น่านสุดวิกฤตินํ้าป่าท่วมมิด หนีโกลาหล

"ตกหนักต่อเนื่อง"


เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 20 ส.ค. เกิดเหตุน้ำป่าทะลักท่วมในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.น่าน เนื่องจากฝนได้ตกหนักตั้งแต่คืนวันที่ 19 ส.ค. อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แม่น้ำน่านมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุดคืออ.ท่าวังผา หมู่ 1-6 ต.ริม หมู่ 1-2 ต.ศรีภูมิ หมู่ 1-8 ต.แสนทอง หมู่ 1-8 ต.ผาทอง หมู่ 1 ต.ตาลชุม และหมู่ 1-7 ต.ผาตอ พื้นที่ทั้งหมดน้ำท่วมเกือบมิดหลังคา ชาวบ้านต้องอพยพหนีตายขึ้นไปอยู่บนที่สูง

ส่วน อ.ท่าวังผา หมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือ หมู่ 1 ต.ทุ่งช้าง หมู่ 6-10 ต.งอบ นอกจากนี้ทั้งสะพาน ถนน และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตามด้วย อ.เชียงกลาง พื้นที่ ต.พระพุทธบาท ต.เปือ ทุกหมู่บ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่อ.ปัว พื้นที่ ต.แงง ต.ปัว ต.สะถาน ต.วรนคร ต.เจดีย์ชัย ถูกน้ำท่วมสูง อ.บ่อเกลือ ถูกน้ำท่วมเกือบทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่หมู่ 1 ต.บ่อเกลือเหนือ น้ำทะลักพัดพาร่างนายนพ ปันอิน อายุ 43 ปี จมน้ำเสียชีวิต อ.สองแคว หมู่ 3-5 ต.นาไร่หลวง ระดับน้ำสูงเกือบมิดหลังคา กิ่ง อ.ภูเพียง หลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมตัดขาดจากโลกภายนอก


"ทะลักท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว"


สำหรับเขตเทศบาลเมืองน่านระดับน้ำในแม่น้ำน่านเริ่มทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำน่านอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบ้านท่าลี บ้านพวงพยอม และบ้านดอนศรีเสริม ขณะที่นายธาดา สุขปุณพันธ์ ผอ.ศูนย์อุทกวิทยาและระดับน้ำ ภาคเหนือตอนบน กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ระดับน้ำที่วัดได้บริเวณสะพานผาขวาง อ.ท่าวังผา สูงถึง 13.50 ม. จากปกติ 6.50 เมตร และน้ำท่วมครั้งนี้ความรุนแรงเทียบเท่าเมื่อปี 2506 หรือ 43 ปีที่ผ่านมา คาดว่ากลางดึกวันเดียวกันน้ำจากทางเหนือที่ไหลผ่านแม่น้ำน่านจะถึงเขตเทศบาลเมือง ซึ่งทางจังหวัด ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยรีบอพยพก่อนน้ำจะมาถึง

ขณะที่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากถนนทุกสายที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอและหมู่บ้านไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนเรือท้องแบนมีไม่เพียงพอ ชาวบ้านต้องช่วยเหลือกันเองตามยถากรรม บางครอบครัวต้องอาศัยอยู่บนหลังคาบ้านเพื่อรอการช่วยเหลือขณะเดียวกันทางกองทัพภาคที่ 3 กองกำลังผาเมือง และกองกำลังนเรศวรได้นำ ฮ. 4 ลำ มาช่วยเหลือ แต่ใช้การไม่ได้เนื่องจากฝนตกหนักตลอด อากาศปิดทำให้ ฮ.บินขึ้นลงไม่ได้ นอกจากนี้หน่วยกู้ภัยของภาครัฐและเอกชนใน จังหวัดใกล้เคียงเริ่มทยอยนำเรือเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว


"เพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว น้ำป่าไหลทะลัก"


ที่ จ.แพร่ นายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผวจ.แพร่ ออกคำสั่งทางวิทยุไปยังทุกอำเภอให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อม 24 ชม. เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ จ.เชียงราย น้ำในแม่น้ำสายต่างๆเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ แม่น้ำกก แม่น้ำลาว แม่น้ำกรณ์ และแม่น้ำอิง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำต้องเก็บข้าวของไปไว้บนที่สูง โดยเฉพาะ อ.เวียง ป่าเป้า และ อ.แม่สรวย ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำลาว มีฝน ตกหนักลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน

ขณะเดียวกันมีน้ำป่าทะลักจากภูเขาเข้าท่วมบ้าน เรือนประชาชนในพื้นที่ กิ่ง อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย หลายแห่ง อาทิ ต.โชคชัย ต.หนองป่าก่อ และ ต.ปงน้อย ทำให้บ้านเรือนราษฎรทั้ง 3 ตำบล จมอยู่ในน้ำ ซึ่งระดับ น้ำมีความลึกถึง 40-50 ซม. บางจุดมีระดับน้ำลึกถึง 1 เมตร ทำให้ถนนบางจุดถูกตัดขาดจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว ส่วนชาวบ้านได้ช่วยกันขนข้าวของมีค่าไปไว้บนที่สูงแล้ว ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น นายกมล ห่อนบุญเหิม ปลัดหัวหน้ากิ่ง อ.ดอยหลวง นำกำลัง อส.นำอุปกรณ์ เรือท้องแบน พร้อมกับเครื่องสูบน้ำ เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมระดมย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปไว้บนที่สูงหรือบนถนนที่อยู่ระดับสูง แต่ยังมีสัตว์เลี้ยงประเภทเป็ดไก่และสุกรหายไปกับกระแสน้ำจำนวนมาก


"ประกาศเตือนภัย"


ที่ จ.พังงา กรณีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและดินภูเขาถล่มทับเส้นทางสายตะกั่วป่า-สุราษฎร์ ต.รมณีย์ อ.กะปง นั้น ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา สำนักบำรุงทางจังหวัดพังงา และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้ส่งกำลังกว่า 100 คน เข้าช่วยเหลือประชาชนและนำดินโคลนที่ถล่มออกจากเส้นทางจราจรจนสู่สภาพปกติ ส่วนการค้นหาศพของ น.ส.ฮีนาส คาตรู อายุ 22ปี นักศึกษาชาวอังกฤษที่สูญหายจากเหตุการณ์เรือยางล่องแก่งล่มบริเวณลำธาร หมู่ 2 ต.สองแพรก อ.เมืองพังงา ยังไม่พบแต่อย่างใด

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยสถานการณ์ฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฉบับที่ 5 ว่า ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ ทางน้ำไหลและพื้นที่ลุ่ม โดยเฉพาะ จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงราย จ.พะเยา จ.เชียงใหม่ จ.ลำปาง จ.น่าน จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ จ.อุดรธานีและ จ.สกลนคร ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งต่อเนื่องไปอีก 2-3 วัน


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์