โดยเรียกร้องให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบและดูแลเรื่องนี้ เข้ามาดูแลชาวบ้านและพร้อมร้องเรียนรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ต่อมาที่ จ.มุกดาหาร เกิดฝนตกหนักนานกว่า 2 ชั่วโมง ส่งผลให้ถนนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร หลายสายมีน้ำท่วมขัง ทำให้การจราจรติดขัด.


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์