นครบาลตั้งพงษ์สันต์สอบส่วยพัฒน์พงศ์



ผบช.น.ตั้ง"พงษ์สันต์ เจียมอ่อน"ประธานสอบข้อเท็จจริงผู้ค้าพัฒน์พงศ์ร้องเรียนจ่ายส่วยตำรวจท้องที่ รองผบช.น. คาด 30 วันสรุปผลสอบสวน ขณะที่“อลงกรณ์”ประสานดีเอสไอทลายมาเฟียพัฒน์พงศ์ ลั่นทำผิดกลางเมืองไม่ได้ ระบุ หน่วยไหนเข้ากวาดล้างสินค้าละเมิดลิข สิทธิ์ก็ถูกล้อมกรอบ


(14พ.ค.) พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ในฐานะประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีกลุ่มผู้ค้าย่านพัฒน์พงษ์ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก เรียกรับส่วยในพื้นที่ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงถึงการร้องเรียนดังกล่าวแล้ว โดย พล.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.มอบให้ตนเป็นประธาน และมี พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รอง ผบก.น.8 ,พ.ต.ท.สุลักษณ์ แก้วไพจิตร์ รอง ผกก.จร.สน.ชนะสงคราม เป็นกรรมการร่วมกับพนักงานสอบสวนจำนวนหนึ่ง

โดยจะเรียกสอบปากคำผู้ค้าและผู้ประกอบการต่าง ๆ ในย่านพัฒน์พงศ์ว่า มีการจ่ายเงินอย่างไรบ้างและจ่ายให้ใครหรือจ่ายเงินให้กับทางตำรวจพื้นที่ตามที่มีการกล่าวหาจริงหรือไม่

จากนั้นจะนำรายละเอียดคำให้การประมวลเหตุเข้าด้วยกันและเรียกสอบสวนเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ กระทรวงพาณิชย์ที่เข้าทำการจับกุมต่อไป พร้อมขอข้อมูลผลการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และสินค้าอื่น ๆ ในพื้นที่ว่า มีจำนวนมากน้อยเพียงใดใช้ประกอบการสอบสวนจากนั้นจะนำเรื่องทั้งหมดเสนอต่อ ผบช.น.รับทราบใน 30 วัน ส่วนการที่ได้รับมอบให้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้นั้น โดยส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจอะไรเพราะผู้บังคับบัญชาการต้องตรวจสอบความประพฤติผู้ใต้บังคับบัญชาตามหน้าที่อยู่แล้ว

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ในคณะรัฐมนตรีเรื่องการเข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ย่านพัฒน์พงศ์ ว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร หลังจากที่ตนรายงานให้ครม.ทราบแล้ว ก็ไม่มีรัฐมนตรีคนใดวิจารณ์ มีเพียงนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทยเท่านั้น ที่ได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อาจรวมตัวกันเป็นเรื่องทางการเมือง แต่ตนคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการที่เรากวาดล้างสินค้าเหล่านี้ ทุกคนก็เห็นด้วยในนโยบายของรัฐบาลที่เป็นวาระแห่งชาติ

อย่างไรก็ตามตนได้แจ้งให้ครม.ทราบว่าได้มีการทบทวนแนวการทำงาน และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ชุดปฏิบัติการหยุดดำเนินการเพื่อรอผลการสอบสวน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

"เราพยายามให้ชุดปฏิบัติอดทนอดกลั้น ซึ่งความจริงก็มีการเข้าจับกุมทุกวัน แต่เฉพาะที่ย่านพัฒน์พงศ์เวลาที่มีหน่วยเข้าไปจับกุม ไม่ว่าจะเป็นจากหน่วยไหน แม้แต่หน่วยกองบังคับการปรามปราบอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ก็จะโดนล้อมกรอบทุกครั้ง ซึ่งผมยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อความรุนแรง โดยเราได้เบาะแสแล้วว่าคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้า และปิดไฟ ล้อมกรอบเจ้าหน้าที่เป็นใคร ซึ่งช่วงที่เข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมาย มีการแสดงตน และรวบรวมของกลางต่าง ๆ และคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อส่งสน.บางรักตามแนวปกติ

แต่ปรากฏว่ามีนักเลงคุมซอย ซึ่งมีค่อนข้างมากปิดไฟ ยิงปืน ขณะนี้ให้ตำรวจไปล่าตัวอยู่ ย่านนี้เป็นย่านที่มีมาเฟียอิทธิพล ซึ่งวันนี้ผมจะประสานดีเอสไอเพื่อเข้าไปทลายขบวนการมาเฟีย เพราะจะมาทำผิดกฎหมายกลางเมืองได้อย่างไร"


นายอลงกรณ์ กล่าวและว่า ที่ย่านพัฒน์พงษ์มี 171 แผง ในจำนวนนี้มีถึง 153 แผงที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า ซึ่งทำลายอุตสาหกรรมของประเทศไทย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์