สธ.แจงผู้ติดหวัด2009ในไทยพุ่งเกินร้อย

คมชัดลึก :สธ.เผย ผลแล็บรร.อนุบาลปทุมธานีพบเด็กป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 17 ราย ล่าสุดไทยมีผู้ป่วยสะสมรวม 106 ราย ด้าน“หมอทวี” เผย อีก1 เดือนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดระดับซีแน่ เตรียมปรับแนวทางการตรวจแล็บ ส่งตรวจเฉพาะผู้ป่วยหนักเพื่อประโยนช์ในการรักษา


(13มิ.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯของไทยขณะนี้ เริ่มพบผู้ป่วยกระจายในหลายพื้นที่ ข้อมูลทางวิชาการล่าสุดพบว่า  โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 มีความคล้ายคลึงกับโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดาที่แพร่ระบาดตามฤดูกาล คือมีอาการป่วยคล้ายกันและการติดต่อเหมือนกัน อัตราตายต่ำ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการน้อย บางรายมีอาการน้อยมากจนไม่รู้ว่าป่วย และส่วนใหญ่หายได้เองภายใน 3-4 วัน โดยไม่ต้องใช้ยารักษา

 ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงปรับมาตรการในการป้องกันโรค โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้ประชาชนให้รู้จักการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี คือผู้ป่วยส่วนใหญ่ซึ่งมีอาการป่วยเล็กน้อยให้หยุดพักเพื่อรักษาตัวที่บ้าน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ และป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น โดยใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังไอ จาม และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้อื่น แต่หากอาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้สูง หรือไอมาก หรือหายใจลำบาก ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล
 
 นายวิทยา กล่าวต่อว่า มาตรการในการรักษาพยาบาล คณะทำงานด้านการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ศิริราช และจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันปรับปรุงและกำหนดแนวทางในการวินิจฉัยและดูแลรักษาพยาบาล ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับข้อมูลทางวิชาการล่าสุดจากประเทศต่างๆ เพื่อใช้เป็นคู่มือสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ ในการดูแลผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ โดยเฉพาะในประเด็นของให้ยาต้านไวรัส ซึ่งแนวทางใหม่จะให้เฉพาะในกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องได้รับยาเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาตามมา โดยจะมีการประชุมชี้แจงแนวทางที่ปรับปรุงใหม่นี้ให้กับกลุ่มแพทย์ของสถานบริการทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ในวันอังคารที่ 16 มิถุนายนนี้ และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าแพทย์ทุกท่านจะมีแนวทางที่ทันสมัย เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยทุกรายให้มีความปลอดภัยที่สุด
 
 ในวันนี้ได้ออกคำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 7 เพื่อการป้องกันโรคสำหรับกลุ่มต่างๆ ซึ่งได้ปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และข้อมูลวิชาการที่ทันสมัย ในคำแนะนำดังกล่าว สำหรับประชาชนทั่วไปเน้นการป้องกันตนเอง ไม่ให้ป่วยและการป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้ป่วย สำหรับสถานศึกษา สถานประกอบการ และสถานที่ทำงาน เน้นการให้นักเรียนหรือพนักงานที่มีอาการป่วยหยุดเรียนหรือหยุดงาน เพื่อไม่ให้จำเป็นต้องปิดสถานศึกษาหรือสถานประกอบการ โดยสามารถ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์
www.moph.go.th
 
 ด้าน นพ.ไพจิตร วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานฝ่ายบริการจัดการ ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ กล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างเชื้อจากนักเรียนโรงเรียนอนุบาลปทุมธานีเพื่อตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หลังจากมีนักเรียนล้มป่วยพร้อมกันกว่า 30 คน ซึ่งผลจากห้องปฏิบัติการล่าสุด ยืนยันพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 17 ราย ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 106 ราย สำหรับผู้ป่วยเฝ้าระวังในรายอื่นๆนั้น ยังต้องผลจากห้องปฏิบัติการยืนยันอยู่ รวมถึงกรณีนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนกรณีของผู้ป่วยสงสัยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในจังหวัดราชบุรีและร้อยเอ็ดนั้น ยังรอผลการตรวจยืนยันซ้ำอีก 
 
 สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯทั่วโลกเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย องค์การอนามัยโลกรายงานมีผู้ป่วยทั้งหมด 29,669 ราย ใน 74 ประเทศ เสียชีวิต 145 ราย แยกเป็นเม็กซิโก 108 ราย สหรัฐอเมริกา 27 ราย แคนาดา 4 ราย ชิลี 2 รายและคอสตาริก้า โดมินิกัน โคลัมเบีย กัวเตมาลา ประเทศละ 1 ราย ในประเทศไทย วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันโรคสะสมตั้งแต่เดือนเมษายน -13 มิถุนายน 2552 ทั้งหมด 106 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการรักษาหายดีแล้ว ไม่มีผู้เสียชีวิต
 
 นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ประธานคณะทำงานฝ่ายวิชาการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไทย อยู่ในระดับบี คือ มีการแพร่ระบาดในประเทศไทยแล้ว แต่จำกัดอยู่ในวงแคบ โดยพบผู้ป่วยเพียง 10-15 คน ต่อการแพร่ระบาดใน 1 กลุ่ม แต่คาดว่าในอีก 1 เดือน การแพร่ระบาดของไทยจะเข้าสู่ระดับซีแน่นอน คือ มีการแพร่ระบาดกระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งเราเห็นกรณีตัวอย่างทั้งในประเทศสหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่น ที่ในช่วงแรกมีการระบาดอยู่ในวงจำกัด และเวลาต่อมาเพียงแค่เดือนกว่าๆ ก็มีการแพร่กระจายไปทั่วแล้ว ซึ่งในช่วงเวลานี้จะต้องชะลอการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามไทยถือเป็นประเทศที่โชคดี เพราะมีเวลาในการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
 
 นพ.ทวี กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเร่งทำขณะนี้คือการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้กับประชาชน เพื่อให้มีการปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องและไม่ตื่นตระหนก เพราะแม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีความพร้อมในการรับมือหากเกิดการแพร่ระบาด ทั้งในเรื่องของยา โรงพยาบาล แต่ต้องดูแลเฉพาะผู้ที่มีอาการหนักและจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ส่วนผู้มีสุขภาพแข็งแรงแต่มีอาการโรคเล็กๆ น้อยๆ สามารถกินยาพาราเซตามอนและหายได้เอง จึงอยากให้ประชาชนสบายใจ เพราะเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่มีความรุนแรง ซึ่งในผู้ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 1,000 คน จะมีคนป่วยเพียงร้อยละ 10 และในจำนวนจะมีเสียชีวิต 1 ราย หรืออยู่ที่ร้อยละ 0.01 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว
 
นพ.ทวี กล่าวว่า การตรวจวิเคราะห์เชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ก็เช่นกัน จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนแผน เพราะจากเดิมเป็นการเก็บตัวอย่างเชื้อส่งตรวจเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดวงกว้างแล้ว อย่างเช่นที่ พัทยา และ กทม. ไม่จำเป็นต้องทำการส่งตรวจวิเคราะห์ในทุกรายแล้วรวมถึงผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรคเพราะไม่มีประโยชน์ เนื่องจากเชื้อได้แพร่กระจายไปแล้ว แต่จะทำการตรวจหาเชื้อเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเท่านั้นเพื่อนำมาวิเคราะห์วางแนวทางการรักษารวมทั้งดูการเปลี่ยนแปลงของตัวเชื้อเท่านั้น ซึ่งแม้แต่ในประเทศที่มีความพร้อมและทรัพยากรมากกว่าประเทศไทย อย่างที่ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ก็ไม่ได้ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจทุกรายแล้ว ไม่มีความจำเป็น  


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์